TPM ท่องโลก เที่ยวไทย “ต้องไป..ถึงรู้” by @P’taak
การแพลนเดินทางไปรับลมหนาวที่ภาคเหนือน่าจะเป็นหนึ่งในแผนที่เคยมีกันซักครั้ง โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่อากาศเป็นใจ..ประหนึ่งให้รางวัลชีวิตหลังการโหมการงานหรือกรำศึกการเรียนมาทั้งปี ครั้งนี้ขอเล่าเรื่องราวเมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…หมู่คณะของเราไปเปิดประสบการณ์ฉลองป้ายแดงรถเพื่อน ด้วยการเก็บเกี่ยวความประทับใจรายทางกับการเดินทางที่ยาวไกล นับไป-กลับร่วมสองพันกิโล? โดยมีจุดหมายปลายทางที่ปางอุ๋ง..ดินแดนที่ได้รับการขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”
เปิดประสบการณ์-ความทรงจำอันมีค่า
ชาวก๊วนรวมหกชีวิตออกสตาร์ทจากกรุงเทพฯ มีมือวางพลขับสาม-สี่ผลัด (ขับรถเป็นกันทุกคน แต่มีสองคนไม่ได้รับความไว้วางใจ…หนึ่งในนั้นคือดิฉันเอง^^) เพื่อนๆ วางแผนเก็บที่เที่ยวรายทาง หาเส้นทาง สถานที่เที่ยว รวมถึงจองที่พักว่าคืนไหนเราจะแวะที่ไหนกัน เท่าที่จำได้ คือ โรงแรมที่เชียงใหม่ โฮมสเตย์ที่ปาย..ส่วนที่แม่ฮ่องสอนเป็นประสบการณ์ประทับจิตที่ยังจดจำมาถึงวันนี้ ด้วยเพราะไม่ได้จองที่พักล่วงหน้าไว้ ประมาณว่าเสี่ยงดวงหวังไปตายเอาดาบหน้า..เกือบได้ตายกันสมใจ(อย่าหาทำ)
ท่ามกลางอุณหภูมิหนาวเหน็บเมื่อเราไปถึงพลบค่ำแล้วที่พักทุกแห่งเต็มหมด เกือบสิ้นหวัง แต่…แต้มบุญยังพอมี เพื่อน-โชเฟอร์-เจ้าของรถลงไปเติมน้ำมันแล้วถามเด็กปั๊มเรื่องหาที่พัก ชะรอยพี่คนหนึ่งได้ยินเข้าอาจจะสงสารเลยเสนอเปิดบ้านให้เราไปเช่าพักในราคาย่อมเยา…เช้าตรู่เมื่อออกมานั่งจิบกาแฟเสพวิวทุ่งนาสุดลูกตา.ถึงได้ประจักษ์ว่าเมื่อคืนเรารอดตายแบบปาฏิหาริย์จริงๆ..ได้นอนในบ้านหลังใหญ่กลางทุ่งนาสุดจะฟิน..ชีวิตดั่งนิยาย
ประสบการณ์การเที่ยวครั้งนั้นยังประทับอยู่ในความทรงจำส่วนดี เลยขอนำมาเล่าให้ฟัง…พร้อมทั้งอยากสนับสนุนหากใครที่อยู่ในวัยและมีความพร้อมละก็…ควรจะหาทางไปกันเป็นหมู่คณะ มันจะให้อารมณ์ความรู้สึกสนุกสนานมันส์ฮาในแบบที่เราควรจะมีในชีวิต เอาล่ะไปดูกันเลย
น้ำพุร้อนโป่งเดือด อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
อยู่ในเขตรับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ นด.1 (โป่งเดือด) เส้นทางจะอยู่ก่อนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 20 กิโลเมตร หลักกิโลเมตรที่ 42 ของทางหลวงหมายเลข 1095 (แม่มาลัย-ปาย) เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 6.5 กิโลเมตร ในอดีตชาวบ้านเรียกกันว่า น้ำพุร้อนป่าแป๋ เพราะตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
จำได้ว่ามีกลิ่นกำมะถันโชยเข้าจมูกเมื่อเดินเข้าไปบริเวณบ่อน้ำพุร้อน ที่มีน้ำผุดปุดๆๆ พุ่งจากใต้ดินตลอดเวลา เป็นบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ สูง 1-2 เมตร จำนวน 3-4 บ่อ และมีบ่อเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป อุณหภูมิน้ำผิวดินประมาณ 90-100 องศาเซลเซียส ว่ากันว่าในอดีตน้ำพุร้อนเคยพุ่งสูงถึง 5 เมตรเลยทีเดียว ที่นี่ยังมีบริการอาบน้ำแร่ แช่เท้าเพื่อสุขภาพ นอกจากนั้นที่ขาดไม่ได้คือมีจุดที่ให้ต้มไข่กันด้วย…ที่โป่งเดือดยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินป่าศึกษาธรรมชาติอีกด้วย
ถ้ำน้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
แหล่งโบราณคดีสำคัญ หนึ่งใน Unseen Thailand อยู่ในความดูแลของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำปาย ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 77 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1095 สายปางมะผ้า-ปาย ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 138-139 จะมีทางแยกซ้ายจากอำเภอปางมะผ้า เข้าไปตามทางบ้านถ้ำลอดประมาณ 9 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าชมเองได้ เนื่องจากภายในถ้ำมืดมาก ต้องใช้บริการไกด์นำทางและบริการแพจากชาวชุมชน ที่นี่มีบ้านพักไว้บริการและอนุญาตให้ตั้งเต็นท์พักแรมได้ ติดต่อโดยตรงที่หน่วยบริการภายในสถานศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด
การนั่งแพเข้าไปชมภายในถ้ำให้ความรู้สึกตื่นเต้นไปอีกแบบ อย่าลืมซื้อาหารปลาไปหว่านทำทานกันเยอะเพราะปลาชุกชุมมาก ภายในถ้ำที่มีขนาดใหญ่มาก ถ้ำลอด คือ มีลำห้วยที่ชื่อ น้ำลาง ไหลลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่งทำให้เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม มีการพบเครื่องมือเครื่องใช้โบราณในถ้ำ สันนิษฐานได้ว่าถ้ำมีอายุประมาณ 2,000 ปีแล้ว ภายในถ้ำมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ประกอบด้วยห้องโถงใหญ่ 3 ห้อง ได้แก่ 1.ถ้ำเสาหินหลวง เป็นถ้ำที่มีขนาดกว้างและมีหินงอกหินย้อยสวยงาม
2.ถ้ำตุ๊กตา เรียกกันตามลักษณะรูปร่างคล้ายตุ๊กตาของหินงอกที่เป็นปุ่มเล็กๆ เรียงรายมากมาย เป็นถ้ำที่กว้างและยาวที่สุดในถ้ำลอด อีกด้านหนึ่งของผนังถ้ำปรากฏภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ 3.ถ้ำผีแมน เป็นถ้ำสุดท้ายที่อยู่ด้านทางออก นอกจากมีหินงอกหินย้อยสวยงามแล้ว ยังพบเศษภาชนะดินเผา เมล็ดพืช เครื่องมือหิน ซีกฟันและกระดูกของมนุษย์ รวมทั้งโลงผีแมนอีกด้วย มีลักษณะเป็นท่อนไม้ที่ถูกขุดตรงส่วนกลางออกจนเป็นร่องคล้ายเรือ หรือรางไม้ มีไว้ใช้ใส่อาหารให้สัตว์เลี้ยง มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ โดยโลงขนาดใหญ่จะถูกวางอยู่บนคานใช้เสา 4-6 ต้น ตั้งกับพื้นถ้ำ เสาแต่ละคู่เจาะเป็นช่องเพื่อสอดใส่คานไว้วางพาดโลงผีแมน
ปาย@แม่ฮ่องสอน
อำเภอปายเป็นเมืองเก่าแก่ ห่างจากแม่ฮ่องสอน กว่า 100 กิโลเมตร ภูมิหลังเป็นเมืองที่มีคนตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์…โดยในสมัยประวัติศาสตร์ปายเป็นเมืองสำคัญของล้านนาในสมัยราชวงศ์มังราย ซึ่งมีเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง ต่อมาได้ร้างลาพร้อมๆ กับเชียงใหม่ จนเมื่อประมาณ พ.ศ. 2318-2338 เมืองปายได้ฟื้นฟูเป็นหมู่บ้านและพัฒนาเป็นอำเภอปาย โดยมีผู้คนหลายกลุ่มชาติพันธุ์อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ ได้แก่ คนไทยวน (คนเมือง) ชาวไทใหญ่ ชาวปกาเกอญอ (กะเหรี่ยง) และชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ เนื่องจากมีตั้งอยู่ในบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย เหมาะสำหรับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปัจจุบันปายเป็นเมืองชุมทางที่สำคัญเมืองหนึ่งบนเส้นทางระหว่างเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน
ในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบตามวิถีของชาวไทยใหญ่ ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากเมียนมา…เหมือนหลายๆ ที่ ที่ในช่วงแรกจะเริ่มรู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คชาวต่างชาติที่ชอบสัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติมากๆ ที่เราพัก คือ เกสต์เฮ้าส์ราคาไม่สูงมาก ที่ชาวบ้านปรับปรุงต่อเติมขยายพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านมาทำเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยวเช่า มีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร และรอบเมืองที่มีสปาและแคมป์ช้างเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ นอกจากนี้ อำเภอปายยังมีน้ำตก น้ำพุร้อน และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย
ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัยและสะดวกสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน มีร้านสะดวกซื้อ มีสถานพักตากอากาศหรูรวมหลายร้อยแห่ง รวมถึงคลับบาร์เบียร์อยู่ทั่วไปเพื่อตอบสนองนักท่องเที่ยวที่มีมากขึ้น
ช่วงฤดูท่องเที่ยวระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ แต่ในภายหลังก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์แนวโรแมนติก ได้แก่ เดอะเลตเตอร์ จดหมายรัก, เรื่องรักจัง รวมถึงละครอีกหลายเรื่อง
สุดท้ายที่ปางอุ๋ง
มีชื่อเต็มว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ ของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพัฒนาขึ้นเพื่อให้ราษฎรชนกลุ่มน้อยบริเวณนั้นเลิกปลูกพืชเสพติดและบุกรุกพื้นที่ป่า ฯลฯ คำว่า ‘ปาง’ แปลว่า ที่พักของคนทำงานในป่า ส่วน ‘อุ๋ง’ หมายถึง ที่ลุ่มต่ำ เมื่อรวมกันจึงแปลว่า “ที่พักริมอ่างเก็บน้ำ”
ในบริเวณนั้นมีศาลาประทับทรงงานตั้งอยู่ริมทะเลสาบปางอุ๋ง กรมป่าไม้ได้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับทรงงานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เสด็จมาประทับเพื่อทรงงานด้านศิลปาชีพ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 พร้อมทั้งได้ทรงปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งที่ด้านหลังอาคารแห่งนี้ และเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2545 ทรงปล่อยหงส์ดำ 2 คู่ และหงส์ขาว 1 คู่ที่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้
สภาพแวดล้อมที่เราพบความน่าอัศจรรย์ คือ ป่าสนที่ขึ้นเรียงรายอยู่รอบๆ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มากบนยอดเขาสูง อ้อ อย่าลืมไปเก็บภาพที่สันเขื่อนกันด้วย…ในช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม–กุมภาพันธ์ จะมีลมหนาวพัดมายามเช้าพร้อมไอหมอกลอยเหนือผืนน้ำ ความงดงามของแสงแดดอุ่นๆ สาดแสงแรกกระทบยอดเขาเป็นภาพที่สวยงามประทับใจ ในยามค่ำคืนหากได้พักค้างที่ปางอุ๋งก็จะเห็นดวงดาวสวยงามระยิบระยับเต็มท้องฟ้า เป็นสถานที่สวยงามจนถูกขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย”
จึงเป็นยอดฮิตที่ภาพยนตร์และละครหลายเรื่องที่โด่งดังสร้างชื่อและโกยเงินมาถ่ายทำกัน การมาพักก็มีทั้งกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ โดยติดต่ออุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ กับการจองที่พัก รีสอร์ท โฮมสเตย์ในหมู่บ้านรวมไทยด้านหน้าทางเข้าปางอุ๋งก็มีหลายแห่ง
สรุป..การไปทริปแบบเป็นหมู่คณะใหญ่ ไม่ว่าจะกับเดอะ แก๊งค์เพื่อนๆ หรือคณะครอบครัว…แม้อากาศหนาวเหน็บแค่ไหนก็ให้ความอบอุ่นได้เสมอ…เพราะล้วนเป็นช่วงเวลา-นาทีทองและประสบการณ์มีค่าทางใจที่เราจะเก็บไว้ใน “ลิ้นชักความทรงจำ”…ยามเหงาๆ ก็พร้อมจะดึงออกมารื้อฟื้นให้ได้คิดนึกไปถึงวันคืนดีๆ ที่มีร่วมกัน.. จึงควรอย่างยิ่งที่จะจัดสรรเวลาให้กันอย่างน้อยซักปีละหน…ไปสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกัน
เครดิตข้อมูลและภาพ :
–น้ำพุร้อนโป่งเดือด-อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
–อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
–ถ้ำน้ำลอด
–แหล่งท่องเที่ยวถ้ำผีแมน-องค์การบริหารส่วนตำบลสบป่องอำเภอปางมะผ้าแม่ฮ่องสอน
–วิกิพีเดีย ปาย
–ปางอุ๋ง-อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ
