REIC เปิดซัพพลายบ้าน-คอนโดมือสองไตรมาส 2/64 มียอดประกาศขายผ่านออนไลน์กว่า 1.14 แสนหน่วย มูลค่ารวม 8.18 แสนล้าน เผยบ้านเดี่ยว-คอนโดครองตลาดมือสองรวม 70% ขณะที่ระดับราคา 2-5 ล้านเทขายมากสุด ชี้สต๊อกบ้านมือใหม่+มือสองรวมกันทะลุ 4 แสนหน่วย มูลค่ารวม 2 ล้านล้าน แนะขึ้นโครงการใหม่ต้องเช็คซัพพลายทั้ง 2 ตลาด
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ศูนย์ข้อมูลได้รวบรวมข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ จากการประกาศขายผ่านเว็บไซต์ที่มีปริมาณการประกาศขายเป็นจำนวนมาก และข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองของสถาบันการเงินของรัฐ บริษัทบริหารสินทรัพย์ภาครัฐ และกรมบังคับคดี ฯลฯ ที่ประกาศขายผ่านเว็บไซต์ตลาดนัดบ้านมือสอง (www.taladnudbaan.com) เพื่อให้ได้ข้อมูลอุปทานที่อยู่อาศัยมือสองที่ครอบคลุมในตลาดมากที่สุด
จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้แสดงให้เห็นว่า ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองเป็นตลาดที่มีความสำคัญและไม่ควรมองข้าม โดยภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศในไตรมาส 2 ปี 2564 (เม.ย.-มิย.) มีจำนวนหน่วยที่ประกาศขายเฉลี่ยเดือนละ 114,668 หน่วย ถือว่าทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีจำนวนหน่วยเฉลี่ยเดือนละ 114,794 หน่วย แต่มูลค่าที่ประกาศขายเฉลี่ยเดือนละ 818,939 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 749,651 ล้านบาท
บ้านเดี่ยว-คอนโดครองตลาดมือสอง
สำหรับประเภทที่อยู่อาศัยมือสองที่มีจำนวนหน่วยประกาศขายมากที่สุดในไตรมาส 2 ปี 2564 ประกอบด้วย
1.บ้านเดี่ยว มีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือน 42,187 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 36.8
2.ห้องชุด มีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือน 38,523 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 33.6
3.ทาวน์เฮ้าส์ มีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือน 28,329 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 24.7
4.อาคารพาณิชย์ มีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือน 3,813 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 3.3
5.บ้านแฝด มีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือน 1,816 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 1.6
ทั้งนี้ บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด มีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ ห้องชุด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ มีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้น
สำหรับประเภทที่อยู่อาศัยมือสองที่มีมูลค่ามากที่สุดในไตรมาส 2 ปี 2564 ประกอบด้วย
1.บ้านเดี่ยว มีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือน 415,815 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50.8
2.ห้องชุด มีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือน 283,782 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34.6
3.ทาวน์เฮ้าส์ มีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือน 92,063 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.2
4.อาคารพาณิชย์ มีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือน 21,144 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.6
5.บ้านแฝด มีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือน 6,135 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.7
ทั้งนี้ บ้านเดี่ยว ห้องชุด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ มีมูลค่าประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ บ้านแฝด มีมูลค่าประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนลดลง
กทม.แชมป์สต๊อกบ้านมือสองเพียบ
ในด้านทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยมือสองที่มีการประกาศขายในไตรมาส 2 ปี 2564 มีจำนวนหน่วยที่ประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุด 10 อันดับแรก พบว่า กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 1 จำนวน 48,331 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 42.1 ส่วนจังหวัดที่มีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุดอันดับที่ 2-10 ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง และสุราษฎร์ธานี ตามลำดับ โดยแต่ละจังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยที่ประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนไม่ถึงร้อยละ 10
ส่วนทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยมือสองที่มีมูลค่าประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนสูงสุด 10 อันดับแรก พบว่า กรุงเทพมหานคร มีมูลค่าประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนเป็นอันดับ 1 ที่ 482,117 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 58.9 ส่วนจังหวัดที่มีมูลค่าประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุด สำหรับอันดับที่ 2-10 ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี นนทบุรี สมุทรปราการ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ ปทุมธานี สุราษฎร์ธานี และเพชรบุรี ตามลำดับ โดยแต่ละจังหวัดมีสัดส่วนมูลค่าที่ประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนไม่ถึงร้อยละ 8
ราคา 2-5 ล้าน ประกาศขายมากสุด
ขณะที่ระดับราคาที่อยู่อาศัยมือสองทุกประเภทมีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุดคือ ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือน 21,099 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 18.4 อันดับ 2 คือ ระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือน 18,057 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 15.7 และลำดับที่ 3 คือ ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือน 17,386 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 15.2 ทั้งนี้ ส่วนระดับราคาที่มีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนน้อยที่สุดคือ ระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยเฉลี่ย 7,043 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 6.1 เท่านั้น
สต๊อกมือ 1 + มือ 2 ทะลุ 4 แสนหน่วย
ดร.วิชัย ให้ข้อสังเกตไว้ว่า การที่มีจำนวนหน่วยบ้านมือสองจำนวนกว่า 110,000 หน่วยมีมูลค่ากว่า 800,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว ห้องชุด และทาวน์เฮ้าส์ และหากนับรวมกับหน่วยเหลือขายของบ้านใหม่อีกกว่า 290,000 หน่วย มูลค่ากว่า 1.2 ล้านล้านบาทแล้ว จะเห็นได้ว่าในขณะนี้มีบ้านรอขายจำนวนหน่วยรวมกันไม่น้อยกว่า 400,000 หน่วย และมีมูลค่ารวมมากกว่า 2 ล้านล้านบาท
นับเป็นข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นปริมาณอุปทานที่อยู่อาศัยในตลาดให้ผู้ประกอบการได้รับทราบถึงสถานการณ์แข่งขันที่เข้มข้นอย่างมากจากนี้ไป เพราะนอกจากผู้ประกอบการต้องแข่งขันกันเองแล้ว ผู้ประกอบการยังต้องแข่งขันกับผู้ขายที่เคยเป็นลูกค้าของตนอีกด้วย ซึ่งบ้านมือสองนับได้ว่าเป็นสินค้าทดแทนที่สำคัญในตลาดที่อยู่อาศัย
ดังนั้นการดำเนินการโครงการใหม่ๆ คงจะต้องทำการสำรวจอุปทานของทั้ง 2 ตลาดควบคู่กัน เพื่อให้มั่นใจว่าการเปิดโครงการใหม่จะมีอุปสงค์ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยใหม่ และสามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้ตรงประเด็น แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจำนวนบ้านมือสองก็ได้สะท้อนโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจของตลาดบ้านมือสองอีกด้วยเช่นกัน