อัพเดตร่างผังเมืองกทม. หลังผ่านคณะที่ปรึกษาฯพิจารณาความเห็นจากภาคประชาชนกว่า 15,000 ราย เผยถนนสาย ก-ข มีข้อคัดค้านมากที่สุด พร้อมให้ยกเลิกหลายเส้นทางในเขตเมือง ขณะที่มีการปรับสีผังเพิ่มเติมในบางพื้นที่ เตรียมส่งต่อให้กรมโยธาฯพิจารณา คาดยังอยู่ในไทม์ไลน์ประกาศใช้ปี 2570
นายอาสา ทองธรรมชาติ รองผู้อำนวยการสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 4) ว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ได้พิจารณาร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปรับปรุงแก้ไขหลังการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 เมื่อวัน 13 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยอยู่ระหว่างการนำข้อคิดเห็นของคณะกรรมการที่ปรึกษาฯไปปรับปรุงผังให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ และเมื่อผ่านความเห็นจากคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ แล้วจะเสนอต่อกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อให้ความเห็น และดำเนินการตามขั้นตอนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ.2562 ต่อไป

“ตอนนี้ถือว่าใกล้สรุปจากกทม.แล้ว หลังจากนี้จะออกจากกทม.ไปเข้าสู่การพิจารณาของกรมโยธาธิการและผังเมือง ประมาณปลายเดือนกันยายนนี้ ซึ่งตามไทม์ไลน์คาดว่าจะประกาศใช้ได้ในปี 2570”
สำหรับการจัดทำร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 4) ถือว่ามีการเสนอความเห็นกว่า 15,000 ราย จากการประชุมรับฟังความเห็นประชาชนทั้งหมด ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดทำร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร เนื่องจากได้มีการประชุมประชาชนลงลึกถึงรายเขตทั้ง 50 เขต โดยส่วนใหญ่แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องถนนโครงการ ก (ขนาดเขตทาง 12 เมตร) และถนนโครงการ ข (ขนาดเขตทาง 16 เมตร) ที่ต้องการให้มีการยกเลิกมากที่สุด ส่วนการขอเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินมีทั้งขอปรับให้สูงขึ้นและขอปรับให้ลดลง โดยส่วนใหญ่คณะกรรมการที่ปรึกษาฯมีความเห็นให้คงตามร่างผังเดิม และมีการปรับเปลี่ยนผังการใช้ประโยชน์ตามที่ประชาชนเสนอมาบ้างตามความเหมาะสม ส่วนถนนมีการยกเลิกหลายสาย โดยเฉพาะ ถนนสาย ก และ ข ในเขตเมือง
ตัวอย่างการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินของคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ หลังการรับฟังความเห็นของประชาชน เช่น บริเวณย่านวัชรพล เปลี่ยนจากที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย ย. 2 เป็น ย.3 เพื่อรองรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับศักยภาพในการเข้าถึงโดยโครงการถนน ช 1 (ส่วนต่อขยายถนนเทพรักษ์ จากถนนสุขภิบาล 5 ถึง ถนนนิมิตใหม่)
บริเวณถนนร่มเกล้า ปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณถนนร่มเกล้าจากที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม (ก.1) เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (ย.3) เพื่อรองรับการขยายตัวของที่อยู่อาศัยชานเมือง ตามการปรับปรุงระบบป้องกันน้ำท่วมด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร

บริเวณถนนทวีวัฒนา-ถนนบรมราชชนนี ปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณถนนทวีวัฒนาและถนนบรมราชชนนีจากที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (ก.2) เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (ย.4) เพื่อขยายย่านที่อยู่อาศัยชานเมือง และเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินของร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4) และผังเมืองรวมชุมชนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
บริเวณถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณโรงพยาบาลผู้สูงอายุและสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่ ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลจากที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (ก. 2 และ ก.3) เป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (ย.5) เพื่อให้ไปย่านที่อยู่อาศัยที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีแก่บุคลากรด้านสาธารณสุขและประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่โดยรอบ
บริเวณถนนเทียมร่วมมิตร ปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณถนนเทียมร่วมมิตรจากประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก (ย.14) เป็นประเภทพาณิชยกรรม (พ.7) เพื่อให้เป็นศูนย์พาณิชยกรรมที่ให้บริการแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณโดยรอบและสอดคล้องกับศักยภาพในการเข้าถึงโดยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-สุวินทวงศ์)
ลดการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณถนนอโศกมนตรี-ถนนรัชดาภิเษก โดยปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณภายในระยะ 200 ถึง 500 เมตรจากภาคตะวันออกของถนนอโศกมนตรี-ถนนรัชดาภิเษกจากประเภทพาณิชยกรรม (พ.7) เป็นประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก (ย.15) เพื่อบรรเทาปัญหาความแออัดในพื้นที่
นายอาสา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4) มีพื้นที่ที่จะเป็นศูนย์กลางธุรกิจรองของกทม. (Sub Central Business District : Sub CBD) ได้แก่ มักกะสัน-พระราม 9 รองรับการขยายตัวของ CBD เดิม และศูนย์คมนาคมมักกะสัน ลาดพร้าว-รัชโยธิน รองรับสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ และย่านธนบุรี-คลองสาน จะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในย่านฝั่งธนบุรี นอกจากนี้ ถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ CBD เดิมอยู่แล้ว ก็จะมีการขยับตัวมากขึ้นเช่นเดียวกับย่านคลองเตยที่มีการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ และการเข้าถึง