ครบรอบ 40 ปี รอยัลออคิด เชอราตัน ประกาศแผนโร้ดแมปใน 2 ปีข้างหน้า สู่การเป็นโรงแรมชั้นนำภายใต้แนวคิดใหม่ WELLeisureTM Hotel สร้างเอกลักษณ์เฉพาะด้วยการผสมผสานการพักผ่อนและดูแลสุขภาพเข้าด้วยกัน ชูจุดเด่นด้วยบริการด้านเวลเนสเต็มรูปแบบ พร้อมแผนปรับปรุงร้านอาหารริมน้ำ และเปิดรูฟท็อปบาร์ริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด เพิ่มศักยภาพในการต้อนรับนักท่องเที่ยว
นายวิทวัส วิภากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทโรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังประสบความสำเร็จในการขายทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แกรนด์ รอยัล ออคิด โฮสพีทาลิตี้ ที่มีข้อตกลงในการซื้อคืน หรือ GROREIT มูลค่า 4,500 ล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา ในปี 2565 ซึ่งเป็นวาระที่โรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน เปิดดำเนินการครบ 40 ปี โรงแรมยังได้จัดทำแผนแม่บทในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า เตรียมพัฒนาไปสู่การเป็นโรงแรมชั้นนำภายใต้แนวคิดใหม่ WELLeisureTM Hotel ตอบสนองเทรนด์ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทั่วโลก
“รอยัลออคิด เชอราตัน มีแผนเดินหน้าภายใต้แนวคิด WELLeisureTM Hotel สร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการผสมผสานการพักผ่อนและดูแลสุขภาพเข้าไว้ด้วยกัน จุดเด่นอยู่ที่การเปิดบริการด้านเวลเนสและสุขภาพแบบองค์รวม บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ให้บริการเต็มรูปแบบ อาทิ การดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย การบำบัดด้วยโภชนาการ เวชศาสตร์ป้องกันและการฟื้นฟูสุขภาพ เป็นต้น โดยจะทำให้ขั้นตอนการดูแลสุขภาพสามารถทำได้ง่ายและเข้าถึงได้ในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว จับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนควบคู่กับการดูแลสุขภาพ”
นอกจากนี้ โรงแรมยังมีแผนเปิดรูฟท็อปบาร์แห่งใหม่ ขนาดพื้นที่กว่า 4,500 ตารางเมตร ที่จะเป็นรูฟท็อปริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดที่สามารถชมวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน ซึ่งทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยายังเป็นจุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ขณะที่บริการด้านอาหารเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโรงแรม ปัจจุบันร้านอาหารของโรงแรมยังเป็นจุดยอดนิยมในการชมพลุได้อย่างสวยงามด้วยที่ตั้งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับไอคอนสยาม โรงแรมจึงมีแผนที่จะปรับปรุงห้องอาหารริมแม่น้ำ โดยมีเป้าหมายให้เป็นห้องอาหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของสถานที่ตั้งโรงแรม “เลขที่ 2 ซอยกัปตันบุช” ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของบ้านกัปตันจอห์น บุช ผู้บังคับการเรือพระที่นั่งในรัชกาลที่ 4 โดยจะนำเอาบรรยากาศและความมีชีวิตชีวาของท่าเทียบเรือในสมัยกัปตันบุช ให้กลับมาอีกครั้ง