บิ๊กอสังหาฯ แห่ขายหุ้นกู้ เร่งระดมทุน ตุนสภาพคล่อง พร้อมเดินหน้าผุดโครงการใหม่ปี 65 เต็มสูบ
นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ขณะนี้บริษัทได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นกู้จากก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (มูลค่าที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขาย 1,800 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 1,500 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมมูลค่าไม่เกิน 300 ล้านบาท) โดยเป็นการออกและเสนอขายหุ้นกู้หุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบันอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท เสนอขายระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2565 นี้ เพื่อขยายการลงทุนและการพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในแนวราบมากขึ้น รวมถึงการลงทุนในบริษัทร่วมทุน
ทั้งนี้ ในปี 2565 โนเบิลได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการฟื้นตัวของตลาด ด้วยการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่รวมจำนวน 18 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 47,400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้วางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนของการพัฒนาโครงการแนวราบให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ในพอร์ตให้มากขึ้น เพื่อขยายพอร์ตให้มีสินค้าที่สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย และครอบคลุมในหลายทำเลมากขึ้น
ด้านนายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานคณะกรรมการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้อีกจำนวน 14,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุน โดยในปี 2565 บริษัทจะเปิดโครงการใหม่รวม 15 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวม 29,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีการเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ
นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย งบสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 6,000 ล้านบาท และงบลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า 4,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนที่จะขายอพาร์ตเม้นต์ในสหรัฐ และยังหาโอกาสที่จะลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม
ขณะที่ บริษัท แสนสิริ ได้กำหนดมูลค่าการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริที่เตรียมจะเสนอขายในวันที่ 18 มกราคม 2565 ไว้ไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าเสนอขายตามแผนที่ได้วางไว้ในการเป็นหุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้ มูลค่า 1,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม อีกจำนวน 1,000 ล้านบาท
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่าหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับ หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY ที่ประสบความสำเร็จในการพลิกโฉมการลงทุนให้เข้าถึงง่ายและเท่าเทียมในปีที่ผ่านมาจากการเป็น “หุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้” ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ดอกเบี้ยคงที่ 3.10% ต่อปี ระยะเวลาลงทุนเพียง 2 ปี 6 เดือน รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้
ด้านบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ฯ 2 รุ่น หุ้นกู้รุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน ผลตอบแทน 4.50% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี 6 เดือน ผลตอบแทน 5.40% ต่อปี ระหว่างวันที่ 11-13 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนทั่วไป ตามเป้าหมายที่เสนอขายไว้ที่ 5,000 ล้านบาท
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า บริษัทสามารถเสนอขายหุ้นกู้ได้ตามจำนวนที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5,000 ล้านบาท ในสภาวะที่ตลาดตราสารหนี้ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องตลอดปี 2564 นอกเหนือจากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทยังมีสภาพคล่องที่เพียงพอเพื่อรองรับภาระหนี้และขยายธุรกิจในอนาคต
ในปี 2565 อนันดามีแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 7 โครงการ มูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ ด้วยกลยุทธ์ ANANDA NEW BLUE มองหาโอกาสใหม่ๆ พร้อมแนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยและบริการในรูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการชีวิตคนเมืองที่ปรับเปลี่ยนไปหลังโควิด-19