GREEN เอ็น ซี

เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง ชูกลยุทธ์ Green&Well Living บุกตลาดบ้านปี 68

เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง เปิดเกมรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ด้วยกลยุทธ์ Green &  Well Living ผสมผสานกันระหว่างธรรมชาติ และ ความเป็นอยู่ที่ดี ผ่านแนวคิด GAIA ที่จะนำมาใช้ใน 5 โครงการใหม่ในปี 2568

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดด้วยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีที่ผ่านมาและแนวโน้มในปี 2568 โดยระบุว่า ตลาดอสังหาฯในปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบหนักในทุกเซ็กเมนต์ เริ่มจากกลาง-ล่าง ก่อนที่ลามขึ้นมาระดับกลาง-บน การเติบโตของเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้ ขณะที่ปี 2568 ภาครัฐพยายามดันให้เศรษฐกิจเติบโตให้ได้ 3% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงเป้าหมายการเติบโตเอาไว้ที่ 2 ปลายๆ อาจจะได้ 2.7-2.8% ท่องเที่ยวอาจจะดีขึ้น และยังต้องอาศัยแรงกระตุ้นการลงทุนของรัฐในการเบิกจ่ายใส่เงินเข้าระบบให้รวดเร็ว คาดว่าในปี 2568 ภาคอสังหาฯจะค่อยๆ ฟื้น เพราะกำลังซื้อยังคงได้รับผลกระทบอยู่

สมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น ซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน)

“ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงอยู่ในสภาวะค่อยฟื้นตัว มีปัจจัยกระทบ Global Supply Disruption แต่คาดว่าคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี ความต้องการบ้านแนวราบจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น การใช้แนวทางช่วยเหลือผู้ซื้อบ้าน เช่น โปรโมชั่นต่างๆ  ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อบ้านปี 2568 และมีความหวังว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะกลับมาดีขึ้นขณะที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องทบทวน ปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับกำลังซื้อในตลาด และหามาตรการทางการตลาดที่เหมาะสม”

สำหรับบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ด้วยการชะลอการลงทุนและการระบายสต๊อกที่มีอยู่ทำให้ในปีที่ผ่านมามีการเปิดโครงการใหม่ไปเพียง 2 โครงการ (จากแผนที่จะเปิด 6 โครงการ) ทำให้บริษัทปรับฐานได้ดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2-4 รวมทั้งการเข้าไปช่วยลูกค้าที่ประสบปัญหาถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่มียอดสูงถึง 40% และบางโครงการในบางช่วงเวลาสูงถึง 50%

จากการปรับแผนการดำเนินงานทำให้บริษัทเริ่มขยับในปี 2568 แต่ยังคงเป็นการดำเนินธุรกิจที่ Conservative โดยการเปิดโครงการใหม่ในเบื้องต้น 5 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท เป็นการเปิดทดแทนโครงการเดิมที่ขายหมดไป อยู่ในกรุงเทพฯ โซนเหนือ 3 โครงการ มูลค่ารวม  ชลบุรี (พัทยา) 1 โครงการ เชียงใหม่ 1 โครงการและหากสถานการณ์ในครึ่งปีหลังดีขึ้นกว่านี้ก็อาจจะเปิดเพิ่มในช่วงปลายปีจากแลนด์แบงก์ที่บริษัทยังมีอยู่ ทั้งนี้เมื่อรวมกับโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จำนวนโครงการที่ดำเนินการในปี 2568 จะมีทั้งหมด 19 โครงการ มูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท โดยได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากยอดขายปี 2567 ที่ทำได้ 3,200 ล้านบาท  และยอดรับรู้รายได้ตั้งเป้าไว้ที่ 2,000 ล้านบาท

Web banner

นายสมนึก กล่าวอีกว่า ในปี 2568 บริษัทให้ความสำคัญความเป็นบ้านที่เชื่อมโยงด้านสิ่งแวดล้อม และการดูแลสุขภาพ Green & Well Living ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. กลยุทธ์ด้าน Green Product พัฒนาสินค้าให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบที่ดึงธรรมชาติเข้ามาใกล้ชิดกับผู้อยู่อาศัยในบ้าน ภายใต้แนวคิด GAIA ซึ่งประกอบด้วย

G: Grove การนำสวนขนาดต่างๆ เข้าไปไว้ในบ้าน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

A: Aeris การออกแบบให้เกิดอากาศที่หมุนเวียน เติมออกซิเจนเข้าไปในตัวบ้านทำให้บ้านเย็น อากาศสดชื่น ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดี

I: Innovation การใช้นวัตกรรมในแง่มุมของการดึงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน โดยการหาเทคโนโลยี่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเข้ามาใช้

A: Arbor การออกแบบพื้นที่ต่างๆ ในบ้าน นอกบ้าน ให้ได้อยู่กับธรรมชาติ

GAIA เอ็น ซี

2. กลยุทธ์ Green Finance ยกระดับสร้างประสบการณ์ Customer Experience ที่เหนือกว่า จากพันธมิตรที่ดี มีการ Collaboration ร่วมกับสถาบันการเงิน เพื่อให้สิ่งพิเศษกับลูกค้า ด้วยการดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบด้วยเงื่อนไขที่ดี สำหรับการซื้อบ้าน

3.กลยุทธ์ Green Service ให้ความสำคัญ Customer Centric ผ่าน New Product New Design มีการพัฒนาจากความต้องการของผู้ซื้อบ้านอย่างตรงใจ ด้วย Multi Function และการดูแล Residents Centric เพื่อส่งเสริมการอยู่อาศัยในชุมชน ที่ใส่ใจ ห่วงใย บริหารจัดการอย่างดีเยี่ยม เพิ่มมูลค่าให้ทุกครอบครัว

นายสมนึก กล่าวเสริมว่า จากกลยุทธ์ที่วางไว้ในปี 2568 มั่นใจว่าจะสามารถบริหารการขายทั้ง 19 โครงการ  มูลค่า 15,500 ล้านบาท ได้อย่างตอบโจทย์ความต้องของผู้ซื้อบ้านและสามารถทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย 4,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ 2,000 ล้านบาท และจะสามารถก้าวผ่านความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ไปได้