fbpx
Lake Bangna resize 1

เพอร์เฟคฯ ตั้งรับวิกฤตโควิด-การเมือง ตัดขายที่ดิน-โรงแรม เติมสภาพคล่องหมื่นล.

บิ๊กอสังหาฯที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดูอย่าง “นายชายนิด อรรถญาณสกุล ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) มองการเมืองที่กำลังร้อนฉ่าในเวลานี้ว่า เป็นปัญหาใหญ่ซึ่งถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไป เศรษฐกิจในปีหน้าก็คงมองไม่เห็นอนาคต

“ตอนนี้รัฐบาลเจอทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใช้เวลาแก้ไขมาเกือบปีซึ่งถือว่ารัฐบาลแก้ปัญหาได้ดี ตอนนี้มาเจอปัญหาการเมืองที่รุมเร้ารัฐบาลอย่างรุนแรง และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องหาหนทางคลี่คลาย ถ้าแก้ปัญหาการเมืองไม่ได้ เศรษฐกิจไทยในปีหน้าก็ยังไม่มีความหวัง”

นายชายนิด มองว่า ปัญหาการเมืองจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดที่จะฉุดเศรษฐกิจในปีหน้า รัฐบาลต้องรีบแก้ไขปัญหาการเมือง เพื่อให้รัฐบาลกลับมาเข้มแข็งโดยเร็ว การที่มีรัฐบาลที่เข้มแข็งทำให้สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

“การคลี่คลายปัญหาอยากเห็นการพูดคุยหาทางออกร่วมกัน และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าถอยกันคนละก้าวจริงก็น่าจะมีโอกาส” นายชายนิดให้ความเห็น

ในช่วงเดือนตุลาคมคาบเกี่ยวไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนจึงเป็นช่วงที่เราต้องเฝ้ารอดูสถานการณ์ว่าจะมีสัญญาณที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพื่อกำหนดทิศทางการลงทุนในปีหน้าให้ถูกต้อง

ในตอนนี้เราต้องตั้งการ์ดสูงไว้ก่อน โดยจะการต้องแก้ในเรื่องแคชโฟลว์ก่อน ซึ่งได้มีการประกาศขายโรงแรมไปแล้วก่อนหน้า พร้อมกับประกาศขายที่ดินอีก 2 แปลงที่รัชาดาภิเษก และรามอินทรา ทั้ง 2 รายการรวมกันมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาเสริมสภาพคล่องของบริษัทได้ในไตรมาส 4 และปีหน้า” นายชายนิดกล่าว

พันธมิตรมั่นใจลงทุนในไทยระยะยาว
ในส่วนของพันธมิตรต่างชาติของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง แลนด์ ซูมิโตโม รวมถึงโรงเรียนนานาชาติ SISB ที่เข้ามาร่วมลงทุนในประเทศไทยยังมองถึงโอกาสในการลงทุนระยะยาว มองประเทศไทยในระยะยาวว่าเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัว และยังมีความเชื่อมั่นในการลงทุน

ถ้าดูการลงทุนของพันธมิตรจะเห็นว่า เป็นการลงทุนเพื่อรองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต อย่างเช่น โรงเรียนนานาชาติ SISB ลงทุนซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนที่จะเปิดในปี 2565 ขณะที่ฮ่องกง แลนด์ ที่วางแผนการลงทุนกับบริษัทเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มองว่า บ้านเดี่ยวในทำเลที่ถูกต้อง จับกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องยังสามารถเติบโตได้ โดยเฉพาะแจ้งวัฒนะ และสุวรรณภูมิยังเป็นตลาดที่แข็งแรงอยู่

ขณะที่โครงการเลค เลเจนด์ แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นโครงการ่วมทุนกับบริษัทก็เป็นโครงการที่ขายดีในประเทศกลุ่มอาเซียนที่ฮ่องกง แลนด์ได้เข้าไปลงทุน ซึ่งแสดงว่ากำลังซื้อคนไทยยังมีอยู่

ปีหน้าลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ 9,000 ล้าน
ขณะที่นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากโครงการ เลค เลเจนด์ แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนโครงการแรกกับ ฮ่องกง แลนด์ สามารถทำยอดขายไปได้แล้ว 550 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และในปีหน้ายังมีโครงการร่วมทุนกับฮ่องกง แลนด์ เพิ่มอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเลค เลเจนด์ สุวรรณภูมิ-กิ่งแก้ว มีมูลค่าโครงการสูงถึง 9,000 ล้านบาท และอีกโครงการจะเปิดบนทำเลแจ้งวัฒนะ

ในปีหน้าแผนที่วางไว้เบื้องต้น บริษัทจะมีโครงการเปิดใหม่อีก 7-10 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ทั้งหมด โดยวางเป้ารายได้ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 12,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการเลค เลเจนด์ แจ้งวัฒนะ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่แบรนด์ใหม่ บนเนื้อที่ 102 ไร่ แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส จำนวน 177 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 5,400 ล้านบาท โดยได้เปิดตัวเฟสแรกเนื้อที่ 36 ไร่ จำนวน 57 ยูนิต มูลค่า 2,000 ล้านบาท มีแบบบ้านทั้งหมด 5 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 346-570 ตร.ม. ระดับราคา 26-70 ล้านบาท แบบบ้านหลังใหญ่สุดมีขนาดถึง 570 ตารางเมตร เป็นบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดเท่าที่บริษัทเคยพัฒนาขึ้นมา เพื่อสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ทั้งนี้บ้านระดับบนถือเป็นโอกาสทางการตลาดในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ยังคงมีกำลังซื้อสูง ทำให้มียอดขายเป็นที่น่าพอใจ