การเคหะฯลุยต่อ ขยายมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับลูกค้าใหม่ที่ต้องการซื้อ-เช่า บ้านการเคหะฯจนถึง 30 ก.ย. 64
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อสะสมรายวันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้หลายครอบครัวได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ และประสบปัญหารายรับไม่พอกับรายจ่าย ซึ่งทางรัฐบาลได้มอบหมายให้การเคหะฯหาแนวทางลดภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน
ที่ผ่านมา การเคหะฯ ได้ออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2564 เพื่อให้เข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานในระดับราคาที่สามารถรับภาระได้ และได้ขยายมาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้าใหม่ เพื่อลดภาระให้กับผู้ที่ต้องการซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยของการเคหะฯ
มาตรการดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2564 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.มาตรการดอกเบี้ยเช่าซื้อ 0% สำหรับลูกค้าที่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อธนาคาร โดยให้วางเงินจองเริ่มต้น 99 บาท พร้อมทั้งขยายระยะเวลาเช่าซื้อกรณีผ่อนชำระกับโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย จากเดิม 30 ปี ขยายเป็น 40 ปี โดยในปีแรกอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ปีที่ 2-3 ร้อยละ 2.75 ปีที่ 4 ร้อยละ 4 ปีที่ 5 ร้อยละ 4.20 และปีที่ 6-40 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.19
สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว และบุตรที่ประสงค์จะซื้อบ้านในโครงการที่พ่อแม่อาศัยอยู่จะได้รับสิทธิดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 18 เดือน จากนั้นเป็นไปตามอัตราที่การเคหะแห่งชาติกำหนด
ทั้งนี้ สิทธิพิเศษดอกเบี้ย 0 % ครอบคลุมโครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการเคหะชุมชน และโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมส่งมอบภายในเดือนกันยายน 2564 ยกเว้นโครงการบ้านเอื้ออาทรพัทลุง โครงการรัฐเอื้อราษฎร์กองทัพเรือ และโครงการบ้านเอื้ออาทรสวนพลูพัฒนา
2.มาตรการลดราคาขายพิเศษ (Shock Price) โครงการบ้านเอื้ออาทร 56 โครงการ ราคาขายเงินสดพิเศษหน่วยละ 250,000-520,000 บาท จองเพียง 99 บาท หากลูกค้าไม่ผ่านสินเชื่อธนาคารสามารถเข้าร่วมมาตรการเช่าซื้อดอกเบี้ย 0% ตามเงื่อนไขที่กำหนด
3.มาตรการบ้านเช่าราคาพิเศษ 999-1,200 บาท/เดือน จำนวน 84 โครงการ โดยอาคารแนวราบ 1,200 บาท/เดือน ยกเว้นโครงการบ้านเอื้ออาทรอุตรดิตถ์ (พิชัย) 999 บาท/เดือน อาคารชุดขนาด 30-40 ตารางเมตร ชั้นที่ 1-2 เดือนละ 1,200 บาท ชั้นที่ 3-5 เดือนละ 999 บาท
นายทวีพงษ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติในระยะเวลา 9 เดือนของปีงบประมาณ 2564 (1 ตุลาคม 2563-30 มิถุนายน 2564) พบว่า มียอดขายที่อยู่อาศัยสะสม 8,219 หน่วย สูงกว่าเป้าหมาย 1,588 หน่วย โดยตั้งเป้าหมายการขายในปี 2564 จำนวน 8,443 หน่วย สำหรับยอดการส่งมอบหรือบรรจุผู้อยู่อาศัยสะสม 9 เดือน จำนวน 6,102 หน่วย สูงกว่าเป้าหมาย 81 หน่วย แต่ยอดส่งมอบเฉพาะเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 702 หน่วย ต่ำกว่าเป้าหมาย 85 หน่วย
“ยอดสะสมทั้งการขายและการส่งมอบในระยะเวลา 9 เดือน ทำได้สูงกว่าเป้าหมายทั้งคู่ แต่ยอดส่งมอบเฉพาะเดือนมิถุนายน 2564 เริ่มหดตัวลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เราเองจะพยายามกระชับการทำงานให้ได้ตามเป้าหมายต่อไป” ผู้ว่าการการเคหะฯกล่าว