ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ขยับตัวมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อประกาศความพร้อมสำหรับการ Rebound รอบใหม่ ตั้งแต่การเปิดแผนการลงทุนในปี 2565 การประกาศความพร้อมในการขยายสู่ธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง ล่าสุดได้เปิดหลังบ้านโชว์ระบบปฏิบัติการที่นำมาใช้เป็นอาวุธเด็ดสำหรับการสู้รบตบมือในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย
“ผู้ประกอบการคงจะรอดูผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนก่อน โดยในครึ่งแรกของปี 2565 จึงยังเป็นช่วงที่ต้อง Wait and see ถ้าโอมิครอนไม่มีผลร้ายถึงชีวิต หากเกิดการระบาดระลอกใหม่ขึ้นก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อภาคธุรกิจ ถ้าผ่านตรงนั้นมาได้ก็จะเห็นภาพของการฟื้นตัวที่ชัดเจนในครึ่งหลังของปี 2565 ขณะเดียวกันเราเริ่มเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเกิดจากการผ่อนคลายมาตรการและการเปิดประเทศ ยอดขายเริ่มกลับเข้ามาไม่ว่าจะเป็น ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม
รวมถึงลูกค้าต่างประเทศที่อยู่ในประเทศหรือมีเงินจากการลงทุนที่ยังอยู่ในประเทศ ได้เข้ามาลงทุนซื้อบิ๊กล็อตมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการเริ่มมีความมั่นใจในการเปิดโครงการมากขึ้น ถ้าสามารถผ่านโอมิครอนมิครอนไปได้ จะเห็นภาพการฟื้นตัวที่ชัดเจนและเป็นการฟื้นตัวในระยะยาว” นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็น
ในครึ่งแรกของปี 2565 ผู้ประกอบการอสังหาฯจะยังคงอยู่ในโหมดของการเตรียมความพร้อม และเตรียมตัวที่จะ Take off ในครึ่งปีหลัง เช่นเดียวกับอนันดาในครึ่งปีแรกจะเร่งการขายโครงการพร้อมเข้าอยู่เป็นหลัก และจะเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2565 ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับปรุงระบบปฏิบัติการภายในเพื่อรองรับการ Rebound รอบใหม่ โดยนำข้อมูลและเทคโนโลยี่ที่หลากหลายมารวมอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกันกลายเป็นระบบทำงานที่มีประสิทธิภาพทุกคนสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปได้พร้อมๆ กัน
“ระบบปฏิบัติการในธุรกิจอสังหาฯ กำลังจะเปลี่ยนไป จากเมื่อ 10 ปีที่แล้วบริษัทที่จะขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจจะต้องทำทุกอย่างเพื่อจะชนะคนอื่น แต่วันนี้ไม่ใช่แล้วผู้ที่จะชนะคนอื่นจะต้องไม่ทำทุกอย่าง แต่จะต้อง Collaborate กับสิ่งที่คนอื่นมีเข้ามาในองค์กร ที่เรียกว่าการ Connect the dots ซึ่งโควิดได้เป็นตัวเร่งให้การพัฒนาระบบปฏิบัติการในองค์กรปรับเปลี่ยนไปเร็วขึ้นเป็น 10-20 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิวัติระบบการทำงานจาก Covid Disruption”
นายประเสริฐ กล่าวขยายความว่า ในสมัยก่อนในแต่ละองค์กรจะมีระดับชั้นของการบริหารจัดการตั้งแต่ CEO ไปจนถึงผู้ปฏิบัติการอาจจะมีถึง 5-6 ลำดับชั้น และยังแบ่งเป็นฝ่ายต่างๆ หลายฝ่ายที่เรียกกันว่าระบบงานแบบไซโล วันนี้อนันดาได้เปลี่ยนเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกันหมด ทำให้ทุกเสียงของลูกค้า CEO จะได้รับฟังหมด สามารถจะแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้พร้อมกันทั้งหมดตั้งแต่ CEO จนถึงผู้ปฏิบัติงาน ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็ว สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากขึ้น ภายใต้แกนหลักสำคัญ คือ
Ananda Focus จะเป็นแพลตฟอร์มกำหนดทิศทาง กลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัททั้งหมดทั้งระยะสั้น ระยะยาว เป็นการวางแผนงาน ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นงานบริหารงานขาย งานบริหารการก่อสร้าง งานบริหารงานบริการลูกค้ามาร่วมกันจัดทำแผน นำเสนอผลงาน และมีการติดตามรายสัปดาห์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทั้งรายได้ และความพึงพอใจของลูกค้า
Ananda Sure คือ Operation excellence เพื่อสร้างคุณภาพสินค้าและบริการ เพิ่มมูลค่าให้กับโครงการในเครืออนันดาในะระยะยาว ถือเป็น Backbone สำคัญในการจัดการโครงการกว่า 48 โครงการ มูลค่ากว่าหนึ่งแสนล้านบาท เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ (Product & Service Quality) ซึ่งจะทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป
Ananda Clear คือ การดูแลระบบจัดการตั้งแต่การเตรียมห้องพักให้พร้อม ตรวจรายละเอียดทุกอย่างภายในห้องพักก่อนส่งมอบแก่ลูกค้า
Ananda Quick คือ กระบวนการวัดประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน โดยนำข้อมูลในทุกจุดมาวิเคราะห์ เพื่อใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง
Ananda PMO คือการควบคุมงานระดับโปรเจ็กต์ตั้งแต่ต้นจนจบ
กระบวนการทั้งหมดจะเป็นการทำงานร่วมกันของทั้งองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุคลากร เทคโนโลยี และข้อมูล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด โดยมี Ananda Sure เป็นหัวใจสำคัญที่จะเข้ามายกระดับคุณภาพการบริหารจัดการและบริการ ครอบคลุมการดูแลลูกค้าตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาตลอดจนทุกช่วงเวลาของการอยู่อาศัย เพื่อนำไปสู่ความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการดูแลลูกค้า (Operation Excellence) ในทุกๆ ด้าน
“Ananda Sure” คือ ทุกเสียงสะท้อนของลูกค้าในทุกๆ การสัมผัสตั้งแต่ก่อนซื้อจนกระทั่งหลังซื้อ โดยจะถูกส่งไปถึงตั้งแต่ระดับปฏิบัติการจนถึงผู้บริหารระดับ CEO ด้วยระบบการจัดการทั้งด้านข้อมูลที่ผสมผสานด้วยเทคโนโลยี เพื่อที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารได้อย่างชัดเจน ช่วยประมวลผลในการสร้างมาตรฐานใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีกว่าเดิม ซึ่งปฏิบัติการนี้สามารถนำเสนอบริการและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินที่มีอยู่ ส่งผลดีให้กับลูกค้าและอนันดาในระยะยาวด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ Ananda Sure เป็นระบบการทำงานที่พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าและบริการของอนันดาก่อนส่งมอบให้กับลูกค้า โดยนำมาใช้ในทุกกระบวนการตั้งแต่การเลือกซื้อคอนโดหรือบ้านตลอดไปจนถึงการเข้าอยู่อาศัย เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับการอยู่อาศัยในทุกโครงการของอนันดาจนนำไปสู่การแนะนำและบอกต่อให้กับคนใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการวัดและประเมินผลจากการนำ Ananda Sure มาใช้ โดยสามารถวัดค่าความพึงพอใจในการให้บริการ (CSAT) เพิ่มขึ้น 6% จากเดิม 88.0% เป็น 93.4% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอนันดาฯ มุ่งมั่นให้ความใส่ใจต่อการให้บริการเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ และจะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้มาตรฐานของ Ananda Sure
“ทั้งหมดนี้เป็นการยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการและบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย ความอุ่นใจในการใช้ชีวิต โดยอนันดาฯ พร้อมก้าวสู่วิถีแห่ง New Normal Property Revolution และเชื่อว่าปฏิบัติการอนันดาชัวร์จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้การลงทุนในระยะยาวกับลูกค้าต่อไปในอนาคตได้อย่างแน่นอน” คุณประเสริฐกล่าวทิ้งท้าย
