นับว่าสร้างบรรยากาศในเชิงบวกได้มากทีเดียวกับการเดินหน้าเปิดประเทศของรัฐบาล พร้อมๆ กับการคลายล็อคมาตรการต่างๆ ที่บังคับใช้ในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าผลที่ตามมาจะยังไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ ณ เวลานี้ต้องบอกว่ากิจกรรมในตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นไปอย่างคึกคักทั้งการเปิดแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเร่งระบายสต๊อกเก่า และการส่งโครงการใหม่ลงตลาดเพื่อช่วงชิงกำลังในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีหลังจากที่อั้นกันมาพักใหญ่ๆ
Property Mentor ขอพาไปอัพเดตโครงการใหม่ๆ ที่ถูกส่งลงมาลุยตลาดในช่วงนี้กันครับ
เริ่มต้นที่ค่าย เสนา ฮันคิว ฮันชิน ได้เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด “เสนาคิทท์ บีทีเอส สะพานใหม่” คอนโดราคาต่ำล้านรองรับกับมาตรการบ้านล้านหลังโครงการปล่อยกู้ดอกเบี้ยถูกของธนาคารอาคารสงเคราะห์
เสนาคิทท์ บีทีเอส สะพานใหม่ เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรว์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร มูลค่าโครงการ 610 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 ถนนเทพรักษ์ บนพื้นที่กว่า 4 ไร่เศษ จำนวน 497 ยูนิต ขนาด 1-2 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 22-38 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 990,000 บาท จะเปิด Soft Opening ในวันที่ 6-7 พฤศจิกายนนี้
ขณะที่ เอพี ไทยแลนด์ หลังจากเปิดโครงการ LIFE พระราม 4-อโศก ไปเมื่อกลางเดือนตุลาคม ล่าสุดส่งคอนโดใหม่ลุยตลาดอีก 1 โครงการ ภายใต้แบรนด์ แอสปาย ที่มีการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ เพื่อขยายฐานคอนโดในตลาด mass product มัดใจลูกค้าคนรุ่นใหม่ ประเดิมโครงการแรก แอสปาย รัตนาธิเบศร์ เวสต์ตัน มูลค่า 1,600 ล้านบาท
ตลาดคอนโดในไตรมาส 4 ปี 2564 เอพีมองเห็นสัญญาณที่ดีของดีมานด์ลูกค้าที่ทยอยฟื้นตัวตามปัจจัยบวก ทั้งจากยอดฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และล่าสุดจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV นอกจากจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการซื้อให้กับลูกค้าแล้ว ยังจะช่วยกระตุ้นให้บรรยากาศการซื้อขายอสังหาฯ กลับมาคึกคัก” นางสาวกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าว
สำหรับคอนโด แอสปาย รัตนาธิเบศร์ เวสต์ตัน เป็นคอนโดในคลาส C+ สูง 25 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 854 ยูนิต บนที่ดินกว่า 3 ไร่ ติดถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีบางกระสอ ระยะ 200 เมตร ประกอบด้วย ห้องชุดดีไซน์พิเศษ 1 ห้องนอน ขนาด 30.50 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท (52,000 บาท/ตร.ม.) โดยจะเปิดให้จองรอบพิเศษในวันที่ 6-7 พฤศจิกายนนี้เช่นกัน
ด้าน เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมเปิดโครงการใหม่ “เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว” คอนโด Pet-Friendly Residences สำหรับคนรักสัตว์ ในราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท โดยนางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า โครงการเมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว มีมูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท ที่เต็มไปด้วยฟังก์ชันตอบโจทย์ชีวิตยุค New Normal
เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 45 ชั้น เนื้อที่กว่า 3 ไร่ อยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธิน ระยะ 230 เมตร จำนวน 741 ยูนิต มีห้องแต่งครบพร้อมอยู่ (Fully Finished) ให้เลือก 5 รูปแบบ พื้นที่ตั้งแต่ 23.7-49.6 ตร.ม. เหมาะทั้งการอยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน ในราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท ถือเป็นราคาดีที่สุดในย่านลาดพร้าว จะเปิดจอง Online Booking ผ่านทาง https://condomajor.livinginsider.com ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.64 เป็นต้นไป
ย้านมาที่ฝั่งบ้านแนวราบกันบ้างมีหลายโครงการที่เปิดตัวในช่วงนี้ เริ่มที่ค่ายศุภาลัยเตรียมเปิดตัวบ้านหรูอลังการแบรนด์ใหม่ล่าสุด “เอเลแกนซ์” โดยนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 มีสัญญาณฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากการที่ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในประเทศและเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการ LTV เป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับ ตลอดทั้งปียอดขายโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความมั่นใจสำหรับการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ ภายใต้แบรนด์ใหม่ล่าสุด “เอเลแกนซ์” ปักหมุดทำเลแรกบนถนนบรมราชชนนี มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท
โครงการ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรม Modern Colonial เนื้อที่โครงการ 34 ไร่ จำนวน 86 แปลง เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น บนที่ดินขนาด 100 ตร.ว.ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 20-30 ล้านบาท มี 3 แบบบ้านให้เลือก ได้แก่ ศุภศิรินทร์ พื้นที่ 480 ตร.ม. 4 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ศุภจรินทร์ พื้นที่ 399 ตร.ม. 2 ห้องนอนมาสเตอร์ 2 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ และศุภศรัณย์ พื้นที่ 380 ตร.ม. 2 ห้องนอนมาสเตอร์ 3 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ โดยจะเปิดรอบ Soft Opening ในวันที่ 6-7 พฤศจิกายนนี้
ทางด้านบริษัทรายเล็กๆ อย่าง เอเบิ้ล แอสเสท กรุ๊ป ที่มีพื้นเพการพัฒนาโครงการอยู่ในภูเก็ตและหัวหิน ก่อนที่จะมาบุกตลาดคอนโดในกทม.เมื่อปี 2558 และได้ปักธงพัฒนาบ้านแนวราบในพื้นที่ กรุงเทพ-ปริมณฑล มาตั้งแต่กลางปี 2564 ล่าสุดเตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวซูเปอร์ลักชัวรี Artique รามคำแหง เจาะกลุ่ม Niche Market มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ท้าชนกับบิ๊กอสังหาฯ
นายกษิดิศ มโนภินิเวศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเบิ้ล แอสเสท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจึงได้ปรับแผนการลงทุนหันมาบุกตลาดแนวราบแทนในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล มีทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวระดับราคาปานกลางไปจนถึงลักชัวรี่ ประเดิมโครงการแรกไปเมื่อกลางปี 2564 ในย่านถนนรังสิตเลียบคลอง 3 ใช้ชื่อโครงการว่า “บ้านแอสโทเรีย รังสิต” เนื้อที่กว่า 15 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านแฝด 2 จำนวน 112 ยูนิต ในราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดขายเฟสที่ 2
ส่วนโครงการล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ใช้ชื่อโครงการว่า “Artique รามคำแหง” ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 164 บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ ออกแบบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น ลักชัวรี่ มีจำนวนบ้านแค่ 21 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 16-18 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 380 ล้านบาท และวางแผนขยายการลงทุนครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยปี 2565 จะเปิดตัวโครงการใหม่ 4-5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ 1 โครงการ ที่เหลือจะเป็นบ้านแนวราบอีก 3-4 โครงการ
ส่วนพี่ใหญ่อย่างแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ก็ยังปล่อยโครงการบ้านแนวราบออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการใหม่ล่าสุด ได้แก่ indy 2 บางนา-รามคำแหง 2 เนื้อที่โครงการขนาด 49 ไร่ จำนวน 489 แปลง เป็นบ้านทาวน์โฮมรุ่นใหม่ล่าสุดมีให้เลือก 3 แบบ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 89 ตารางเมตร ขนาดที่ดินตั้งแต่ 18 ตารางวาขึ้นไป ในราคา 3-6 ล้านบาท
ด้าน ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ก็เตรียมเปิดตัวทาวน์โฮมแบรนด์ใหม่ ไลโอ เพรสทีจ (Lio Prestige) อย่างเป็นทางการในอีกวันสองวันนี้ โดยนายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ไลโอ เพรสทีจจะเป็นทาวน์โฮมแบรนด์ใหม่ในระดับราคา 2.7-3 ล้านบาท เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่ม real demand ของบริษัทให้กว้างขึ้น โครงการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสในสไตล์ French Colonial ประเดิมโครงการแรกไลโอ เพรสทีจ รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต เป็นพรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น บนพื้นที่ 17 ไร่ จำนวน 165 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท
นอกจากการลงทุนในประเทศแล้ว เอสซี แอสเสท ยังใช้จังหวะนี้โดดเข้าไปลงทุนอสังหาฯในสหรัฐเพิ่มเติม โดย SC Alpha Inc. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเอสซี แอสเสท ได้เตรียมเม็ดเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับขยายพอร์ตลงทุนอสังหาฯในสหรัฐ ใน 3 ปี ล่าสุดได้เข้าไปลงทุนในกองทุน PRM Fund V จำนวน 7.5 ล้านเหรียญ โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในอพาร์ทเมนท์กว่า 1,500 ยูนิต ใน 5 เมือง
นายอภิสิทธิ์ ลิ้มล้อมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ SC Alpha Inc. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าไปลงทุนซื้ออพาร์ทเมนท์ 2 อาคารในเมืองบอสตัน ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 93% หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาเริ่มคลี่คลาย และเมื่อรวมกับการลงทุนในกองทุน PRM Fund V ปัจจุบันบริษัทมีการใช้เงินลงทุนสะสมไปแล้วจำนวน 32 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดหวังผลตอบแทนการลงทุน (Internal Rate of Return: IRR) เฉลี่ยประมาณ 23.72% ต่อปี ภายในระยะเวลาการลงทุนประมาณ 5 ปี
เชื่อว่าภายใน 2 เดือนสุดท้ายของปี 2564 จะยังมีโครงการใหม่ๆ ที่ชะลอแผนการเปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงที่โควิด-19 ระบาดรุนแรง ออกมาอีกมากมายหลายโครงการ เพื่อเร่งสปีดยอดขายในช่วงเวลาที่เหลือให้ได้ตามเป้าหมายหรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องใกล้เคียง งานนี้ใครมีทีเด็ดอะไรรับรองว่าใส่กันแบบเต็มๆ แน่นอน