ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ชี้อสังหาฯปี 65 เข้าสู่โหมดฟื้นตัว ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงจากไวรัสพันธุ์ใหม่ ขณะที่ตัวแทนจากแบงก์ชาติเผย มาตรการคลายล็อค LTV รอแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแบงก์เริ่มผ่อนคลายสินเชื่อ
นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์ ประเมินสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 ว่า จากข้อมูลของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ถือเป็นสัญญาณบวกที่ทุกภาคส่วนเฝ้ารอ โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะฟื้นตัว โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจและตลาดท่องเที่ยวในประเทศที่ทยอยฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมของภาครัฐ และการระดมฉีดวัคซีนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดแรงงานและกำลังซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มปรับดีขึ้นตามไปด้วย
ในปี 2565 จะเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ ไทย โดยเริ่มเห็นสัญญาณบวกในช่วงท้ายปี 2564 แต่คาดว่าระดับราคาอสังหาฯจะยังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก ควบคู่ไปกับการออกแคมเปญหรือโปรโมชั่น เพื่อดึงดูดกำลังซื้อจากผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) และนักลงทุนที่มีความพร้อมและหวังผลตอบแทนในระยะยาว ในขณะที่อุปทานยังไม่มีสัญญาณล้นตลาด (Oversupply) หรือเกิดภาวะฟองสบู่
“ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา คือ ความคืบหน้าในการควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาฯ จากภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางการเติบโตโดยตรง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงเปราะบางและมีความไม่แน่นอน ผู้ประกอบการและผู้บริโภคจึงควรติดตามสถานการณ์การระบาดหลังเปิดประเทศ และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจ” นางกมลภัทร กล่าว
ด้านดร.ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภารระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจไทยได้ปรับตัวดีขึ้นหลังจากรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเปิดประเทศ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ค่อนข้างดีทำให้การส่งออกของเราเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก แม้ว่าการท่องเที่ยวจะยังไม่กลับมา จนมาเกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอมิครอนที่เปิดความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของไทย
ผลกระทบของไวรัสพันธุ์ใหม่นี้จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสายพันธุ์ใหม่ ประสิทธิภาพของวัคซีน และมาตรการควบคุมการระบาด ถ้ากลับไปล็อคดาวน์อีกครั้งจะกระทบกับเศรษฐกิจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ไวรัสโอมิครอน อาจจะระบาดง่าย ติดเชื้อได้ง่าย แต่จะไม่รุนแรง ซึ่งจะลดความกังวลต่อเศรษฐกิจได้มาก และจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ซึ่งต้องติดตามผลที่เกิดขึ้นจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ต่อไป เพราะข้อมูลยังมีอยู่ไม่มาก
“ถ้าดูจากสถานการณ์ล่าสุดเศรษฐกิจไทยยังมีแนวดน้มของการฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ก็จะเป็นปัจจัยหนุนต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 แต่คงต้องจับตาสถานการณ์ของไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้อย่างใกล้ชิดว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป”
ดร.ดอน กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการผ่อนคลาย LTV ที่ประกาศใช้มาได้เดือนเศษ ถ้าจะประเมินผลจากการผ่อนคลายมาตรการในตอนนี้ก็ถือว่า ตลาดไม่ได้ทรุดตัวลง แต่ดีขึ้นหรือไม่ยังไม่ชัดเจนคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ พร้อมกับรอแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงภาคอสังหาฯของรัฐบาล ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าจะต่อมาตรการลดค่าโอนและจดจำนองสำหรับบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทออกไป และหวังว่าเมื่อเศรษฐกิจในปี 2565 เริ่มฟื้นตัว ธนาคารพาณิชย์จะเริ่มลดการ์ดลง
