fbpx

ศุภาลัยผนึก 4 พันธมิตร เดินหน้าติดโซลาร์รูฟโครงการบ้านจัดสรร

ศุภาลัย จับมือ 4 พันธมิตร นำโครงการบ้านเข้าร่วมโครงการ SolarPlus ติดตั้งโซลาร์รูฟให้แก่ประชาชน ตอกย้ำการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ชี้อสังหาฯครึ่งปีหลังฟื้นตัวดีขึ้น เร่งเปิด 21 โครงการใหม่ปั๊มยอดขาย

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด และบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เปิดโครงการ SolarPlus ติดตั้งโซลาร์รูฟให้แก่ประชาชนฟรี ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญต่อการออกแบบโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Green Design โดยเน้นออกแบบเป็นบ้านประหยัดพลังงานมาอย่างยาวนาน

นอกจากนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 25% ภายใน 3 ปี ซึ่งเตรียมเดินหน้าติดตั้งโซลาร์ที่อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ ตลอดจนมีแผนการติดตั้ง EV charger ที่โครงการทั่วประเทศ เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการลดก๊าซเรือนกระจก และเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก

พร้อมจับมือร่วมกับพันธมิตรธุรกิจที่มีนโยบายใส่ใจรักษ์โลก ดูแลสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเข้าร่วมโครงการ SolarPlus กับธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ โดยบริษัทได้คัดเลือกโครงการศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2 ซึ่งเป็นโครงการแนวราบ มีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วจำนวนมากมาไม่น้อยกว่า 4-5 ปี เข้าร่วมโครงการ และคาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกบ้านเป็นอย่างดี เนื่องจากช่วยประหยัดไฟฟ้าให้กับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการดังกล่าว

“ถือเป็นจังหวะที่ดี เพราะตอนนี้ค่าไฟแพงขึ้น น้ำมันแพงขึ้น ทำให้ประชาชนต้องการพลังงานสะอาด ถ้าเราสามารถนำเรื่องโซลาร์รูฟมาใช้กับบ้านที่เสร็จสมบูรณ์ โอนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว อยู่มาแล้ว 5-10 ปี จะเป็นสิ่งที่ดีมาก และเรารักษ์โลกโดยที่ต้นทุนไม่สร้างภาระใหักับลูกค้า ส่วนจะขยายผลไปสู่โครงการทั่วประเทศหรือไม่ยังตอบไม่ได้ชัดเจน เนื่องจากอยู่ในระยะการเริ่มต้น แต่สิ่งที่ดี คือ เราสามารถลดขนาดของที่อยู่อาศัยในกลุ่มคนที่จะสามารถติดโซลาร์รูฟได้ จากที่ต้องเป็นบ้านราคา 8 ถึง 20 ล้านบาท

แต่เราสามารถทำได้กับโครงการ ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2 บ้านระดับกลางราคา 3-6 ล้านบาท ซึ่งเป็นฐานใหญ่ที่มีส่วนแบ่งในตลาดถึงร้อยละ 70-80 โดยเราจะมีการคัดเลือกบ้านลูกค้าในบางหลังร่วมโครงการ เพื่อประเมินในเรื่อง สามารถลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าได้ระดับไหน สามารถขายไฟคืนได้จริง และพิจารณาเรื่องของต้นทุน แต่เราก็เชื่อมั่นว่า ลูกค้าจะไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะปฎิเสธในเรื่องของการติดโซลาร์รูฟบนหลังคา ต่างจากอดีตที่เรื่องต้นทุนที่สูงอาจทำให้ลูกค้าไม่ได้กลายเป็นคนดีได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งศุภาลัยเข้ามาช่วยในการส่งเสริมให้สังคมดีขึ้นเท่านั้น” นายไตรเตชะกล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปี 2565 (ส.ค.-ธ.ค.) นายไตรเตชะให้ความเห็นว่า ตลาดในขณะนี้ดีกว่าที่คิดไว้ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และดูเหมือนว่า อัตราดอกเบี้ยจะไม่ขึ้นรุนแรงอย่างที่เราประเมินไว้ เงินบาทเริ่มนิ่งขึ้น และหวังว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้มากขึ้น ดังนั้นแนวโน้มของอสังหาฯครึ่งปีหลังที่เริ่มดีขึ้น ทางศุภาลัยจะเร่งเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอีก 21 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายที่เป็นโครงการพร้อมโอน ซึ่งจะส่งผลให้ตัวเลขรายได้ภายในประเทศ มีโอกาสทำได้เกินเป้าที่วางไว้ โดยเป้ายอดขายทั้งปีอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท และเป้ารายได้ 29,000 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันบริษัทมีโครงการพร้อมโอนประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 15,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท