โครงการเดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ หรือ The Strand Thonglor อัลตร้า ลักชัวรี่ คอนโดฯ โครงการพร้อมเข้าอยู่ บนทำเลทองหล่อ เปิดให้ชมโครงการหลังจากที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% ความพิเศษของโครงการเดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ ไม่ใช่แค่เรื่องของทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ต้นซอยทองหล่อ ยังมีความพิเศษในเรื่องของการออกแบบที่เน้นประโยชน์ใช้สอยสูงสุด พัฒนาภายใต้แนวคิด Essentially More นำเสนอประสบการณ์การอยู่อาศัยในรูปแบบ Mixed-Use บนพื้นที่ทองหล่อ ด้วยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาทิ HB Design ร่วมออกแบบด้านสถาปัตยกรรม PIA Interior ร่วมออกแบบภายในโครงการสไตล์ Minimal Luxury, TROP ร่วมออกแบบด้านภูมิสถาปัตยกรรม
โครงการเดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ พัฒนาภายใต้การดูแลของบริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คลื่นลูกใหม่ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนกันระหว่างเพื่อนสนิททายาท 2 ตระกูลคือ คุณธัญทิพ เจียรวนนท์ และคุณชวิน อรรถกระวีสุนทร กับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC
คุณธัญทิพ เจียรวนนท์ ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างบริษัทกับ MQDC เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ภายใต้ชื่อ “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ มูลค่ามากกว่า 4,800 ล้านบาท เป็นคอนโดสูง 30 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ครึ่ง จำนวน 188 ยูนิต เปิดราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่ 17.9-85.7 ล้านบาท
ความพิเศษของโครงการคือ การเปิดพื้นที่ Commercial โดยได้เชิญ 4 พาร์ทเนอร์มาร่วมสร้างสรรค์สีสันไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และคอมมิวนิตี้ให้กับพื้นที่ต้นซอยทองหล่อ ได้แก่ D’ARK / Boundary / Dream Loft / Marchwood ซึ่งแต่ละแบรนด์ล้วนโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ในการนำเสนอไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเสมือนเป็นเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ที่มาร่วมเปิดภายในโครงการโดยเฉพาะ
อีกหนึ่งความพิเศษ คือ การเปิด “The Strand Park” พื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์คอมมิวนิตี้มิกซ์ยูส Live-Eat-Work โดยบริษัท ได้วางกลยุทธ์การสื่อสารให้พื้นที่ตรงนี้เป็น Community ที่สร้างสีสันให้กับทั้งลูกค้าบ้านและคนทั่วไปที่สัญจรไปมาหรือเข้ามาใช้ไลฟ์สไตล์ โดยทางโครงการได้เปิดตัวพื้นที่ด้วยการจัดงาน “MERRY LITTLE CHRISTMAS” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จ และเปิดบริการพื้นที่ Commercial อย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ ยังได้วางรากฐานและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมของกรุงเทพฯ ผ่านความร่วมมือกับ End of waste เข้ามาติดตั้งเครื่องย่อยเศษอาหารแห่งแรกในไทย เพื่อให้บริการกับร้านอาหารในโครงการ ลูกบ้าน และร้านอาหารใกล้เคียงโครงการ สำหรับเปลี่ยนเศษอาหารที่เหลือทิ้งได้ถึง 300 กิโลกรัมต่อวันให้กลายเป็นของเหลวช่วยลดปริมาณขยะจากอาหาร ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ลดปริมาณหนอนพยาธิหรือสัตว์ทำลายพืชต่างๆ รวมถึงลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะอีกด้วย ความร่วมมือที่ผ่านมาทำให้ “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ” สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ บนพื้นที่ทองหล่อ
ทางโครงการได้รับรางวัลชนะเลิศสาขา “Residential High-Rise Development Thailand” จากเอเชีย แปซิฟิค พร๊อพเพอร์ตี้ อวอร์ด 2021-2022 (Asia Pacific Property Awards 2021-22) และ 2018 ได้รับรางวัล Won Best Luxury Condo Architectural Design (Bangkok) และ Highly Commended for Best Condo Interior Design (Bangkok) จาก Thailand Property Awards พร้อมเตรียมคว้ารางวัล TREES-NC (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) ระดับ Gold level จากสถาบันอาคารเขียวไทย
“ช่วงเปิดตัวโครงการ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 350,000 บาทต่อ ตร.ม. แม้ในช่วงโควิดทางโครงการก็ไม่ได้มีการปรับราคาขาย โดยมีราคาขายเฉลี่ย 400,000 บาทต่อตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นที่ 17.9 ล้านบาท สำหรับห้องชุด 1 ห้องนอนขนาด 48.17-55.71 ตร.ม. และราคาเริ่มต้น 28 ล้านบาท สำหรับห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 71.87-111.51 ตารางเมตร
ส่วนเพนต์เฮ้าส์ เปิดขายด้วยราคาห้องละกว่า 80 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือเพียง 2 ห้องเสนอขายด้วยราคาสูงกว่า100 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่โครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เราสามารถโอนได้ตามกำหนด แต่เชื่อว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น เมื่อคนต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศได้เพิ่มมากขึ้น”
สำหรับจุดเด่นของโครงการที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ คือการออกแบบที่อยู่อาศัยแนว timeless เพราะลูกค้าที่่ซื้อสินค้าที่แพงขนาดนี้การออกแบบควรไม่ล้าสมัยเร็ว ดีไซน์ดูดีไป 10-20 ปี ซึ่งพฤติกรรมการซื้อคอนโดลักชัวรี่ มักให้ความสำคัญในเรื่องของทำเล และฟังก์ชั่น รวมถึงในระยะยาวส่วนกลางใครดูแลงานนิติบุคคลอาคารชุด ลูกค้าให้ความสำคัญเรื่องเหล่านี้มากกว่าแบรนด์หรือผู้พัฒนา
“การพัฒนาอสังหาฯเมืองไทยมาตรฐานสูงมาก คู่แข่งในตลาดทุกคนแบรนด์แข็งแกร่ง ฉะนั้นสุดท้ายต้องดูเรื่องฟังก์ชั่น ว่าเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ลูกค้าหรือไม่ รวมถึงเรื่องทำเลตรงใจเพียงใด”
คุณชวิน อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน โครงการคอนโดมิเนียม เดอะ สแตรนด์ ทองมียอดขายอยู่ที่ 60% จากทั้งหมด 188 ยูนิต และยอดโอนอยู่ที่ 25% รับรู้รายได้แล้วประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2565 จะขายได้เพิ่มอีก 20% และจะปิดโครงการได้ในปี 2566 ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วเป็นกลุ่มคนไทย
โดยเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบ Minimal Luxury มีการใช้ชีวิตในรูปแบบเฉพาะตัว เน้นตอบสนองการอยู่อาศัยที่รักการใช้ชีวิตในเมือง และให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว เช่น กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนที่ทำงานระดับผู้บริหารบริษัท และกลุ่ม Young at Heart ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ใจกลางเมือง เข้าสังคมอยู่บ่อยๆ มีคอมมิวนิตี้ชอบทำกิจกรรม รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติ จะเป็นกลุ่ม Expats ผู้บริหารชาวต่างชาติ หรือกลุ่มคนต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย
ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2565 บริษัทวางกลยุทธ์ในการเจาะและขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหรา มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบที่อยู่อาศัยที่ถูกออกแบบโดยเน้นประโยชน์ใช้สอยสูงสุด นิยมคอมมิวนิตี้ไลฟ์สไตล์ย่านทองหล่อในระดับ Elite และ Platinum ทั้งในเชิงของไลฟ์สไตล์การกิน เที่ยว สังสรรค์ ปาร์ตี้ หรือแม้แต่กีฬาในรูปแบบเฉพาะกลุ่ม ทั้งกอล์ฟ เรือใบ ขี่ม้า เป็นต้น รวมทั้ง ยังคงไม่ลืมกลุ่มชาวต่างชาติและนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย