เข้าสู่ปี 2564 ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านของการใช้ชีวิตเข้าสู่วิถีใหม่หรือที่เรียกกันติดปากว่า “New Normal” จากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ได้ทำ ผู้คนวัยทำงานต้อง Work From Home ดำเนินการทางธุรกรรมผ่านระบบ Online Business สมาชิกวัยใสของครอบครัวต้องเรียนผ่านระบบ Online Learning การจับจ่ายใช้สอบในชีวิตประจำวันปรับสู่ระบบ “ไร้เงินสด” หรือ Cashless Society และเมื่อใดก็ตามที่เราออกจากบ้านต้องคิดเสมอว่าเราต้องเว้นระยะห่างตามมาตรการ Social Distancing
แล้วในปี 2564 การออกแบบบ้านในโครงการจัดสรร หรือการจัดวางฟังก์ชั่นใสพื้นที่ห้องชุด จะเป็นไปอย่างไร ต้องปรับ ต้องเปลี่ยนหรือไม่ คำตอบก็คือ …ไม่ปรับก็ขายยาก ไม่เปลี่ยนอาจขายไม่ออก แล้วต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร
Property Mentor ขอเริ่มต้นปี 2564 ด้วยการนำเสนอเรื่องราวการปรับเปลี่ยนการจัดพื้นที่ใช้สอบ หรือฟังก์ชั่นการอยู่อาศัย ภายในบ้าน ภายในห้องชุด โดยยึดโยงแนวคิด “New Normal” กับการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เกิดขึ้นตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกตะวันตก และนำเข้าสู่การปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการออกแบบพื้นที่ใช้สอยตามกรอบวิถีไทย
โควิด-19 จะเปลี่ยนวิธีคิดในการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน เพราะผู้คนปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่ต้องอยู่บ้านมากขึ้น เมื่อบ้านเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น จึงจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อที่จะสร้างความสุขกับการใช้ชีวิตในบ้าน ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้การออกแบบบ้านต้องเปลี่ยนแปลงไป โดยอย่างน้อยที่สุดต้องปรับแนวคิดให้มี 6 ฟังก์ชั่นที่ตอบสนอง
1. เปลี่ยนการใช้พื้นที่ให้รองรับความต้องการส่วนบุคคล
หมายถึงบ้านจะต้องรองรับกิจกรรการใช้พื้นที่ที่มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับสมาชิกแต่ละคนของบ้านเพิ่มมากขึ้น เช่น พื้นที่สำหรับการอ่านหนังสือ การพักผ่อนในเวลากลางวัน การออกกำลังกาย และความบันเทิง ฟังก์ชั่นภายในบ้านจึงมีมากกว่าแค่ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องน้ำ และสวนหลังบ้าน พื้นที่สำหรับกิจกรรมเหล่านี้จะต้องมีความยืดหยุ่น และสามารถเปลี่ยนได้เมื่อผู้เป็นเจ้าของบ้านต้องการ เช่น ใช้ประตูกระจกบานเฟี้ยม มาแบ่งระหว่างพื้นที่ส่วนกิจกรรมต่างๆ จากพื้นที่รับแขก หรือส่วนอื่นๆ ของบ้าน
2. เพิ่มพื้นที่รับแสงธรรมชาติ และพื้นที่เปิดโล่ง
ด้วยหลักการของการรักษาตัวเองและทุกคนในครอบครัวให้ห่างไกลโควิด-19 คือการใช้ชีวิตในพื้นที่เปิดโล่ง ดังนั้นการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสร้างทางเลือกของการออกแบบบ้าน ซึ่งต้องจัดหาพื้นที่กลางแจ้งส่วนตัวสำหรับสมาชิกภายในบ้าน ซึ่งกระแสความต้องการพื้นที่เปิดโล่ง หรือพื้นที่กลางแจ้งมีเพิ่มมากขึ้นในบ้านทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุด หรือบ้านหลังใหญ่ สมาชิกภายในบ้านอาจต้องการเพียงแค่การเชื่อมต่อที่ใกล้ชิดระหว่างพื้นที่อยู่อาศัยและโลกธรรมชาติ ด้วยประตูกระจกบานสไลต์ที่อยู่ในสนนราคาที่ผู้ซื้อจับต้องและเป็นเจ้าของได้
3. ปรับบ้าน เป็น “โฮมออฟฟิศ” รูปแบบใหม่
ด้วยเหตุผลสำคัญของการ Work From Home ผู้คนถูกบังคับให้ทำงาน เจ้าของบ้านที่มีงบประมาณเพียงพอเลือกที่จะใช้วิธีดัดแปลงห้องใดห้องหนึ่งภายในบ้าน ให้เป็นสำนักงาน โดยให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่จำเป็น สำหรับพื้นที่ทำงานที่มีประสิทธิภาพ ความต้องการพื้นที่ทำงานส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น บางคนมีแนวคิดที่จะออกแบบโดยรวมโฮมออฟฟิศเข้ากับพื้นที่กลางแจ้งส่วนตัว โดยออกแบบให้อยู่ในสวนด้านหน้าของที่พักอาศัยทำให้รู้สึกเหมือนได้ออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน
4. ควรมีห้องครัวอัจฉริยะ เพิ่มระบบจัดการเชื้อโรคไม่ให้เข้ามาภายบ้าน
เนื่องจากผู้คนมีแนวโน้มที่จะอยู่บ้านมากขึ้นความสำคัญของห้องครัวในบ้านก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นครัวจึงไม่ใช่แค่เพียงสถานที่ประกอบอาหาร เพราะมีถูกสั่งล็อกดาวน์ ตู้เก็บของจะเข้ามามีความจำเป็นมากขึ้น การออกแบบห้องครัวอัจฉริยะจึงกลายเป็นสิ่งที่กระตุ้นการตัดสินใจให้อยากเป็นเจ้าของบ้านได้ โดยเฉพาะหากเพิ่มความคิดแบบแฮนด์ฟรี หรือใส่เทคโนโลยีที่สั่งงานด้วยเสียงในห้องครัว มาใช้กับการควบคุมสิ่งต่างๆ เช่น ไฟก๊อกน้ำ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จะช่วยตอบโจทย์ผู้ซื้อบ้านได้มากขึ้น และที่สำคัญคือ ต้องมีพื้นที่กว้างขวางพอที่จะทำอาหาร และรองรับกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัวเมื่อมีโอกาสพิเศษ
5. ระบบฟอกอากาศ กลายเป็นสิ่งจำเป็น
คุณภาพอากาศเป็นประเด็นสำคัญตลอดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ผู้บริโภค หรือผู้ซื้อบ้านเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศภายในบ้านมากขึ้น การออกแบบบ้านโดยให้มีระบบจัดการอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้านจะกลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการและถามถึง
อ่านเพิ่มเติม: New Normal กับการออกแบบเมืองแห่งอนาคต โดย รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต
Property Mentor Line Official : https://lin.ee/nE9XYOo4