รวมทำเลฮอตบ้าน-คอนโดเปิดใหม่ไตรมาส 2 ปี 2565 ดีเวลลอปเปอร์สั่งลุยผุดโครงการ 2 ไตรมาสพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด เผยคอนโดคืนตลาดกว่า 3.3 หมื่นหน่วย
ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า โครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 23,766 หน่วย แบ่งเป็นอาคารชุด 14,932 หน่วย และบ้านจัดสรร 8,834 หน่วย
แม้จะลดลงประมาณ 20% จากไตรมาส 1 ปี 2565 ซึ่งเป็นไตรมาสที่มีการเปิดโครงการใหม่สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 โดยมีจำนวนโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 29,594 หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 10,750 หน่วย และอาคารชุด 18,844 หน่วย
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 เป็นไตรมาสที่มีการโครงการเปิดใหม่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ซึ่งมีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่จำนวน 9,102 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 161.1%
โดยเฉพาะอาคารชุดมีการเปิดตัวโครงการใหม่ที่เพิ่มสูงถึง 416.5% เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 มีจำนวนอาคารชุดเปิดตัวใหม่เพียง 2,891 หน่วยเท่านั้น นอกจากนี้ จำนวนหน่วยของอาคารชุดเปิดใหม่ในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2565 ซึ่งมีจำนวนรวมกันที่ 33,776 หน่วย ยังมากกว่าจำนวนหน่วยของอาคารชุดเปิดใหม่ทั้งปี 2564 ถึง 12,726 หน่วย
ขณะที่มูลค่าโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในไตรมาส 2 ปี 2565 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 143,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 245% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 แบ่งเป็นบ้านจัดสรรมูลค่า 81,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.5% และอาคารชุดมูลค่า 62,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 758.9% และถือเป็นไตรมาสที่มีมูลค่าโครงการเปิดใหม่สูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2561 เป็นต้นมา
สำหรับทำเลที่มีการเปิดโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1.เขตธนบุรี จำนวน 3,098 หน่วย เป็นโครงการอาคารชุดทั้งหมด มีมูลค่าโครงการ 3,718 ล้านบาท
2.อำเภอปากเกร็ด จำนวน 2,739 หน่วย แบ่งเป็นอาคารชุด 2,380 หน่วย บ้านจัดสรร 359 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 9,749 ล้านบาท
3. อำเภอบางพลี จำนวน 1,763 หน่วย เป็นบ้านจัดสรรทั้งจำนวน มูลค่าโครงการรวม 32,436 ล้านบาท
4.เขตลาดพร้าว จำนวน 1,250 หน่วย เป็นโครงการอาคารชุดทั้งจำนวน มูลค่าโครงการ 4,669 ล้านบาท
5.เขตจตุจักร จำนวน 1,209 หน่วย แบ่งเป็นอาคารชุด 1,199 หน่วย บ้านจัดสรร 10 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 3,515 ล้านบาท
สำหรับระดับราคาของโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 พบว่า ระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยเปิดขายมากที่สุด 7,217 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 30.4% โดย 5 ทำเลที่มีโครงการที่อยู่อาศัยราคา 2-3 ล้านบาทเปิดตัวมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ลาดพร้าว 2. บางกอกน้อย 3. จตุจักร 4. ปากเกร็ด 5. บางพลี
ทั้งนี้หากแยกเป็นประเภทที่อยู่อาศัยและระดับราคา จะพบว่า โครงการบ้านจัดสรรเปิดใหม่ในไตรมาส 2 ปี 2565 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 2,569 หน่วย คิดเป็น 29.1% และระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 2,520 หน่วย คิดเป็น 28.5%
5 ทำเลที่มีโครงการบ้านจัดสรรราคา 2-3 ล้านบาทเปิดตัวมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.บางพลี 2.พระสมุทรเจดีย์ 3.ธัญบุรี 4.สามพราน 5.กระทุ่มแบน และ 5 ทำเลที่มีโครงการบ้านจัดสรรราคา ราคา 3-5 ล้านบาท เปิดตัวมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.บางใหญ่ 2.บางบัวทอง 3.ทุ่งครุ 4.บางพลี 5.เมืองสมุทรปราการ
ส่วนโครงการอาคารชุดเปิดใหม่ในไตรมาส 2 ปี 2565 ส่วนใหญ่เป็นอาคารชุดที่อยู่ในระดับราคา 1-1.5 ล้านบาท มีจำนวน 5,101 หน่วย คิดเป็น 34.2% และอาคารชุดในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ที่มีจำนวน 4,648 หน่วย คิดเป็น 31.1%
5 ทำเลที่มีอาคารชุดราคา 1-1.5 ล้านบาท เปิดตัวมากที่สุด ได้แก่ 1.ธนบุรี 2.ปากเกร็ด 3.จตุจักร4.บางเสาธง 5.มีนบุรี และ 5 ทำเลที่มีอาคารชุดราคา 2-3 ล้านบาท เปิดตัวมากที่สุด 1.ลาดพร้าว 2.บางกอกน้อย 3.จตุจักร 4.ปากเกร็ด 5.มีนบุรี
แม้ว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างร้อนแรงในไตรมาสที่ 1-2 ของปี 2565 แต่คาดว่า การเปิดตัวโครงการใหม่ในครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลง โดยที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ว่า ในไตรมาสที่ 3 จะมีโครงการเปิดตัวใหม่รวม 9,468 หน่วย มูลค่ารวม 64,732 หน่วย แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 6,999 หน่วย มูลค่ารวม 49,159 ล้านบาท และอาคารชุด จำนวน 2,469 หน่วย มูลค่ารวม 15,573 ล้านบาท
ส่วนในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 การเปิดโครงการใหม่จะขยับขึ้นจากไตรมาสที่ 3 โดยมีจำนวนหน่วยรวมทั้งสิ้น 14,900 หน่วย มูลค่ารวม 86,242 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 10,271 หน่วย มูลค่า 46,165 ล้านบาท และอาคารชุด 4,629 หน่วย มูลค่า 40,077 ล้านบาท
ดร. วิชัย กล่าวว่า ในปี 2565 การเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดคาดว่า จะมีจำนวนรวมประมาณ 77,728 หน่วย เพิ่มขึ้น 50.8% จากปี 2564 ซึ่งมีจำนวนโครงการใหม่ทั้งสิ้น 51,531 หน่วย โดยมีมูลค่าโครงการใหม่รวมกันทั้งสิ้น 401,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.3% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีมูลค่าโครงการใหม่รวม 218,950 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2564 เป็นปีที่มีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ต่ำสุดในรอบ 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 และต่ำกว่าปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพมหานครที่มีจำนวนโครงการใหม่รวม 82,595 หน่วย