fbpx
5 New Centro2

เอพี ฝ่ามรสุมเงินเฟ้อ ปูพรม 40 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 5.3 หมื่นล้าน

เอพี ฝ่ามรสุมเงินเฟ้อในครึ่งปีหลัง ลุยเปิด 40 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 5.3 หมื่นล้าน มั่นใจบริหารจัดการต้นทุน ไม่ให้กระทบถึงตัวลูกค้ามากที่สุด ปูพรมโปรดักต์ใหม่ขยายฐานตลาดทั้ง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโด

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในครึ่งปีแรกแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดจะเริ่มคลี่คลายลง แต่ทุกคนทั่วโลกกำลังต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ ราคาสินค้าที่แพงขึ้นที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจแทบทุกประเทศ ซึ่งสิ่งที่เอพีทำมาโดยตลอดคือการมอนิเตอร์ทุกสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาปรับแผนการทำงาน ตลอดจนการบริหารจัดการต้นทุน เพื่อคงราคาขายดังเดิมไม่ให้กระทบไปยังลูกค้ามากที่สุด

สำหรับในครึ่งปีหลัง บริษัทจะมีโครงการพร้อมขายกระจายทั่วกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดรวมกันมากถึง 160 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 122,350 ล้านบาท ประกอบด้วย 40 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 53,620 ล้านบาท ที่เตรียมจะเปิดตัวในครึ่งปีหลังนี้ โดยแบ่งเป็นทาวน์โฮม 16 โครงการ มูลค่า 16,440 ล้านบาท บ้านเดี่ยวจำนวน 18 โครงการ มูลค่า 24,030 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 3 โครงการ มูลค่า 2,750 ล้านบาท และ 120 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและขาย

ทั้งหมดสะท้อนได้ถึงการเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้านของเอพี ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการต้นทุน การวางแผนเรื่องแรงงาน ตลอดจนการบริหารจัดการ เพื่อรองรับกับจำนวนโครงการที่มีปริมาณมากควบคู่กับภาวะความผันผวนที่เกิดขึ้น

นายวิทการ กล่าวอีกว่า สำหรับผลงานในครึ่งปีแรกบริษัทสามารถสร้างนิวเรคคอร์ดได้อีกครั้ง โดยมียอดขายมากถึง 25,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 43% หากเทียบกับครึ่งปีก่อนหน้า โดยเฉพาะสินค้าซูเปอร์สตาร์อย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้ภาพรวมสินค้าแนวราบในครึ่งปีแรกเติบโตขึ้นกว่า 25% ขณะที่กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม ยอดขายก็ปรับตัวดีขึ้นกว่าเกือบ 3 เท่า ถือเป็นการส่งสัญญาณบวกที่ดีให้กับตลาดฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นการเติบโตแบบ Organic Growth ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการวางแผนองค์กรให้พร้อมตั้งรับกับทุกสภาวะได้อย่างชัดเจน

สำหรับไฮไลต์ที่น่าสนใจในครึ่งปีหลังคือการต่อยอดความสำเร็จของสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ด้วยการขยายไปยังทำเลเขตปริมณฑล อย่างสมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี และปทุมธานี เพื่อตอบกลุ่มเป้าหมายที่กว้างมากขึ้น ด้วยโปรดักต์และแบบบ้านใหม่ๆ

สำหรับกลุ่มธุรกิจทาวน์โฮม เตรียมเดินตามโรดแมป “Unlock Vertical Life พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกเองได้” พลิกทุกข้อจำกัดด้วย 20 แบบบ้านทาวน์โฮมใหม่ พร้อมการกลับมาของแบรนด์ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” นำร่องทำเลสุขุมวิท 77

ขณะที่คอนโดมิเนียม หลังจากประสบความสำเร็จในครึ่งปีแรกจากการจุดพลุตลาดแมสคอนโด จากการเปิดตัว ASPIRE ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ และ ASPIRE รัชโยธิน ในครึ่งปีหลังเตรียมเปิดตัวอีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 10,400 ล้านบาท ได้แก่ ASPIRE สุขุมวิท-พระราม 4 ASPIRE อ่อนนุช สเตชั่น และ LIFE พหล-ลาดพร้าว

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้จาก 2 คอนโดพร้อมอยู่ กับ LIFE สาทร เซียร์รา และ RHYTHM เอกมัย เอสเตท อีกด้วย โดยบริษัทยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้พันธกิจใหญ่คือ การส่งมอบชีวิตที่ดีๆ ที่เลือกเองได้ ด้วยแผนการดำเนินงานที่รัดกุม ควบคู่ไปกับความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยการบริหารจัดการแบบกระจายอำนาจ ควบคู่การบริหารจัดการกระแสเงินสดอย่างเคร่งครัด

ส่วนกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวเตรียมพบกับแบบบ้านโมเดลใหม่ทั้งหมด ภายใต้แนวคิด “Functional is Beautiful บ้านที่เข้าใจชีวิต” พร้อมแผนการบุกตลาดบ้านเดี่ยว 3-5 ล้านบาท เพื่อกินแชร์ตลาดเพิ่ม ด้วยโปรดักต์ใหม่แกะกล่องที่พร้อมเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ของปี