กลุ่มหลักหกรักษ์คลองเปรมฯ ได้จัดการเสวนาเรื่อง “ถมคลองเปรมฯ ปัญหาที่ไร้คำตอบ สิทธิชุมชนที่รัฐหลงลืม ชาวบ้านจะพึ่งใคร?” โดยมี รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ดร.ศักดิ์ณรงค์ มงคล ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย มหาวิทยาลัยรังสิต และนายเจษฎา ดนตรีเสนาะ สส.ปทุมธานีเขต 2 พรรคก้าวไกล เป็นวิทยากร โดยมีนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ บรรณาธิการ The Leader Asia ดำเนินการเสวนา
ดร.ศักดิ์ณรงค์กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนในพื้นที่รวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ว่า 6 หน่วยงานรัฐกระทำการละเมิดกฎหมายด้วยการถมคลองเปรมประชากรเพื่อก่อสร้างบ้านมั่นคงและสร้างเขื่อน แต่ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องโดยอ้างว่า หน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติตามคำสั่งคสช.ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2560 บัญญัติว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ข้อพิพาทนี้จึงไม่อยู่ในอำนาจตรวจสอบของศาลปกครองนั้น ตนเชื่อว่ายังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้
“ค่อนข้างแปลกใจที่ศาลไม่รับฟ้อง เพราะหลังการรัฐประหารปี 2557 มีหลายคดีที่อ้างคำสั่งคสช.แต่ศาลปกครองก็รับพิจารณาวินิฉัย ขณะที่การถมคลองเปรมฯมีข้อเท็จจริงชัดเจนว่าเป็นการละเมิดสิทธิชุมชน เป็นโครงการที่รัฐต้องการแก้ปัญหาบุคคลรุกล้ำริมคลอง แต่กลายเป็นเรื่องที่รัฐรุกล้ำลำคลองเสียเองโดยอาศัยอำนาจรัฐและกลไกของรัฐ”
รัฐธรรมนูญปี 2560 คุ้มครองคำสั่งคสช.ก็จริงแต่มิได้คุ้มครองทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าทุกการกระทำจะไม่ผิดเลย ศาลควรพิจารณาในรายละเอียดเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ โดยเฉพาะหากมีผลกระทบระดับรุนแรงกว่าปกติ
รศ.ดร.เสรี กล่าวว่า ผู้รุกล้ำริมคลองเดิมจะปลูกบ้านใต้ถุนสูง อาจจะมีผลต่อการระบายน้ำแต่น้ำยังไหลได้ ต่างกับการถมคลองแบบถาวร จากคลองเปรมฯบริเวณตำบลหลักหกที่เคยกว้าง50เมตร เหลือแคบเพียงไม่ถึง25เมตร มีผลให้ช่วงฝนตกหนักหรือน้ำหลาก ระดับน้ำจะยกสูงและท่วมบริเวณใกล้เคียง ชุมชนรอบๆ จะได้รับผลกระทบมากขึ้น
“ผมยินดีเป็นพยานในศาล เรื่องนี้ต้องพิสูจน์กันด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ การถมคลองเป็นเรื่องผิดหลักการสากล เพราะเท่ากับลดพื้นที่รับน้ำ แย่งที่น้ำ” รศ.ดร.เสรีกล่าว
ด้านนายเจษฎาแสดงความเห็นว่า ตนในฐานะสส.ยินดีทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนในสภานั้นมีความตั้งใจจะเข้าร่วมในคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งจะเป็นช่องทางให้สามารถนำปัญหาการถมคลองเปรมฯเข้าสู่สภาเพื่อหาช่องทางแก้ไขต่อไปได้
“พรรคก้าวไกลต้องการออกพ.ร.บ.มาแก้ปัญหาผลกระทบจากมาตรา 44ของคสช.แต่ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลก็คงไม่ง่าย” นายเจษฎากล่าว