ถนนบรมราชชนนี เป็นหนึ่งในทำเลอยู่อาศัยชั้นดีของกรุงเทพมหานคร ด้วยกฎหมายผังเมืองที่กำหนดให้พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียว สามารถสร้างที่อยู่อาศัยเฉพาะบ้านเดี่ยวขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป จึงเหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ปลอดจากมลภาวะต่างๆ
ประกอบกับ ทำเลที่ตั้งที่อยู่ไม่ไกลจากเขตเมือง มีระบบคมนาคมที่สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบายหลายช่องทาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ที่สำคัญเป็นพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยม จึงเป็นทำเลที่มีโครงการบ้านจัดสรรราคาแพงเกิดขึ้นมากมายหลายโครงการ
ล่าสุด บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ในระดับลักชัวรี่ บนถนนบรมราชชนนี พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 3 สไตล์ จำนวน 86 หลัง บนเนื้อที่ 34 ไร่ ในราคาเริ่มต้น 20-30 ล้านบาท
วันนี้เราจะพาไปชมความเลิศหรูอลังการของการอยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ทุกๆ ความต้องการได้อย่างลงตัวของโครงการนี้กันครับ
ขอเริ่มต้นที่ทำเลที่ตั้งของโครงการกันก่อน เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 เนื่องจากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ที่อยู่ติดถนนใหญ่ บริเวณปากซอย 121 ถนนบรมราชชนนี ฝั่งขาออกเลยจากถนนพุทธมณฑลสาย 3 มาไม่ไกลนัก
ถือเป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวกด้วยถนนสายหลักหลายสายไม่ว่าจะเป็น ถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑล ถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนรอบนอก) ถนนราชพฤกษ์ และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ทางยกระดับลอยฟ้าตรงเข้าเมือง
นอกจากนี้ ยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทาง เข้าสู่เมือง โครงการอยู่ห่างจากสถานีตลิ่งชันประมาณ 16 กม. และในอนาคตยังมีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนจากตลิ่งชัน-ศาลายา โดยมีสถานีศาลายาอยู่ใกล้ๆ กับโครงการด้วยระยะเพียง 3.6 กม.
ขณะเดียวกัน ในอนาคตยังมีแผนก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมสำคัญๆ อีกหลายเส้นทางที่จะสามารถเชื่อมต่อการเดินทางและเสริมศักยภาพของทำเลฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานครให้ดียิ่งขึ้น อาทิ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) บางใหญ่-กาญจนบุรี ถนนวงแหวนรอบที่ 3 รถไฟความเร็วสูง สายภาคใต้ ถนนนครอินทร์-ศาลายา โครงการส่วนต่อขยายถนนยกระดับบรมราชชนนี พุทธมณฑล สาย 2-ศาลายา ทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ตามแนววงแหวนฝั่งตะวันตก เป็นต้น
ในด้านการพัฒนาพื้นที่ระดับเมือง ตามผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ประมาณปี 2567 พื้นที่บริเวณถนนบรมราชชนนี จะถูกส่งเสริมให้เป็นศูนย์ชุมชนชานเมือง 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ชุมชนชานเมืองตลิ่งชัน และศาลายา สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเชิงพาณิชย์ระดับชุมชน เชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชนทางรางในรูปแบบของ TOD (Transit Oriented Development) เพิ่มความหนาแน่น และความหลากหลายของกิจกรรมภายในพื้นที่ เพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง ซึ่งจะทำให้พื้นที่โดยรอบเกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้นในอนาคต
ประกอบกับ สิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล ร้านค้า ร้านอาหาร ก็มีให้เลือกอย่างมากมายในพื้นที่ อาทิ ฟู้ดแลนด์ ระยะทาง 1.4 กม. ดีไซน์ วิลเลจ ระยะทาง 3.2 กม. เดอะ พาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก ระยะทาง 9 กม. เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ ระยะทาง 12 กม. ฟู้ดวิลล่า ราชพฤกษ์ ระยะทาง 12.6 กม. เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ระยะทาง 8 กม. เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ระยะทาง 15 กม.
มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ระยะทาง 3 กม. โรงเรียนสาธิตนานาชาติ ม. มหิดล ศาลายา ระยะทาง 3.7 กม. โรงเรียนอัญสัมชัญ ธนบุรี 9.5 กม. โรงเรียนเพลินพัฒนา ระยะทาง 9.8 กม. โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ธนบุรี (SISB) 16.5 กม. ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ระยะทาง 2 กม. และโรงพยาบาลธนบุรี 2 ระยะทาง 6.5 กม. เป็นต้น
เข้ามาที่ตัวโครงการศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 ซึ่งพัฒนาภายใต้แนวคิด “Timeless Living Archetype” ต้นแบบชีวิตเหนือกาลเวลากับบ้านดีไซน์ใหม่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Modern Classic ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างสถาปัตยกรรมสไตล์ Modern และ Classic และที่สำคัญศุภาลัยคำนึงถึงการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันเป็นอีกหนึ่งแกนหลักในการออกแบบ
สถาปัตยกรรมแบบ Modern Classic ที่นำมาใช้ในการออกแบบบ้านในโครงการศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 มีจุดเด่นในการจัดส่วนของบ้านให้มีห้องที่กว้างและปลอดโปร่งด้วยเพดานสูง เน้นความสมดุล (Symmetrical Balance) เล่นระดับของฝ้าเพดานเพื่อเพิ่มมิติของห้อง ให้ความรู้สึก เรียบง่าย สง่างาม อบอุ่น และมีความหรูหรา
บ้านในโครงการศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 ถือว่าเป็นโครงการเดี่ยวบนถนนบรมราชชนนีที่ออกแบบให้เป็นบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ 3 ชั้น ซึ่งทางศุภาลัยได้สำรวจทำเลในย่านนี้แล้วพบว่ามีแต่โปรดักส์ที่เป็นบ้าน 2 ชั้น ประกอบกับ ที่ดินบริเวณนี้ต้องพัฒนาเป็นบ้าน 100 ตารางวาขึ้นไป จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาเป็นบ้าน 3 ชั้น เพื่อให้โปรดักส์มีความแตกต่างที่รองรับความต้องการใช้พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นในยุคปัจจุบัน
จุดเด่นของบ้านเดี่ยว 3 ชั้น บนพื้นที่ 100 ตารางวา ก็คือทำให้มีพื้นที่ว่างรอบๆ บ้านที่กว้างขวางยิ่งขึ้นโดยมีระยะห่างจากตัวบ้านถึงรั้วอยู่ที่ 4-5 เมตร เป็นการขยายพื้นที่แห่งความสุขรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ให้สามารถทำอะไรได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะทำเป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็กๆ หรือต่อเติมเป็นพาวิลเลี่ยนเป็น living area นอกตัวบ้าน หรือจัดเป็นสวนที่มีขนาดที่กว้างขวางขึ้นก็สามารถทำได้เช่นกัน
อีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการก็คือความเป็น Private Community เพราะมีจำนวนบ้านในโครงการเพียง 86 หลัง บนเนื้อที่โครงการรวม 34 ไร่ การวางผังแต่ละซอยจะมีจำนวนบ้านไม่มาก และยังออกแบบโดยคำนึงถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อม และสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัยในโครงการ
ผังโครงการจึงได้จัดวางพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ คลับเฮ้าส์ เอาในโซนด้านหน้า เพื่อเป็น Buffer Area ระหว่างถนนบรมราชชนนีกับพื้นที่อยู่อาศัยภายในโครงการ ช่วยกรองฝุ่น ควัน มลพิษจากภายนอกให้เข้ามาได้น้อยลงในระดับหนึ่ง รวมถึงออกแบบประตู 2 ชั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในโครงการ และส่วนของระบบไฟฟ้าใช้สายไฟลงดินทั้งโครงการเพิ่มความสวยงาม ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทำให้โครงการมีความน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การออกแบบคลับเฮ้าส์ โดยวางตัวอาคารให้ขนานไปกับถนนบรมราชชนนี ทำให้โครงการมีความโดดเด่น สง่างาม เพิ่มความ Elegance ให้กับโครงการ ในส่วนของ คลับเฮ้าส์ จะประกอบด้วย ส่วนของนิติบุคคล ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ที่เชื่อมต่อไปถึงสวนสาธารณะขนาด 1 ไร่ ที่อยู่ด้านในโครงการ มีล็อบบี้ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับรับแขกและยังมี Co-Working Area รองรับการใช้งานในส่วนนี้ด้วย
มาที่แบบบ้านในโครงการศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 ซึ่ง เป็นแบบบ้าน 3 แบบใหม่ที่มีขนาดใหญ่ด้วยความที่เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จึงทำให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในแบบเหลือๆ
เริ่มกันที่บ้านหลังใหญ่สุด “ศุภศิรินทร์” มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 480 ตารางเมตร มี 4 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 2 พื้นที่สำหรับการพักผ่อน 1 ห้องเอนกประสงค์ และอีก 1 ห้องสำหรับครอบครัว และ 4 ที่จอดรถ ซึ่งอาจเพิ่มได้อีกขึ้นอยู่กับขนาดของแปลงที่ดิน แบบบ้านร่วมสมัยที่มีความสมดุลลงตัวสร้างบนที่ดินขนาด 144 ตารางวา
พื้นที่บริเวณชั้น 1 สามารถจัดพื้นที่ใช้สอยให้รองรับกับครอบครัวขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้ง Living Area ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับ Dining Area และพื้นที่ครัวที่อยู่ด้านในพร้อมกับห้องเมท นอกจากนี้ยังมีห้องนอนสำหรับรองรับผู้สูงวัย หรือแขกผู้มาเยือน หรือจะปรับให้เป็นห้องทำงาน ห้องเรียนออนไลน์ก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ และทางโครงการยังได้ออกแบบพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟท์ภายในบ้านเพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้นไปที่ชั้น 2 และชั้น 3
ชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Master Bedroom ขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ด้านขวาของตัวบ้าน ที่มีพร้อมทั้ง Walk in Closet ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำ และยังมีระเบียงกว้างที่สามารถออกไปสูดอากาศภายนอกหรือจัดวางโต๊ะ-เก้าอี้สำหรับนั่งเล่นได้สบายๆ ด้านซ้ายของตัวบ้านที่ชั้น 2 ยังมีห้องนอนอีก 2 ห้อง และพื้นที่ส่วนตรงกลางสามารถจัดเป็น Living Area ส่วนตัวสำหรับครอบครัวได้อย่างลงตัว
ชั้น 3 ถือเป็นไฮไลท์ของบ้าน “ศุภศิรินทร์” เพราะนอกจากจะมีห้องเอนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องทำงานขนาดใหญ่แล้ว ยังมีห้องสำหรับจัดกิจกรรมสำหรับสมาชิกในครอบครัว หรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนฝูง
ที่สำคัญยังมีพื้นที่ Outdoor Terrace ขนาดใหญ่รองรับกิจกรรมกลางแจ้งตามสไตล์ Next Normal ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ปาร์ตี้ บาร์บีคิว หรือจัดเป็น รูฟท็อป บาร์ ก็สามารถทำได้ตรงพื้นที่ส่วนนี้
แบบบ้านต่อไป คือ “ศุภจรินทร์” มีพื้นที่ใช้สอยรวม 399 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 132.5 ตารางวา กับ 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ และอีก 1 พื้นที่ขนาดใหญ่รองรับการพักผ่อนสำหรับครอบครัว พร้อมกับ 4 ที่จอดรถ
เริ่มที่ชั้น 1 ถือเป็นไฮไลท์ของบ้านหลังนี้เลยก็คือ การออกแบบให้มี Double Volume ที่เชื่อมโยงพื้นที่ชั้น 1 กับชั้น 2 เข้าด้วยกันเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นภายในคอบครัวได้เป็นอย่างดี และเปิดพื้นที่โล่งภายในตัวบ้าน ทำให้ดูโอ่โถงโปร่งสบายด้วยการจัดวางฟังก์ชันในแบบ Open Space โดยพื้นที่ด้านหน้าสุดเป็น Living Area ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับ Dining Area ด้านใน และพื้นที่ครัว
อีก 1 ความพิเศษที่บริเวณชั้น 1 ก็คือห้องเอนกประสงค์ที่เป็น Multi-Function สามารถจัดพื้นที่ได้ตามความต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องเรียนออนไลน์ เป็นต้น
ชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Master Bedroom ซึ่งแบบบ้าน “ศุภจรินทร์” มีความพิเศษตรงที่มี Master Bedroom ถึง 2 ห้อง เป็น Double Master Bedroom อยู่ที่ชั้น 2 และชั้น 3 ในส่วนของ Master Bedroom ที่ชั้น 2 จะมีระเบียง สำหรับสามารถจัดเป็นมุมรองรับกิจกรรมสุดโปรดได้ตามความต้องการ และยังมี Family Room ขนาดใหญ่อยู่โซนด้านหลังของชั้น 2 สามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนของครอบครัวได้อย่างหลากหลาย
ส่วนที่ชั้น 3 ของบ้านแบบ “ศุภจรินทร์” เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่จัดประโยชน์การใช้สอยแบบเต็มพื้นที่เพราะนอกจากจะมีอีกหนึ่ง Master Bedroom แล้ว ยังมีห้องนอนที่ 1 ห้องนอนที่ 2 รวมถึง living area สำหรับการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวของครอบครัวอีกด้วย นอกจากนี้ แบบบ้าน “ศุภจรินทร์” ยังจัดเตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งลิฟต์ขึ้น-ลงชั้น 2-3 เอาไว้ด้วยเช่นกัน
มาถึงแบบบ้านน้องเล็ก “ศุภศรัณย์” บ้านไซส์เล็กสุดของโครงการแต่จริงๆ แล้วขนาดไม่เล็กเลยแม้แต่น้อย ด้วยพื้นที่ใช้สอย 380 ตารางเมตร กับ 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 2 พื้นที่พักผ่อน กับอีก 1 Family Room และ 4 ที่จอดรถ
จริงๆ แล้วฟังก์ชั่นภายในของบ้านศุภศรัณย์กับบ้านศุภจรินทร์ จะเหมือนๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบให้มี Double Volume ที่เชื่อมโยงพื้นที่ชั้น 1 กับชั้น 2 มี Double Master Bedroom Family Room และ Living Area แตกต่างกันตรงที่ขนาดที่เล็กกว่าเพียงเล็กน้อย และได้ปรับห้องเอนกประสงค์ของแบบบ้านศุภจรินทร์ให้เป็นห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุ หรือจะจัดไว้รับแขก และตกแต่งให้ออกแนวโมเดิร์นเพื่อรองรับคนรุ่นใหม่
นอกจากแบบบ้านที่โอ่โถงกว้างขวางด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่แล้ว โครงการยังเลือกวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างคุณค่าและความสง่างามให้กับตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชั้นล่างที่ใช้กระเบื้องพอร์ซเลนนำเข้าจากสเปนที่มีขนาดใหญ่ และมีลวดลายหรูหรา สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบ้านแต่ละหลัง ในส่วนของห้องน้ำทุกห้อง พื้นระเบียง ที่จอดรถใช้กระเบื้องพอร์ซเลนเช่นกัน
ราวระเบียง ราวกันตก ราวบันได ของบ้านหลังใหญ่ “ศุภศิรินทร์” ใช้เหล็กที่เรียกว่า Wrought Iron ที่มีสวยงาม แข็งแรง และไม่เป็นสนิม หน้าต่างชั้นล่างมีระบบระบายอากาศลดความร้อยภายในตัวบ้านช่วยให้ประหยัดไฟ และใช้กระจกเขียวตัดแสงป้องกันความร้อนจาก UV ประตูบ้านใช้ไม้สักที่ทำสีพิเศษทั้งสวยและสง่างาม สุขภัณฑ์ของคอตโต้
นอกจากนี้ บ้านทุกหลังยังวางระบบรองรับ EV Charger และระบบลิฟต์ภายในบ้าน รวมถึงเทคโนโลยี เพี่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยต่างๆ เช่น ติดตั้งเซ็นเซอร์ที่ประตู-หน้าต่าง มีกล้องวงจรปิด อุปกรณ์แจ้งเตือน รวมถึง สมาร์ทสวิตซ์ และอุปกรณ์ควบคุมต่างๆ เป็นต้น
และที่สำคัญบ้านในโครงการยังได้ผ่านการประเมินเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานในโครงการบ้านเบอร์ 5 ที่ใช้วัสดุคุณภาพเพื่อลดการใช้พลังงานโดยสิ้นเปลือง จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยอีกด้วย
มาถึงบทสรุปสำหรับโครงการศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 เรื่องแรกเลยก็คือทำเลของบ้านระดับลักชัวรี่ที่อยู่ติดถนนใหญ่ไม่ไกลจากเมืองและมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างพร้อมสรรพ และในอนาคตศักยภาพของทำเลจะยิ่งสูงขึ้นไปอีกจากรถไฟฟ้าสายสีแดงและโครงข่ายคมนาคมต่างๆ และอยู่ในพื้นที่ที่สนับสนุนให้เป็นศูนย์ชุมชนชานเมือง แต่ยังคงสภาพแวดล้อมที่ดี เพราะ ถูกกำหนดบ้านที่สร้างในบริเวณดังกล่าวต้องมีขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป
โครงการมีขนาดไม่ใหญ่ด้วยพื้นที่ 34 ไร่ จำนวน 86 หลัง มีความเป็น Private Community ที่ดี บ้านในโครงการถูกออกแบบในสไตล์ Modern Classic เป็นบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ 3 ชั้น ซึ่งเป็นโครงการเดียวในย่านนี้ ที่มีพื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและภายในอย่างเหลือเฟือ สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้ตามความต้องการของสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะในยุค Post Covid ที่พื้นที่ปลอดภัยภายในบ้านเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมี รวมถึงพื้นที่พักผ่อน พื้นที่สันทนาการสำหรับครอบครัวก็มีรองรับอย่างเพียงพอให้สมาชิกในบ้านได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างอบอุ่น
กับราคาบ้าน 20-30 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและต้องการมองหาบ้านสำหรับการขยับขยายครอบครัวขนาดใหญ่ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว โครงการศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลยครับ
