พรีบิลท์ มั่นใจเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว พร้อมปรับโหมดเปิดเกมรุกธุรกิจอสังหาฯ ปี 2567 ลุยลงทุน 6 โครงการใหม่ ล่าสุดเปิดโครงการบ้านเดี่ยว พิมนารา ศาลายาส่งท้ายปี ชูจุดขายทำเล-ฟังก์ชั่นตอบโจทย์ ในราคาที่ถูกกว่า
นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 ยังถือว่ายังไม่ค่อยดี ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเวลานานตั้งแต่ช่วงโควิด-19 แต่คาดว่า ปี 2567 ตลาดน่าจะดีขึ้นจากเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัวจากการเร่งฟื้นเศรษฐกิจของรัฐบาล บริษัทจึงได้เตรียมแผนเปิดโครงการใหม่รวม 6 โครงการ เป็นโครงการที่จะพัฒนาเอง 2 โครงการ และโครงการร่วมทุนอีก 4 โครงการ โดยจะพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบในระดับบนที่ตลาดยังไปได้ดีเป็นหลัก
“3 ปีที่ผ่านมาการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทอยู่ในโหมดตั้งรับ แต่ในปีหน้าจะปรับมาสู่โหมดเปิดเกมรุกมากขึ้น โดยการเปิดโครงการใหม่ เพื่อสร้างยอดขายรายได้ใหม่เข้าบริษัท”
สำหรับในปี 2566 เป็นปีที่บริษัทก้าวสู่ปีที่ 6 ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาการพัฒนาโครงการของเราประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งโครงการที่สะดวก รูปแบบบ้านคุณภาพที่ตอบโจทย์ลูกค้า ตลอดจนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัท ส่วนแผนธุรกิจจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าหาที่ดินโดยใช้เงินลงทุนปีละ 500-1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยในอนาคตมีแผนจะขยายไปในทุกเซ็กเมนต์ทั้ง ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และโฮมออฟฟิศ
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ พิมนารา ศาลายา บนเนื้อที่ 18 ไร่เศษ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 50-70 ตารางวา สไตล์ Modern Tropical Style ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร จำนวน 77 หลัง ราคาเริ่มต้น 5.99-7 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท
โครงการพิมนารา ศาลายา มาพร้อมกับ Function ที่เป็นการปฏิวัติการออกแบบพื้นที่การใช้งานภายในบ้านของบ้านขนาดกลาง ด้วย Function การใช้งาน 4 ห้องนอน 1 ห้องทำงานที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนที่ 5 ได้ รวมถึงห้องครัวขนาดใหญ่ที่สามารถสลับ Function กับห้องทำงานได้ ตามไลฟ์สไตล์ พร้อมสวนส่วนตัวอีก 2 สวน ด้านบ้านและหลังบ้าน โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2566
ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย และการออกแบบฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยได้ตอบโจทย์ ที่สำคัญยังมีราคาขายที่ถูกกว่าผู้ประกอบการรายอื่นถึง 10% จากการที่บริษัทเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่สามารถคุมต้นทุนได้ดีกว่า พร้อมกับคุณภาพที่คุ้มค่า และเป็นการพัฒนาบ้านสร้างก่อนขาย ที่ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อและเข้าอยู่ได้ทันทีจึงมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้ และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปี 2567
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่อีกหนึ่งโครงการ ได้แก่ โครงการพรรณนา ทวีวัฒนา บ้านเดี่ยวระดับ Luxury พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ในบรรยากาศ Pool Villa ส่วนตัวเพียง 52 ยูนิต ราคา 18-25 ล้าน ซึ่งโครงการนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากโครงการพรรณนา ที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีมากจากลูกค้า
ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 3 โครงการ ได้แก่ โครงการพิมนารา ศรีนครินทร์-บางนา มูลค่าโครงการ 700 ล้าน ขณะนี้ขายและโอนไปกว่า 80% แล้ว เหลือเฟสสุดท้ายที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นก่อนปิดโครงการ ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Muji ทั้งหลัง และฟรีทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอน ลูกค้าสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ในราคาเพียง 7.29 ล้าน
โครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์ รังสิต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ใช้สถาปัตยกรรมในยุค 70 มาเป็นแนวคิดในการออกแบบโครงการ ก็ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะเป็นโครงการที่ทำเลติดถนนใหญ่ ติดทางด่วน เดินทางสะดวก ประกอบกับสไตล์บ้านที่ไม่เหมือนใครในโซนดังกล่าว พร้อมตกแต่งรูปแบบ Modern Classic โทนขาวตัดขอบดำสไตล์ Jo Malone ทำให้บ้านดูหรูหรา ที่ทางโครงการแต่งให้ทั้งหลังในราคา 6.39 ล้านบาท
โครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์ รังสิต ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าที่ซื้อเพื่อทั้งอยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ที่เป็นทั้งแหล่งงาน สถานศึกษา และจากการที่มีราคาขายใกล้เคียงกับคอนโดมิเนียมในละแวกใกล้เคียงแต่มีราคาปล่อยเช่าได้ดีกว่า ทำให้บริษัทได้กลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนใจจากการซื้อคอนโดมิเนียมมาซื้อทาวน์เฮ้าส์ทดแทนค่อนข้างมาก เนื่องจากลูกค้าต้องการหนีจากปัญหาเรื่องที่จอดรถและความไม่เป็นส่วนตัวของคอนโดมิเนียม โดยบริษัทได้จัดแพ็คเกจทาวน์โฮม พร้อมตกแต่ง สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ในราคา 2.79 ล้านบาท