สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยต้นทุนสร้างบ้านฉุดไม่อยู่ จ่อปรับราคา 5-8% ในไตรมาส 2 คาดตลาดรวมทรงตัว เร่งจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาด
ธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2565 ยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยด้านลบที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะลดระดับความรุนแรงลง แต่ที่มาแรงแซงหน้าก็คือผลกระทบจากภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดภาวะชะงักงัน
ที่สำคัญต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการก่อสร้างและราคาบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลกระทบนี้จะถูกส่งตรงมายังผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน วันนี้ นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจะมาปรับจูนภาพตลาดรับสร้างบ้านท่ามกลางมรสุมลูกใหม่ทิศทางตลาดและราคาจะไปทางไหนไปฟังกันครับ
ในช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ปี 2565 สถานการณ์โดยรวมของตลาดรับสร้างบ้านถือว่ามีสัญญาณที่เป็นบวก จากสถานการณ์โควิดที่เริ่มผ่อนคลาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมา ผู้บริโภคที่วางแผนจะสร้างบ้านแต่ชะลอการตัดสินใจเอาไว้ในช่วงไตรมาส 2-3 ของปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงโควิดระบาดอย่างหนัก เริ่มกลับเข้ามาในช่วงปลายปีที่สมาคมมีการจัดงาน รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021 ทำให้หลายบริษัทรับงานแทบไม่ทัน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มพลิกผันอีกครั้ง เมื่อเกิดภาวะสงครามรัสเซียบุกยูเครน ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบที่เพิ่มขึ้นทำให้สถานการณ์ในตอนนี้เริ่มไม่แน่นอน ทั้งนี้ หากมองที่ปัจจัยบวกก็ยังเป็นเรื่องของสถานการณ์โควิดที่เริ่มผ่อนคลาย ความกังวลเรื่องโควิดลดลง ขณะที่ภาครัฐก็ไม่มีนโยบายที่จะล็อคดาวน์เหมือนที่ผ่านมา กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเป็นปกติ
นอกจากนี้ ตัวเลข GDP ที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.5-4.5% ฟื้นตัวดีขึ้นจากปีที่แล้วที่ GDP อยูที่ 1.6% โดยภาคส่งออกยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี ขณะที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามามากกว่าปีที่แล้ว ปัจจัยเหล่านี้ จะช่วยสนับสนุนให้คนที่มีแผนจะสร้างบ้านมีโอกาสที่จะตัดสินใจสร้างบ้านมากขึ้น
ขณะที่ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือเรื่องของภาวะสงคราม ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับราคาพลังงาน และเมื่อราคาพลังงานปรับขึ้นอย่างอื่นก็จะปรับขึ้นตามมา ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนการก่อสร้างบ้านที่ปัจจุบันราคาวัสดุก็ได้มีการปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัสดุประเภทโลหะที่มีปรับขึ้นโดยรวมและ 50% ถ้าน้ำมันยังคงปรับขึ้นต่อเนื่องก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตา
เช่นเดียวกับเรื่องของแรงงานที่อาจจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 492 บาท ซึ่งในปัจจุบันค่าแรงส่วนใหญ่ก็ได้สูงกว่าขึ้นต่ำอยู่แล้ว ในบางเคสที่ต้องใช้แรงงานทักษะสูงจะอยู่ที่ 500-700 บาทต่อวัน ส่วนแรงงานที่แม้ไม่มีทักษะก็จะอยู่ที่ 331 บาท ซึ่งหากมีการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำย่อมมีผลให้ค่าแรงก็ต้องยกขึ้นทั้งระบบและจะส่งผลต่อราคาบ้านในอนาคตได้ นอกจากนี้ยังพบการขาดแคลนแรงงานแรงงานให้เห็นบ้างแล้ว
ปัจจัยลบทั้งเรื่อง ราคาน้ำมัน ค่าแรง ราคาวัสดุ ส่งกระทบต่อต้นทุนราคาบ้านที่คาดว่าจะมีการปรับราคาขึ้น 5-8% ในอนาคตอันใกล้ โดยขณะนี้แต่ละบริษัทยังคงพยายามตรึงราคาเดิม แต่คาดว่าในไตรมาสที่ 2 จะเริ่มเห็นทิศทางของการปรับราคาบ้านเกิดขึ้น
นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า จากการประเมินสถานการณ์ทั้งปัจจัยบวกและลบแล้ว คาดว่าตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะยังคงทรงตัวโดยมีมูลค่ารวมที่ 11,500 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของสมาคมได้จัดกิจกรรม เพื่อกระตุ้นการซื้อขายมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เตรียมจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ 2022 ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม-3เมษายน 2565 ที่อิมแพคเมืองทองธานี
ขณะที่นายอนันต์กร อมรวาที อุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมได้เตรียมกระตุ้นกำลังซื้อผ่าน “งานรับสร้างบ้านและวัสดุ FOCUS 2022” ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำของประเทศไทยที่จะมานำเสนอบริการแบบครบวงจร ทั้งแบบบ้านใหม่ นวัตกรรมการสร้างบ้าน ภายใต้แนวคิด “ฉีดทุกข้อจำกัดในการสร้างบ้าน”
โดยมีบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคม มาร่วมออกบูธกว่า 30 บริษัท มีแบบบ้านในราคากหลักล้านถึงร้อยล้านให้ได้เลือกตามความเหมาะสม พร้อมกับโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งเรื่องของราคาส่วนลด ของแจก ของแถมที่แต่ละบริษัทจะเสนอให้กับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน ซึ่งในปีนี้มั่นใจว่ายอดจองบ้านภายในงานจะใกล้เคียงปีที่ผ่านมาที่ประมาณ 2,100 ล้านบาท
“ผู้ที่ต้องการสร้างบ้านแต่ยังลังเลในเรื่องของราคาบ้าน หรือจะรอให้ราคาวัสดุปรับลดลงก่อน คงไม่ต้องรอให้มาที่งาน เพราะผู้ประกอบการได้หั่นกำไรลง ให้ผู้บริโภคได้สร้างบ้านตามที่ต้องการ และยังเป็นการช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจอีกช่องทางด้วย
นอกจากนี้ หากลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าที่ https://www.hba-th.org/home_focus22 ยังได้รับแบบบ้านใหม่พร้อมแปลน ในรูปแบบ e-book คูปองส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท และเมื่อจองปลูกสร้างบ้านภายในงานลุ้นรับรางวัลทองคำแท่งมูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท ด้วย” นายอนันต์กรกล่าวปิดท้าย
