เอสซี แอสเสท เผยกระแสตอบรับแนวราบมาแรง ไตรมาส 2 พร้อมลุยเปิดบ้านทำเลดี 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,000 ลบ. พร้อมโชว์ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก มีรายได้รวม 3,313 ล้าน กำไรสุทธิ 301 ล้าน
นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการพลิกกลยุทธ์การตลาดแนวราบสู่ออนไลน์ ทำให้ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยในไตรมาส 2/63 จะเปิดบ้านเดี่ยวเพิ่มอีก 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ในราคา 5-50 ล้านบาท และเตรียมปิดการขายโครงการบ้านอีก 6 โครงการ
โดย 2 โครงการแรกที่จะเปิด Pre-sale ในวันที่ 16-17 พ.ค.นี้ ได้แก่
1. บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี บ้านหรู 2 ชั้น พื้นที่ 10-2-7.5 ไร่ มูลค่าโครงการ 730 ล้านบาท จำนวน 37 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 13.99 – 26 ล้านบาท
2. บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 5 บ้านหรู 2 ชั้น 3 แบบ พื้นที่ 44 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท จำนวน 189 ยูนิต ราคาเริ่ม 8.99-15 ล้านบาท
ส่วนอีก 2 โครงการใหม่ จะเปิดในวันที่ 23-24 พ.ค. คือ
3. เดอะ เจนริ วิภาวดี วิลล่าหรู 3 ชั้น ดีไซน์ใหม่ รองรับครอบครัวใหญ่ มีเพียง 10 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 27-50 ล้านบาท บนพื้นที่ 4-2-19 ไร่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
4. เวนิว โฟลว์ แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 แบบ พื้นที่โครงการ 68-1-59 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,710 ล้านบาท จำนวน 254 ยูนิต ราคาเริ่ม 5-10 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีโปรโมชั่นผ่อนหนักให้เป็นฟรี ‘SC Super Free’ เมื่อจองโครงการตั้งแต่วันนี้ – 31 พ.ค.63 และโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 มิ.ย.63
นายอรรถพล กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 3,313 ล้านบาท เติบโต 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยเป็นรายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 3,071 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 93 แบ่งเป็น รายได้แนวราบ 1,829 ล้านบาท และ รายได้คอนโด 1,243 ล้านบาท
ส่วนอีกร้อยละ 7 เป็นรายได้จากการเช่าและบริการ มีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท มียอดขายรวม 1,982 ล้านบาท ณ 31 มี.ค. 63 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์และหนี้สินรวม 47,035 ล้านบาท และ 29,142 ล้านบาทตามลำดับ พร้อมกับมีโครงการที่เปิดขายต่อเนื่อง จำนวน 52 โครงการ มูลค่าคงเหลือเพื่อขายรวมกว่า 41,600 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 44 โครงการ และคอนโด 8 โครงการ
ทั้งนี้ บริษัทมีกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.19 บาท ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2563 ที่มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
อ่านประกอบ: โกลเด้นแลนด์ เผยอานิสงส์โควิดดันบ้านแนวราบขายดีกว่ายุค LTV