การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร กลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนในประเทศต่างๆ อีกครั้ง เมื่ออังกฤษกำลังเจอมรสุมจากปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์มีทิศทางที่ชะลอตัวลง ล่าสุดโครงการพาร์ค โมเดิร์น ได้นำโครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ในย่านไพร์มแอเรียของกรุงลอนดอนมาเปิดตลาดในประเทศไทย
นางสาววิคตอเรีย การ์เร็ตต์ (Ms. Victoria Garrett) หัวหน้าฝ่ายที่อยู่อาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า รายงานวิจัยของไนท์แฟรงค์ สะท้อนตลาดที่พักอาศัยในสหราชอาณาจักรช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 โดยพบว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนมีแนวโน้มที่ลดลง โดยได้ลดลงจากเลข 2 หลักลงมาอยู่ที่ 9.2% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยราคาเฉลี่ยของที่พักอาศัยในลอนดอนอยู่ที่ 543,547 ปอนด์ (ข้อมูลจากการจดทะเบียนที่ดิน) และยังมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ย และค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม โครงการระดับบนยังคงเป็นโครงการที่ขายได้ดี เพราะลูกค้ามีกำลังซื้อที่สูง โดยเฉพาะในย่านไพร์มแอเรีย กรุงลอนดอน ทำให้มีราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.4% ในปีที่แล้วจนถึงพฤษภาคม 2565 และคาดการณ์การเติบโตทางด้านราคาในย่านไพร์ม แอเรีย กรุงลอนดอนไว้ที่ 25% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่การเติบโตของมูลค่าค่าเช่าในพื้นที่ใจกลางลอนดอนเริ่มมีการฟื้นตัวจากโรคระบาด โดยปรับขึ้นสู่ระดับ 29.2% ในเดือนเมษายน
จากการเติบโตด้านราคาและโอกาสในการปล่อยเช่าสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง การศึกษาชั้นนำระดับโลกที่ดึงดูดนักศึกษาจากทั่วโลก และค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ยังไม่สูงนัก ทำให้เห็นว่า ลอนดอน ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนจากทั่วโลก และจากแบบสำรวจทัศนคติแสดงไว้ในรายงานความมั่งคั่งฉบับล่าสุด พบว่า 62% ของบุคคลที่มีรายได้สูงเป็นพิเศษทั่วโลกต้องการอสังหาฯริมทรัพย์ซึ่งสามารถเข้าถึงสภาพแวดล้อม และพื้นที่สีเขียวได้อย่างใกล้ชิด
ด้านนายลาร์ส คริสเตียนส์ ผู้อำนวยการร่วมก่อตั้งของ Fenton Whelan (เฟนตัน วีแลน) เปิดเผยว่า เฟนตัน วีแลน ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรได้นำโครงการ Park Modern (พาร์ค โมเดิร์น) โครงการหรูในย่านไพร์มแอเรีย กลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาจัดโรดโชว์ในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยที่ได้มีการนำเสนอโครงการให้กับกลุ่มลูกค้าระดับวีไอพีไปแล้วเมื่อวันที่ 10-12 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา
หลังจากเปิดตัวโครงการพาร์ค โมเดิร์น ในสหราชอาณาจักรไปเมื่อกลางปี 2564 มียอดขายแล้วกว่า 50% และได้เริ่มออกโรดโชว์ไปในประเทศต่างๆ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งการนำเสนอโครงการในประเทศไทย ได้รับความสนใจจากลูกค้าคนไทยเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยมีคนสนใจเข้ามาคุยแล้ว 4 ราย และรอทำนัดหมายบินไปดูโครงการจริงพร้อมกับไนท์แฟรงค์ โดยคาดว่าโครงการจะปิดการขายได้ก่อนที่โครงการจะก่อสร้างเสร็จในเดือนมิถุนายน 2566
สำหรับโครงการพาร์ค โมเดิร์น ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสวนไฮด์ปาร์ค (Hyde Park) และสวนพระราชวังเคนซิงตัน (Kensington Palace Gardens) พื้นที่รวม 190,000 ตารางฟุต มูลค่ากว่า 500 ล้านปอนด์ (รวมค่าพัฒนา) เป็นที่พักอาศัยสูง 9 ชั้น ประกอบด้วยห้องพักแบบ 1-6 ห้องนอน จำนวน 57 ยูนิต และห้องเพนต์เฮาส์พิเศษ 3 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านปอนด์ (3,527,804.13 ดอลลาร์สิงคโปร์ / 2.5 ล้านดอนลาร์สหรัฐ) ไปจนถึง 6 ล้านปอนด์ โดยเป็นการซื้อสิทธิการเช่าระยะยาวถึง 999 ปี
โครงการมีจุดเด่นที่เพดานสูงโปร่ง และกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัวภายในห้องพัก สามารถมองเห็นวิวของสวนสาธารณะแบบไม่มีอะไรมาบังและเส้นขอบฟ้าของเมืองได้เป็นอย่างดี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสไตล์โรงแรมระดับ 5 ดาว ขนาด 30,000 ตารางฟุต รวมไปถึงพนักงานคอนเซียช ห้องรับรองแขกหรือเลานจ์ ร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำ พร้อมบริการรับจอดรถ และชั้นอาคารที่จัดเป็นพื้นที่บริการด้านสุขภาพ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร ห้องออกกำลังกาย สปา โรงภาพยนตร์ และร้านทำทรีตเมนต์
โครงการ พาร์ค โมเดิร์นเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง สามารถมองเห็นวิวสวนไฮด์ปาร์ค และสวนพระราชวังเคนซิงตันแบบไม่มีอะไรมาบัง รวมทั้งการออกแบบร่วมสมัยโดยสถาปนิก Lee Polisano แห่ง PLP Architecture เน้นความหรูหราด้วยประตูทางเข้าสู่อาคารที่เป็นเอกลักษณ์ (porte cochère) มีประตูบานใหญ่สูงล้อมด้วยเสาหินที่มีขอบสีบรอนซ์ แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมริมสวนสาธารณะที่ดีที่สุดของสวนไฮด์ปาร์ค ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของการฟื้นฟูเขต Queensway โดยจัดเปลี่ยนให้เขต Bayswater กลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในย่านลอนดอนกลาง
