พื้นฐานความสำเร็จของแบรนด์คือคุณภาพของสินค้า ไม่ว่าบริษัทนั้นจะทุ่มเงินเพื่อสร้างแบรนด์ไปมากมายแค่ไหน แต่ถ้าคุณภาพสินค้าไม่ได้ดี ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ตอบโจทย์ผู้ซื้อ เงินก้อนโตก็คงจะสูญเปล่า คุณภาพของบ้านจึงเป็นแกนหลักในการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้่นกับลูกค้า เพราะลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่ภาพลักษณ์ แต่ซื้อความไว้วางใจในสิ่งที่จับต้องได้จริง บ้านที่แข็งแรง ปลอดภัย อยู่สบาย มีความยั่งยืนในระยะยาว คือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการอย่างแท้จริง
ในขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่นกันอย่างเข้มข้น กลยุทธ์ที่แท้จริงที่จะทำให้แบรนด์ที่อยู่รอดได้ในระยะยาว ไม่ใช่แค่การ “ลด แลก แจก แถม” แต่คือการรักษามาตรฐานคุณภาพให้มั่นคง และสื่อสารสิ่งนั้นออกไปอย่างโปร่งใส คือสิ่งที่สะท้อนจุดยืนของแบรนด์ได้ดีกว่าคำโฆษณาใดๆ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ Supalai Experience Home ของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่ต้องการตอกย้ำความมั่นใจให้กับลูกค้าผ่านประสบการณ์ตรง โดยการเปิดบ้านตัวอย่างในโครงการศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน–ปทุมธานี ให้ได้เข้าไปสำรวจทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง การเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง เพื่อสื่อสารแนวคิด “บ้านคุณภาพ…ที่พิสูจน์ได้”
“ศุภาลัยไม่เพียงสร้างบ้านที่สวยงามในแง่ของดีไซน์และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยเท่านั้น แต่เราให้ความสำคัญสูงสุดกับ มาตรฐานทางวิศวกรรมและความแข็งแรงของโครงสร้าง ตั้งแต่ฐานราก ผนัง บันได ไปจนถึงระบบหลังคา ทุกองค์ประกอบผ่านการออกแบบและคำนวณอย่างรอบคอบตามหลักวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบ้านทุกหลังสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน ทำให้เรากล้าที่จะเปิดเผยทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกวัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐานสากล การก่อสร้างที่ควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ไปจนถึงการทดสอบและตรวจสอบ (QC) ตามมาตรฐาน ISO
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า ทุกองค์ประกอบในบ้านศุภาลัยคือผลลัพธ์ของการวางแผนและการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถพิสูจน์ได้จริง จึงเป็นที่มาของโปรเจกต์ Supalai Experience Home ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เจาะลึกภายในตัวบ้าน ลึกไปจนถึงระบบโครงสร้างและกระบวนการเลือกใช้วัสดุ เพื่อให้เห็นที่มาที่ไปของมาตรฐาน และได้พิสูจน์ด้วยตาตัวเอง ว่าบ้านศุภาลัย แข็งแรงจริง คุณภาพจริง และได้มาตรฐานจริง” นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าว
นอกจากนี้ Supalai Experience Home ยังเป็นเสมือน “ห้องเรียน” ให้ผู้สนใจ รวมถึงผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้าน ได้เรียนรู้ถึงการตรวจสอบคุณภาพในส่วนต่างๆ ของบ้านที่ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นและไม่เข้าใจขั้นตอน และกระบวนการต่างๆ ในการก่อสร้างให้ได้เห็นที่มาที่ไปและพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง ลองไปดูกันว่าในแต่ละส่วนประกอบสำคัญของบ้าน ศุภาลัยมีมาตรฐานในการก่อสร้างอย่างไร และคนทั่วๆ ไปจะตรวจสอบงานก่อสร้างส่วนนั้นอย่างไรให้มั่นใจว่าเราจะได้บ้านที่ดีมีคุณภาพ
โครงสร้างผนังและการก่ออิฐ
ศุภาลัยเลือกใช้ อิฐมวลเบาซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือ เบาแต่แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นฉนวนกันไฟและกันความร้อนในตัว ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้าน การก่ออิฐที่ดีจะใช้ ปูนก่ออัดแน่นเต็มพื้นที่หน้าตัด เพื่อให้เกิดความแข็งแรงสูงสุด ต้องไม่มีช่องว่างหรือช่องแสงลอดเข้ามาได้ นอกจากนี้ ยังมีการเสริมความแข็งแรงด้วยการใช้ เสาเอ็น คานทับหลัง และ ลวดตาข่าย/ตะแกรงกันร้าว เพื่อป้องกันการแตกหรือร้าวระหว่างผนังกับโครงสร้าง ก่อนการฉาบผนัง สกิมโค้ท ทาสีรองพื้น และทาสีจริง ที่ปลอดสารระเหย รวมถึงการติดวอลเปเปอร์ ยับยั้งไวรัสและแบคทีเรีย
สำหรับสีทาภายนอก มีคุณสมบัติยึดเกาะผิวดี ปลอดภัยจากสารระเหยที่เป็นพิษก่อมะเร็ง สะท้อนความร้อนได้ถึง 96.7% ลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ถึง 5.5 องศา ค่าไฟลดลงกว่า 27.5% ส่วนสีทาภายใน ใช้สีที่ปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัยทุกช่วงวัยรวมถึงผู้มีปัญหาภูมิแพ้และหอบหืด ง่ายต่อการทำความสะอาด ยับยั้งแบคทีเรียกว่า 10 สายพันธุ์ได้ถึง 99.99% และยับยั้งไวรัส เช่น H1N1, H3N2 ได้ถึง 99.99% ผ่านมาตรฐานอาคารเขียว Leed V4 และ V4.1 USA
- ข้อควรพิจารณาในการตรวจเช็ค:
-สังเกตว่ามีการใช้ปูนก่อเต็มพื้นที่หรือไม่ (หากมีช่องว่างจะทำให้ความแข็งแรงลดลง)
-ผนังต้องได้ระดับและได้ดิ่ง (ไม่เอียง)
-หากมีการเจาะยึดของหนัก ควรใช้พุกที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอิฐมวลเบา
บันไดที่มั่นคงและปลอดภัย
บันไดของศุภาลัยก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กเส้น (เหล็กเสริมแรง) ที่ออกแบบตามมาตรฐานทางวิศวกรรมมีความแข็งแรงและทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักการใช้งานได้มาก ใช้งานได้ยาวนานไม่ผุพังง่าย ไม่สั่น ไม่โยก ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกมั่นใจในทุกย่างก้าว ขั้นบันไดปิดด้วยไม้ลูกตั้งและลูกนอนซึ่งเป็นไม้จริง ปิดผิวด้วยไม้โอ๊คที่ให้สัมผัสธรรมชาติมีลวดลายสวยงาม ติดตั้งด้านบนผิวโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีการปรับผิวให้เรียบได้ระดับทั้งแนวดิ่ง-ฉาก
- ข้อควรพิจารณาในการตรวจเช็ค:
-ต้องให้ความรู้สึกมั่นคง ไม่โยกเยกเมื่อเดินขึ้น เดินลง
-ลูกนอนของบันไดหน้ากว้าง 30 เซนติเมตร เหยียบได้อย่างเต็มเท้า
-ส่วนความสูงของลูกตั้งขึ้นอยู่กับการออกแบบของบ้านโดยปกติจะไม่เกิน 20 เซนติเมตร แต่ถ้าบ้านไหนมีผู้สูงอายุที่ยังต้องขึ้น-ลงบันได ความสูงของลูกตั้งอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำลงมาถึงประมาณ 17.5 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้สูงอายุเดินได้สบายขึ้น
ระบบหลังคาและฉนวนกันความร้อน
โครงสร้างหลังคาของศุภาลัยเป็นโลหะพิเศษชุบกัลวาไนซ์ไม่เป็นสนิม หลังคามุงด้วยกระเบื้องคอนกรีตผ่านการรับรองมาตรฐานมอก.ผลิตจากคอนกรีตคุณภาพสูงแข็งแรงทนทานรองรับได้ทุกสภาพอากาศ มีการออกแบบรางกั้นน้ำ 2 แนวและบัวกันน้ำ 3 ชั้นเพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับของน้ำฝนทำให้หลังคาแห้งเร็วและลดปัญหาน้ำขัง
ฝ้าชายคาไวนิลเพิ่มการไหลเวียนอากาศภายใต้หลังคาได้ดีกว่าการใช้ฝ้าทึบลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ถึง 7 องศาเซลเซียส ช่องระบายอากาศออกแบบให้สามารถป้องกันแมลงได้ มีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับฝ้าไฟเบอร์ซีเมนต์ และยังออกแบบองศาของหลังคาอย่างเหมาะสมให้รองรับการติดตั้ง Solar Roof เพื่อให้ได้กระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมหน้าจอแสดงผล Tracking แบบ Real time ที่ให้ผู้อยู่อาศัยตรวจสอบการผลิตและการใช้ไฟฟ้าได้ทันที และยังระบายน้ำฝนได้ดี (ความลาดชันของหลังคาบ้านศุภาลัยประมาณ 20 องศาบวกได้อีกเล็กน้อย) นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนความหนา 6 นิ้ว เพื่อลดความร้อนที่สะสมจากแสงแดดเข้าสู่ตัวบ้าน
- ข้อควรพิจารณาในการตรวจเช็ค:
-หลังคาต้องแข็งแรง ไม่รั่วซึม และไม่เป็นสนิม
-ตรวจสอบใต้ฝ้าเพดานว่ามี คราบน้ำหรือร่องรอยการรั่วซึม หรือไม่
-ฉนวนกันความร้อนต้องมีความหนามากพอ (อย่างน้อย 6 นิ้ว) เพราะถ้าบางเกินไปบ้านจะร้อนเร็วและเย็นช้า
พื้นและวัสดุปูพื้น
ก่อนปูกระเบื้องจะต้องมีการปรับระดับพื้นโครงสร้าง (โครงสร้างเหล็กคอนกรีตเสริมเหล็ก)ก่อน เพื่อให้ได้ระดับหรือระยะตามที่กำหนด โดยใช้กาวซีเมนต์เป็นตัวประสาน การปูจะต้องให้แผ่นกระเบื้องแนบสนิทกับกาวซีเมนต์ 100% ศุภาลัยเลือกใช้กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain) แผ่นใหญ่ขนาด 80X80 เซนติเมตร ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน มีรอยต่อลดลงให้ความรู้สึกต่อเนื่องเป็นพื้นเดียวกันและสวยงาม
นอกจากนี้ ยังมีพื้น SPC (Stone Plastic Composite) ซึ่งเป็นวัสดุปูพื้นสังเคราะห์ที่ให้ลวดลายและผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง กันน้ำ ทนความชื้น ไม่ลามไฟ ทนรอบขีดขวนและกดทับ มีความแข็งแรงสูง การยืดหดตัวต่ำ ลดการโก่งตัว หรือเกยกันของพื้นเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความสบายเท้า เช่น ห้องพักผ่อน หรือห้องผู้สูงอายุ (ช่วยลดแรงกระแทก) ส่วนพื้นไม้เอนจิเนียร์เป็นพื้นที่ทำจากไม้ที่นำมาแปรรูปและประกอบกันโดยมีชั้นบนสุดเป็นไม้จริงแท้ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและนุ่มนวลกว่าพื้น SPC
- ข้อควรพิจารณาในการตรวจเช็ค:
-การปูพื้นกระเบื้องกาวซีเมนต์ต้องปูเต็ม 100% ของด้านหลังกระเบื้อง โดยไม่ใช้การปูแบบปั้นปูเป็นก้อนๆ แปะหลังกระเบื้อง หรือที่เรียกว่า “ปูซาลาเปา” ซึ่งมีโอกาสทำให้กระเบื้องร่อนหรือเด้งขึ้นมาในระยะยาว
-การตรวจสอบ: ลองเคาะกระเบื้อง หากมีเสียงโปร่งหรือเสียงที่ไม่สม่ำเสมอ อาจบ่งชี้ว่าปูนกาวไม่เต็ม 100% และมีความเสี่ยงที่จะร่อนในอนาคต
ระบบห้องน้ำ
ห้องน้ำต้องไม่รั่วไม่ซึม มีการเทคอนกรีตผสมสารกันซึมและปรับระดับพื้นก่อน และที่สำคัญคือมีการ ขังน้ำทดสอบการรั่วซึมถึง 2 ครั้ง ครั้งละ 24 ชั่วโมง (ครั้งแรกก่อนปูกระเบื้อง และครั้งที่สองหลังปูกระเบื้อง) นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบความทนทานของท่อน้ำดีและน้ำเสีย
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในห้องน้ำ โดยพื้นห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องพอร์ซเลนที่มีคุณสมบัติกันลื่น (Anti-slip) ด้วย ค่า R (R Value) ที่เหมาะสม (เริ่มต้นที่ 9 ถึง 13) และพื้นต้องมีความลาดเอียงที่เหมาะสม (อย่างน้อย 1:100 หรือ 1 เซนติเมตร ต่อ ความยาว 1 เมตร) เพื่อให้น้ำไหลลงสู่ Floor Drain ได้อย่างรวดเร็วและไม่ขัง
- ข้อควรพิจารณาในการตรวจเช็ค:
-ห้องน้ำ: พื้นต้องมีความลาดเอียงที่เหมาะสม (สามารถทดสอบด้วยการราดน้ำดูการไหล) และระบบท่อต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ดักกลิ่น เพื่อไม่ให้กลิ่นย้อนกลับ
บานประตู หน้าต่าง
กรอบหน้าต่าง-ประตูเลือกใช้วัสดุทั้ง Aluminium และ UPVC อย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะ UPVC ซึ่งนำพาความร้อนน้อยกว่าอลูมิเนียม กรอบเฟรมถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันฝุ่น ลม และการรั่วไหลของความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ เลือกใช้กระจกเขียวตัดแสง (Green Tinted Glass) เพื่อลดความจ้าของแสงและช่วยลดปริมาณความร้อนที่จะเข้ามาในตัวบ้าน
- ข้อควรพิจารณาในการตรวจเช็ค:
-ตรวจสอบขอบเฟรมว่ามีการปิดสนิทหรือไม่ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของอากาศ
-สังเกตว่ากระจกมีการตัดแสงหรือไม่ เพราะหากพื้นที่กระจกเยอะ การป้องกันความร้อนจากภายนอกถือเป็นสิ่งสำคัญในการประหยัดพลังงาน
Supalai Experience Home นอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อแล้ว ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นของแบรนด์ (Brand Confidence) ด้วยกลยุทธ์การตลาดเชิงประสบการณ์ (Experiential Marketing) หรือการตลาดเชิงพิสูจน์ (Proof Marketing) เพื่อยืนยันมาตรฐานของบ้านศุภาลัยได้เป็นอย่างดี พร้อมกับการรับประกันรับประกันโครงการนาน 5 ปี และรับประกันงานส่วนควบอีก 1 ปี ซึ่งในอนาคตถ้าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ศุภาลัยก็จะขยายแคมเปญ Supalai Experience Home ไปยังโครงการอื่นๆ ต่อไป
สำหรับโครงการ ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน–ปทุมธานี เป็นบ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Tropical Series หลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 162-417 ตารางเมตร ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันบนพื้นที่กว้างขวาง รายล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติ และสวนส่วนกลางขนาดกว่า 2 ไร่ พร้อมยกระดับการใช้ชีวิตด้วยนวัตกรรมทันสมัย ทั้ง Solar Rooftop ที่ช่วยประหยัดพลังงาน และ EV Charger ทุกหลัง รองรับการเดินทางของอนาคต มอบความสะดวกสบายและยั่งยืนในทุกมิติของการอยู่อาศัย ราคาเริ่มต้น 5.69 ล้านบาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1720 www.supalai.com หรือ Facebook | Supalai
