fbpx
แบบบ้านข้าราชการ ซีคอน

ซีคอน เปิดแบบบ้านใหม่เจาะกลุ่มข้าราชการ ราคาโดนใจเริ่มต้น 1.39 ล้าน

ซีคอน ขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มข้าราชการ เปิดตัวแบบบ้านใหม่ราคาโดนใจ 1.39-2.29 ล้านบาท พร้อมโปรสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่อนสบายๆ เดือนละ 3,000-4,000 บาท หวังช่วยดันยอดขายโค้งสุดท้ายปี 67

ในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างที่คาดหวัง บริษัทรับสร้างบ้าน ซีคอน จึงต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการส่งแบบบ้านใหม่ เพื่อผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย

“ที่ผ่านมาเรายังเผชิญกับภาะเศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ครัวเรือนสูง ยอดขายบ้าน-รถยนต์หดตัว การลงทุนภาคเอกชนติดลบ ยังมีดีที่ภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนภาครัฐที่เริ่มดีขึ้นหลังเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ขณะที่ส่งออกติดลบมาตลอดเพิ่งเริ่มจะดีขึ้นในเดือนตุลาคม ซึ่งทางภาครัฐพยายามจะดัน GDP ทั้งปีให้โตได้ 2.8-29%

จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวมีการประเมินว่าธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้จะติดลบประมาณ 10% มีมูลค่าตลาดเฉพาะบริษัทที่สังกัดในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานของซีคอนใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ผันผวน เราทำยอดขายไปได้ 1,060 ล้านบาท ติดลบประมาณ 10% เมื่อเทียบกับ 3 ไตรมาสของปี 2566″ นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด กล่าว

นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด

เมื่อยอดขายยังไม่เป็นไปตามเป้า ซีคอนจึงได้ปรับกลยุทธ์เพื่อขยายฐานตลาดไปยังกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและยังไม่รู้ว่าจะฟื้นตัวได้เมื่อไหร่ และกลุ่มคนที่ยังมั่นคงที่สุดก็คือ ข้าราชการจึงได้ออกแบบบ้านใหม่ Your Home Series (Your Home Your Family) รวม 6 แบบสำหรับข้าราชการไทยในราคาเริ่มต้น 1.39-2.29 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดแมสที่มีราคาต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของบ้านซีคอนในปัจจุบันที่อยู่ที่ประมาณ 6.8 ล้านบาท/หลัง

“ข้าราชการหลายๆ คน อาจจะซื้อที่ดินเก็บเอาไว้จากโครงการสวัสดิการต่างๆ เมื่อถึงเวลาก็ต้องการนำมาปลูกบ้าน สร้างครอบครัว เพราะการสร้างบ้านก็คือการสร้างครอบครัวที่มั่นคง แม้หลายคนจะมองว่า ข้าราชการมีหนี้สิ้นเยอะ แต่ก็คงไม่ได้เป็นหนี้ทั้ง 100% นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับสถาบันปล่อยสินเชื่อสร้างบ้านให้กับข้าราชการในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้สามารถผ่อนได้เดือนละ 3,000-4,000 บาท โดยแคมเปญดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาไปจนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 ถือว่าเป็นการทดสอบตลาด โดยคาดหวังยอดขายประมาณ 100 ล้านบาท และช่วยผลักดันให้ยอดขายในปี 2567 เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,200 ล้านบาท หากตลาดตอบรับดีก็พร้อมลุยต่อไป”

สำหรับแบบบ้านทั้ง 6 แบบ ประกอบด้วย

Your Home

1.Your Home 65 บ้านเดี่ยวชั้นเดียวพื้นที่ใช้สอย 65 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 36 ตร.ว.ขึ้นไป 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ราคา 1.399 ล้านบาท

Your Home

2.Your Home 109 บ้านเดี่ยวชั้นเดียวพื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 58 ตร.ว.ขึ้นไป 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคา 1.949 ล้านบาท

Your Home

3.Your Home 123 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 123 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 36 ตร.ว.ขึ้นไป 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคา 1.99 ล้านบาท

Your Home

4.Your Home 139 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 36 ตร.ว.ขึ้นไป 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 1 คัน ราคา 1.99 ล้านบาท

Your Home

5.Your Home 134 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 38 ตร.ว.ขึ้นไป 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 1 คัน ราคา 1.999 ล้านบาท

Your Home

6.Your Home 170 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 49 ตร.ว.ขึ้นไป 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 2 คัน ราคา 2.29 ล้านบาท

นายมนูกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ บริษัทจึงกำหนดกลยุทธ์ในด้านการควบคุมต้นทุนการก่อสร้าง เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค ประกอบด้วย

1.มีโรงงานผลิตชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูป ที่สามารถบริหารจัดการด้านราคางานโครงสร้างได้เป็นอย่างดี

2.ยังคง “ยืนราคาเดิม” ให้ผู้บริโภค เพื่อเป็นของขวัญให้ผู้บริโภคที่ต้องการปลูกสร้างบ้านในช่วงเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน

3.การใช้ประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษีการสร้างบ้าน โดยผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านมูลค่า 1 ล้านบาท สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท (ราคาบ้านไม่เกิน 10 ล้านบาท)โดยเป็นบ้านสั่งสร้างที่มีการเซ็นสัญญาและเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568

ในส่วนของโรงงานผลิตชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูป ซีคอน พรีคาสท์ แฟคทอรี่ ในปี 2567 สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างดี เพราะมีการดำเนินการผลิตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีลูกค้าภายนอกอีกหลายรายที่สั่งผลิตชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปเพื่อใช้สำหรับบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ อพาร์ตเมนต์ โกดัง และงานโครงการ รวมตลอด 3 ไตรมาส มีรายได้รวมประมาณ 100 ล้านบาท จากการผลิตชิ้นส่วน จำนวน 20,000 ชิ้นโดยประมาณ