fbpx
3. โรงงานผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET 1

TOTO โชว์นวัตกรรม EWATER+ ยับยั้งเชื้อโรคในสุขภัณฑ์ด้วยกรดไฮโปคลอรัส

นักวิชาการ ม.เกษตร ชี้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคจากกรดไฮโปคลอรัส (HOCl) สามารถต้านไวรัส ฆ่าโควิด เผย EWATER+ (Electrolyzed Water) นวัตกรรมของสุขภัณฑ์ TOTO ซึ่งเป็นการนำน้ำประปามาทำปฏิกิริยาอิเล็กโตรไลซิส ทำให้เกิดเป็นกรดไฮโปคลอรัส มีคุณสมบัติในการช่วยลดเชื้อโรคภายในโถสุขภัณฑ์และก้านฉีดชำระ ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน

บริษัท โตโต้ ได้เปิดโรงงานเพื่อผลิตภัณฑ์ฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงโรงงานผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ในประเทศไทย ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรฐานการผลิตอันเข้มงวดของประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน โดยผศ. ดร. พิเชษฐ อนุรักษ์อุดม รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้มาเยี่ยมชมโรงงาน เพื่อชมกระบวนการผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เรื่องเทคโนโลยี EWATER+ ของทาง TOTO และกรดไฮโปรคลอรัส โดยมี คุณ ทาคายะสุ ชิมาดะ ประธานบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด และ คุณ ฮิโรกิ ฟูจิมูระ รองกรรมการผู้จัดการ และ ผู้จัดการฝ่ายโรงงานผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET บริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้นำเยี่ยมชม

ผศ. ดร. พิเชษฐ อนุรักษ์อุดม (คนกลาง) ชมโรงงาน WASHLET ของ TOTO

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ทำให้ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับเรื่องของความสะอาด และหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดยับยั้งเชื้อโรคมากยิ่งขึ้น แอลกอฮอล์จึงถูกนำมาใช้เพื่อทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นเหตุให้มีบางช่วงที่แอลกอฮอล์นั้นขาดตลาด มีราคาแพงขึ้น และหาซื้อได้ยาก ทางคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ริเริ่มโครงการผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อจากกรดไฮโปคลอรัส (Hypochlorous Acid) หรือ HOCl เพื่อแจกจ่ายแก่บุคลากร และประชาชนโดยรอบ

สำหรับกรดไฮโปคลอรัส เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา รวมไปถึงสปอร์ของเชื้อราได้ สามารถใช้ทำความสะอาดได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน

“ในความเป็นจริง เซลล์เม็ดเลือดขาวในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถผลิตกรดไฮโปคลอรัสได้เอง และในร่างกายมนุษย์ก็มีการผลิตสารนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต่อต้านไวรัสในร่างกาย รวมถึงช่วยในการปกป้อง กำจัดเชื้อโรคที่แปลกปลอมเข้ามาสู่ร่างกาย” ผศ. ดร. พิเชษฐ อนุรักษ์อุดม รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน กล่าว

กรดไฮโปคลอรัสถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในหลากหลายประเทศ และหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น ทางด้านยุโรป, สหรัฐอเมริกา, เกาหลี แม้กระทั่งประเทศญี่ปุ่นเอง ซึ่งมีการใช้ในหน่วยงานทหารเรือ สำหรับทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในเรือ, วงการแพทย์ ที่ใช้สำหรับทำความสะอาดแผล และใช้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในโรงพยาบาล, วงการทันตกรรม ใช้สำหรับให้คนไข้กลั้วทำความสะอาดช่องปากก่อนทำฟัน และยังมีการใช้ทางด้านปศุสัตว์และด้านการเกษตร เพียงแต่อาจจะยังไม่ได้มีการใช้อย่างแพร่หลายภายในประเทศไทยมากนัก จนในช่วงหนึ่งที่แอลกอฮอล์ขาดแคลน ผู้คนจึงให้ความสนใจกับกรดไฮโปคลอรัสมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ งานวิจัยเกี่ยวกับ HOCl จึงยังค่อนข้างน้อยอยู่เมื่อเทียบกับผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในต่างประเทศ

ความแตกต่างระหว่างกรดไฮโปคลอรัส (HOCl) กับแอลกอฮอล์ (เอทิลแอลกอฮอล์) คือ กรด HOCl มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคได้เร็วกว่า ปลอดภัยกว่า สามารถใช้กับอาหาร กับพื้นผิวบอบบางได้ อย่างเด็ก เป็นต้น อีกทั้งเมื่อใช้ทำความสะอาดแล้ว เวลาที่สลายตัวไป ก็จะเหลือเพียงแค่เกลืออย่างเดียว มีความปลอดภัยสูง ในขณะที่แอลกอฮอล์มีข้อเสียคือเป็นสารที่ติดไฟ และบางคนอาจเกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้ นอกจากนี้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อที่ต้องใช้เวลานานกว่า

“การผลิตกรดไฮโปคลอรัสนั้นมีกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อนมาก” ผศ. ดร. พิเชษฐ อนุรักษ์อุดม อธิบายเพิ่มเติม

สารตั้งต้นของการผลิตกรด HOCl มีหลากหลาย อาทิ การนำเกลือแกง (โซเดียมคลอไรด์ (NaCl)) มาละลายน้ำ หรือ ใช้น้ำที่มีคลอรีน (Chlorine) นำมาผ่านกระแสไฟฟ้าเพื่อทำปฏิกิริยาอิเล็กโตรไลซิส (Electrolysis) จึงเกิดเป็นกรดไฮโปคลอรัส

นอกจากอุตสาหกรรมทางด้านอาหารและในทางการแพทย์แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เล็งเห็นถึงประโยชน์และสุขอนามัยจากการใช้ HOCl อย่างเช่น สุขภัณฑ์อัตโนมัติ NEOREST และ ฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ของบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านสุขภัณฑ์ จากประเทศญี่ปุ่น และมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี โดยผลิตภัณฑ์ของ TOTO นั้นมีนวัตกรรมด้านสุขอนามัยที่มีชื่อว่า EWATER+ (Electrolyzed Water) ซึ่งเป็นการนำน้ำประปามาทำปฏิกิริยาอิเล็กโตรไลซิส ทำให้เกิดเป็นกรดไฮโปคลอรัส มีคุณสมบัติในการช่วยลดเชื้อโรคภายในโถสุขภัณฑ์และก้านฉีดชำระ ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน

EWATER+ จะถูกฉีดพ่นทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากการใช้งาน หรือเมื่อไม่มีผู้ใช้งานทุกๆ 8 ชั่วโมง ทำให้โถสุขภัณฑ์ดูสะอาดเหมือนใหม่ตลอดเวลา ช่วยลดเวลาในการทำความสะอาด นอกจากปลอดภัยกับผู้ใช้งานแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป น้ำ EWATER+ จะกลับคืนสภาพกลายเป็นน้ำปกติ ทำให้เป็นนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเทคโนโลยี EWATER+ ภายในผลิตภัณฑ์ของ TOTO นี้ ได้รับรางวัลการันตีระดับโลก จาก GREEN GOOD DESIGN Awards 2018 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบหรือมีเทคโนโลยีเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

เนื่องจากว่าเราทุกคนมีความจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำในทุกๆ วัน หรือห้องน้ำสำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาล จะต้องมีสุขอนามัยและระบบการฆ่าเชื้อที่ดี ซึ่ง TOTO มีนวัตกรรมฝารองนั่งอัตโนมัติ ที่สามารถผลิตน้ำอิเล็กโตรไลซ์ (Electrolyzed Water) ซึ่งทำให้เกิดน้ำยาฆ่าเชื้อที่เรียกว่ากรดไฮโปคลอรัส สามารถใช้ทำความสะอาดตัวสุขภัณฑ์ที่ผ่านการใช้งานจากหลายบุคคล แล้วทำให้มีความปลอดเชื้อได้ดี มีสุขอนามัย ซึ่งผมคิดว่าเป็นนวัตกรรมที่ดีมากในยุคของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนะครับ” ผศ. ดร. พิเชษฐ อนุรักษ์อุดม กล่าวปิดท้าย