fbpx

LWS เปิดผลสำรวจ 5 ทำเลคอนโดตอบโจทย์ Pet Parent

LWS เจาะ 5 ทำเล สำหรับพัฒนาคอนโดตอบโจทย์คนรักสัตว์ที่กำลังเติบโตอย่างแรง พร้อมเผย 4 ปัจจัยหนุนที่ต้องไม่พลาด

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอล. ดับเบิลยู. เอส. วิสดอมแอนด์โซลูชั่นส์ จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยผลวิจัยของฝ่ายวิจัยและสำรวจทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาอาคารชุดเพื่อสัตว์เลี้ยงในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ว่า จากผลการสำรวจของ LWS ในช่วงสิ้นปี 2566 พบว่า มีจำนวนอาคารชุดประเภทที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล จำนวน 23,031 หน่วย เพิ่มขึ้น 4,600.20 % เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่มีเพียง 490 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 353.86% ต่อปี

คุณ ประพันธ์ศักดิ์  scaled

สะท้อนให้เห็นความต้องการที่อยู่อาศัยในกลุ่มนี้ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องหันมาพัฒนาโครงการอาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อในกลุ่มที่มีสัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวที่เรียกว่า Pet Parent หรือ Pet Humanization ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชากรที่เป็นโสด หรือแต่งงานแล้วไม่อยากมีลูก และเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวมากกว่าที่จะเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เหมือนในอดีต

LWS คอนโด เลี้ยงสัตว์

จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว LWS ได้วิเคราะห์ทำเลที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการอาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ โดยคำนึงถึง 4 ปัจจัยหลักประกอบด้วย

1.ทำเลใกล้ระบบขนส่งมวลชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสำหรับการเดินทางไปทำงาน ข้างนอก โดยควรเลือกโครงการอาคารชุดที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีระบบขนส่งมวลชนเชื่อมต่อไปยังจุดอื่นในระยะ 3-5 กม. เช่น รถไฟฟ้า BTS หรือ MRT โดยควรอยู่ในระยะเดินได้ (ภายใน 1 กม.)

2.ทำเลใกล้กับสาธารณูปโภคสำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น โรงพยาบาลสัตว์ หรือ คลินิกสัตว์เลี้ยง ในรัศมีพื้นที่ 3-5 กม. จากผลการสำรวจของ LWS พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความต้องการโครงการอาคารชุดที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลหรือคลินิกสัตว์เลี้ยง หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถรับการรักษาได้ทันท่วงที

3.ทำเลโครงการตั้งใกล้กับพื้นที่ค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ ที่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเข้าได้ เพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม Pet Parent ที่นิยมออกไปทำกิจกรรมหรือพบปะสังสรรค์ตามสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของคอมมูนิตี้สัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียด และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ ศูนย์การค้าที่รองรับสัตว์เลี้ยงจะถูกออกแบบให้มีร้านขายอาหารสัตว์หรืออุปกรณ์สัตว์เลี้ยงมาด้วย นอกจากพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นพักผ่อนแล้วยังสามารถแวะซื้อของใช้จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย

4.ทำเลโครงการใกล้สวนสาธารณะ ควรอยู่ในระยะทางการเดินไม่เกิน 15 นาที ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 56% ของคนมีสัตว์เลี้ยงชอบพาไปเดินเล่นออกกำลังกายที่สวนสาธารณะมากที่สุด

คอนโด เลี้ยงสัตว์ LWS

จาก 4 ปัจจัยดังกล่าว LWS แนะนำ 5 ทำเลหลักที่เหมาะสำหรับการพัฒนาอาคารชุดที่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่

1.ปทุมวัน เป็นทำเลใจกลางเมืองที่พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งศูนย์การค้าที่รองรับสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาลสัตว์ถึง 2 แห่ง และติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีกด้วย ประกอบกับในทำเลมียูนิตอาคารชุดที่เลี้ยงสัตว์ซึ่งขายหมดไปแล้ว จึงเป็นโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่

2.คลองสาน ทำเลในฝั่งธนบุรีไม่ไกลจากตัวเมือง พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งสวนสาธารณะ โรงพยาบาลสัตว์ และในทำเลยังไม่มีโครงการอาคารชุดที่รองรับสัตว์เลี้ยง เป็นโอกาสในการเปิดตัวโครงการใหม่

3.บางซื่อ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับสัตว์เลี้ยงทั้ง โรงพยาบาลสัตว์และสวนสาธารณะ และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีแดง รวมไปถึงยังไม่มีโครงการที่รองรับสัตว์เลี้ยงในทำเล

4.แจ้งวัฒนะ เป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับสัตว์เลี้ยงครบ โรงพยาบาล ร้านค้าสัตว์เลี้ยง สวนสาธารณะ และศูนย์การค้าที่รองรับสัตว์เลี้ยงอย่าง เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะและในทำเลยังไม่มีโครงการอาคารชุดที่รองรับสัตว์เลี้ยง เป็นโอกาสในการเปิดตัวโครงการ และยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดในอนาคตที่เข้ามาเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการอีกด้วย

5.โชคชัย 4 ถือว่าเป็นทำเลยอดนิยมของกลุ่ม Pet Parents เพราะเป็นทำเลที่มี ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสวิลล์ และ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ที่เป็นคอมมูนิตี้คนเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ที่การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และยังมีโรงพยาบาลสัตว์ ร้านค้าสัตว์เลี้ยง สวนสาธารณะรองรับโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีโครงการอาคารชุดคู่แข่งยังมีไม่มาก เป็นโอกาสในการพัฒนาโครงการ

    “การพัฒนาโครงการอาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาโครงการอาคารชุดที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง จากผลการสำรวจพบว่าผู้ซื้ออาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้พร้อมจ่ายที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่เกิน 2 ล้านบาทต่อหน่วย ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยง จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ในการพัฒนาโครงการ ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว