fbpx
AW KV Pruksa1

พฤกษา เรียลเอสเตท เกาะ 3 เมกะเทรนด์ สร้างการเติบโตยั่งยืน

หลังการปรับองค์กรครั้งใหญ่ของพฤกษา เรียลเอสเตท จาก Operating Company เป็น Thinking Company พร้อมกับการให้ความสำคัญกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยการนำข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคมาวิเคราะห์เจาะลึกโดยการทำ Data Analytics เพื่อให้รู้ถึง Customer Insight และนำมาพัฒนาตัวโปรดักต์ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละเซ็กเมนต์ได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

ล่าสุด พฤกษา เรียลเอสเตทกำลังก้าวสู่ สเต็ป ต่อไปสู่การทำตลาดและการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “พฤกษาใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต Tomorrow. Reimagined.”

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาที่ไปของแคมเปญล่าสุด ว่า การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างมาตรฐานในการใช้ชีวิต รูปแบบใหม่อย่างไม่เคยมีมาก่อน พฤกษาจึงใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย เตรียมความพร้อมให้ผู้บริโภคสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลก โดยพิจารณาจากเมกะเทรนด์ที่มีผล ต่อการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก 3 ด้านหลัก ๆ ได้แก่

1) Health & Wellness Redefined สร้างนิยามใหม่ในการดูแลสุขภาพให้ลูกบ้านอย่างครบวงจร

2) Lifestyle Disruption สร้างวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการเปลี่ยนแปลงด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาสร้างความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย

3) Sustainable Development สร้างความยั่งยืนทั้งมิติของสิ่งแวดล้อม สังคม และการอยู่อาศัย เพื่อให้สามารถส่งต่อสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไปได้ในอนาคต

จาก 3 เมกะเทรนด์ข้างต้น เป็นที่มาของแนวคิด “พฤกษาใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต Tomorrow. Reimagined.” เพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจของแบรนด์พฤกษา และถือเป็นการให้คำมั่นสัญญาว่า พฤกษาไม่หยุดที่จะคิดสร้างสรรค์ และออกแบบที่พักอาศัยเพื่อการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น สะดวกสบายและเชื่อมโยงกันมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ให้ความยืดหยุ่นที่รองรับการปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองความต้องการในอนาคต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของลูกบ้านและสมาชิกทุกคนในครอบครัว

พฤกษาxวิมุตปูพรม Health Care Center

พฤกษาสำหรับเทรนด์ด้านสุขภาพ หนึ่งในความร่วมมือที่เกิดขึ้นแล้วอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ ความร่วมมือกับ “โรงพยาบาลวิมุต ในการมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการเข้ารับบริการสำหรับลูกบ้านพฤกษาโดยเฉพาะ การก่อสร้าง ViMUT Health Care Center ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในปีนี้ โดยจะเป็นศูนย์สุขภาพที่ประกอบไปด้วยศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และคลินิกดูแลประชาชน เพื่อให้บริการลูกบ้านในโซน Pruksa Avenue นำร่องที่ บางนา และจะขยายไปที่ Pruksa Avenue รังสิต รวมถึง คอนโดมิเนียมที่ประดิพัทธ์ ก็มีแผนจะทำเป็น ViMUT Health Care Center เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังได้นำแนวคิดด้านสุขภาพเข้ามาเสริมในการออกแบบบ้าน และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการต่างๆ ให้เป็น Safety Function เช่น โครงการ พาทิโอ รัชโยธิน และโครงการระดับลักชัวรี่อย่าง เดอะ ปาล์ม เพื่อรองรับลูกค้าในทุกกลุ่มรวมถึงผู้สูงอายุ (Universal Design)

บ้านปรับเปลี่ยน Function ได้ตาม Lifestyle


“สำหรับกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อรองรับวิถีที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค (Lifestyle Disruption) เรามีหัวหอกอย่าง Pruksa Next นำทีมโดยนายสมภพ สันติวัฒนกุล Head of Innovation & Strategy ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างยั่งยืน และนำไปสู่การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ โดยมีผลงานที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานจริงแล้ว เช่น

Pruksa Flex นวัตกรรมผนังแบบใหม่ที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยในบ้านได้ตามความต้องการ โดยทดลองใช้ใน 2 โครงการ คือบ้านพฤกษา ประชาอุทิศ และบ้านพฤกษา รังสิต-ธัญบุรี ถ้าได้รับการตอบรับที่ดีก็จะขยายไปในโครงการอื่นต่อไป

ASKURP บริการเพื่อช่วยให้การแลกเปลี่ยน ซื้อขายบ้านเป็นเรื่องที่ง่าย และรวดเร็ว เป็นเสมือนที่ปรึกษาส่วนตัว จนกว่าลูกค้าจะสามารถขายบ้านหลังเก่าและมาซื้อโครงการของพฤกษาได้ ปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการในการขายอสังหาริมทรัพย์แล้วกว่า 100 ราย”

พัฒนาอสังหาฯควบคู่ดูแลสังคมให้ยั่งยืน

ด้านนางสาวอังคณา ลิขิตจรรยากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาดองค์กรกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในด้านการรองรับความเปลี่ยนไปของสิ่งแวดล้อมและสังคม อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่พฤกษาให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือความใส่ใจด้านความยั่งยืน (Sustainable Development) ผ่านการดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่

1. ใส่ใจคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี (Heart to Home) เพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า

2. ใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Heart to Earth) ในทุกกระบวนการผลิต เพื่อลดโลกร้อน เช่น การลดขยะพลาสติก โดยร่วมกับโครงการ วน@ Pruksa โครงการ “คลองสวยน้ำใส” ซึ่งเป็นโครงการเพื่อช่วยรักษาและฟื้นฟูคลองในชุมชนรอบโครงการของพฤกษา

3.ใส่ใจสังคมและให้โอกาสที่ดี (Heart to Society) ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการครูอาชีวะ 4.0 ยกระดับมาตรฐานวงการศึกษาไทยสู่ระดับสากล รวมถึงการช่วยเหลือและปรับปรุงบ้านและคุณภาพชีวิตของคนพิการ ใน “โครงการบ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ” ตลอดจน “โครงการจ้างงานคนพิการในบริษัท” เป็นต้น

วันนี้ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของการใช้ชีวิต ตลอดจนคุณค่าของแบรนด์ที่สามารถสะท้อนความภาคภูมิใจเมื่อได้เป็นเจ้าของ แนวคิด “Tomorrow. Reimagined.” จึงเป็นการต่อยอดมาจากแท็กไลน์ของแบรนด์ที่ว่า “พฤกษาใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต” ภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในทุกช่วงชีวิต เพื่อสร้างสรรค์ ทั้งในวันนี้ และพรุ่งนี้

เราได้สะท้อนแนวคิดสื่อสารผ่านวิดีโอคอนเทนต์ และภาพโฆษณาชุด “บ้านที่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง” โดยจะมุ่งเน้นสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายยุคมิลเลนเนียลส์ ผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ตามพฤติกรรมของคนยุคมิลเลนเนียลส์ที่เปิดรับเทคโนโลยีค่อนข้างสูง

เราคาดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงสู่แนวคิด “พฤกษาใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต Tomorrow. Reimagined.” จะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์พฤกษาในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมของวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่า พฤกษาเตรียมพร้อมในการส่งมอบที่อยู่อาศัยที่รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ขณะที่นายปิยะ ปิดท้ายว่า จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบที่ 3 ซึ่งตอนแรกก็เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาฯ แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้ออนไลนืมากขึ้นถึง 30-40% ทำให้ลูกค้าเข้าโครงการมากขึ้น แต่การตัดสินใจช้าลง ถ้าเราสามารถฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายภายในไตรมาส 3-4 ได้ประมาณ 70% คาดว่า ตลาดอสังหาฯจะสามารถเติบโตได้ 5% +/- แต่ถ้ายาวกว่านั้นอาจจะทำให้ลูกค้ามีปัญหาได้

“ปีนี้จึงเป็นปีที่ท้าทาย ซึ่งแคมเปญ “พฤกษาใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต Tomorrow. Reimagined.” ที่เราออกมาก็หวังว่า ระยะสั้นจะเป็นส่วนเสริมให้บริษัทสามารถทำรายได้ได้ตามเป้าหมาย 3.2 หมื่นล้านบาท แต่หลักๆ จะต้องรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัว แคมเปญดังกล่าวจึงเป็นการทำเพื่ออนาคต ให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายปิยะกล่าว