การเคหะฯพลิกโฉมอาคารเช่าที่รับคืนจากเอกชน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ตอบโจทย์ความยั่งยืน 3 มิติ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ภายหลังจากการเคหะแห่งชาติได้เร่งดำเนินการรับคืนอาคารเช่าจากภาคเอกชนและนำกลับมาบริหารจัดการเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายและยกระดับคุณภาพชีวิตลูกบ้าน ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกบ้าน โดยเฉพาะใน 2 โครงการนำร่องที่รับคืนอาคารเช่าจากเอกชน ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนนวมินทร์ และโครงการเคหะชุมชนออเงิน ซึ่งลูกบ้านล้วนพึงพอใจกับการบริหารจัดการของการเคหะแห่งชาติ
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า อาคารเช่าที่การเคหะฯรับคืนมาจากบริษัทเอกชนได้นำมาจัดระเบียบการพักอาศัยให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดสวนสาธารณะ ซ่อมแซมและทาสีอาคาร ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพิ่มแสงไฟส่องสว่าง และมี รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้โครงการอาคารเช่าน่าอยู่อาศัย เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายชัยยุทธ นวลสุวรรณ อายุ 51 ปี อาชีพทนายความ ประธานกลุ่มจิตอาสาร่วมใจพัฒนาและลูกบ้านโครงการเคหะชุมชนนวมินทร์ กล่าวว่า หลังจากมาทำสัญญาเช่ากับการเคหะฯโดยตรง รู้สึกว่ามีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เพราะการเคหะฯเข้ามาปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในโครงการ ทั้งการเพิ่มไฟส่องสว่าง เปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมแซมท่อน้ำ เปลี่ยนฝาท่อระบายน้ำที่แตกหัก ชำรุด ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายหากเดินตกลงไปในท่อน้ำ และจัดให้มี รปภ.ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงช่วยเหลือแก้ไขให้ลูกบ้านฟรีโดยไม่คิดค่าแรง ทั้งการซ่อมแซมภายในห้องพักอาศัยและภายในโครงการฯ เช่น เปลี่ยนสุขภัณฑ์ กลอนประตู แก้ปัญหาน้ำรั่วซึม
นอกจากนี้ การเคหะฯยังได้ประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในชุมชน และอยู่ระหว่างการประสานงานกับสำนักงานเขตบึงกุ่มให้มาขุดลอกคลอง กำจัดผักตบชวาที่อยู่ภายในโครงการ อีกทั้งยังจัดให้มีบริการตัดผมฟรี แจกอาหารกล่อง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ลูกบ้านในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ นอกเหนือจากกการลดค่าเช่าให้เหลือเดือนละ 990 บาท จนถึงเดือนมีนาคม 2565
ขณะที่นางสาวพรนภา จำนงค์ไทย อายุ 47 ปี พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกบ้านโครงการเคหะชุมชนนวมินทร์ บอกว่า ตั้งแต่การเคหะฯเข้ามาดูแล ทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความปลอดภัย มีการตั้งไลน์กลุ่มลูกบ้านทำให้สามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว โดยมีจิตอาสาช่วยประสานกับการเคหะฯให้ความช่วยเหลือลูกบ้านได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้วยการลดค่าเช่าลง ซึ่งแม้ว่าตนเองจะเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากการะแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับทุกคน
นายทวีพงษ์ กล่าวว่า เสียงสะท้อนของลูกบ้านน่าจะเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า ลูกบ้านที่พักอาศัยในอาคารเช่าที่การเคหะฯรับคืนมาล้วนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะการเคหะฯให้ความสำคัญกับทุกคน สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทั้งผู้มีรายได้น้อย ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบาง และคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ด้วยการหากิจกรรมให้ทำยามว่าง
อีกทั้งยังมีศูนย์สุขภาพชุมชนดูแลสุขภาพลูกบ้าน ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล หากมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย หรือตรวจสุขภาพในเบื้องต้น โดยชาวชุมชนที่ได้รับการอบรมการตรวจ วัดไข้และความดันจากศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่
นอกจากนี้ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 (แปลง G) เป็นอีกโครงการหนึ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้สูงอายุ เพราะบนชั้นที่ 29 ของอาคารถูกเนรมิตให้เป็นแปลงผักสวนลอยฟ้า มีอาสาสมัครผู้สูงอายุเป็นกำลังสำคัญในการดูแลแปลงผัก ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้แล้ว ยังสร้างความสุขที่ตนเองมีคุณค่า สามารถสร้างประโยชน์ให้สังคมอีกด้วย
“คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สังคมที่น่าอยู่ภายในโครงการจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้รับความร่วมมือจากลูกบ้าน ซึ่งมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการอยู่ร่วมกันในชุมชน โดยมีเป้าหมายยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจลูกบ้านจะเสียค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ถูกกว่าเช่ากับเอกชน ด้านสังคมมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โดยลูกบ้านมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมมีการจัดการขยะ และ น้ำเสียอย่างมีมาตรฐาน”ผู้ว่าการการเคหะฯ กล่าว
ด้าน นายสมชาย ชาตะรูปะ ประธานกลุ่มเกษตรอาสาพอเพียง โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 (แปลง G) กล่าวว่า กลุ่มเกษตรฯ มีสมาชิกจำนวน 40 คน อายุระหว่าง 70-80 ปี ทุกคนจะหมุนเวียนกันมาดูแลพืชผักสวนครัว เช่น กะเพรา โหระพา พริกขี้หนู มะนาว ถั่วพู ถั่วฝักยาวสีม่วง ซึ่งผลผลิตที่ได้รับจะกันไว้บริโภคส่วนหนึ่ง และนำไปขายส่วนหนึ่ง รายได้ 60% จะให้คนดูแล ส่วนอีก 40% ไว้สำหรับซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกต่อไป
ทั้งนี้ กิจกรรมการดูแลสวนผักลอยฟ้าเป็นการทำงานที่ไม่เหมือนกับที่อื่น เป็นการทำงานร่วมกับชาวชุมชนในพื้นที่ ทำให้ชาวชุมชนลุกขึ้นมาดูแลตนเอง ดูแลสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งบางคนสามารถต่อยอดเป็นอาชีพเสริมได้ โดยจะเน้นการสร้างอาชีพให้ลูกบ้าน และจะใช้โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 (แปลง G) เป็นต้นแบบในการพัฒนาโครงการอื่น ๆ ของการเคหะฯต่อไป
รอยยิ้มของลูกบ้าน คือความสุขและความภาคภูมิใจของพวกเราชาวการเคหะแห่งชาติ” ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าวปิดท้าย
สำหรับประชาชนที่ต้องการมาพักอาศัยในโครงการอาคารเช่าของการเคหะแห่งชาติ สามารถมาทำสัญญาเช่าโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติได้ที่ศูนย์บริการประชาชนโครงการอาคารเช่าการเคหะแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในพื้นที่ที่มีโครงการตั้งอยู่ หรือสอบถาม Call Center 1615