ท่ามกลางภาวะชะลอตัวและความผันผวนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกบริษัทต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยเฉพาะการบริหารจัดการกระแสเงินสดที่ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้แต่ละบริษัทเดินหน้าไปต่อได้
“Cash Flow ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ในขณะที่ตลาดเป็นของผู้ซื้อทำให้การวางกลยุทธ์การตลาดของบรัษัทในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2563 จึงเป็นเรื่องของการลดราคาให้เต็มที่ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค จึงเป็นที่มาของแคมเปญแรง ISSARA DAY Yes ทุกดีล โดยการให้ส่วนลดสุงสุด 38% กับ 9 โครงการของบริษัทที่พร้อมคุยกับลูกค้าในทุกเงื่อนไข ซึ่งคาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะช่วยสร้างยอดขายได้อีกประมาณ 300-400 ล้านบาท” นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์กล่าว
นอกจากการจัดแคมเปญแรง เพื่อดึงกระแสเงินสดเข้าบริษัทแล้ว ชาญอิสสระ ยังอยู่ในระหว่างการเจรจาขายโครงการแบบบิ๊กล็อตให้กับกลุ่มที่มีกำลังซื้อ รวมถึงผ่านตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ โดยนายดิฐวัฒน์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ตอนนี้มีที่เจรจากันอยู่ 2-3 ราย เป็นการซื้อโครงการที่พร้อมอยู่ และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในราคาส่วนลด ซึ่งมีทั้งที่เป็นนักลงทุน และกลุ่มที่ต้องการซื้ออยู่เองเป็นการซื้อให้กับครอบครัว มูลค่ารวมประมาณ 20-300 ล้านบาท โดยคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
“ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่แบบนี้จะมีกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีเงินเก็บและมีกำลังซื้อสูงต้องการเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในแบบบิ๊กล๊อตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุน เพราะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่จับต้องได้ นอกจากจะได้กำไรจากราคาที่เจรจาขอส่วนลดพิเศษแล้ว ยังได้กำไรจากราคาที่จะปรับสูงขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกัน ก็ยังมีกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่จริงๆ สนใจซื้อพร้อมกันหลายๆ ยูนิตให้กับสมาชิกในครอบครัวที่ด้วยเช่นกัน” นายดิฐวัฒน์กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัท ต้องเร่งปรับตัวในการพัฒนาธุรกิจและพัฒนาที่อยู่อาศัย สู่ความเป็น New Normal ด้วยการปรับกลยุทธ์ รูปแบบการตลาด ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในเรื่องการพัฒนาช่องทางการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ การพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ต้องเน้นความคุ้มค่า และสอดรับกับกำลังซื้อและพฤติกรรมในการอยู่อาศัยของผู้บริโภค ซึ่งเทรนด์ของการทำงานที่บ้าน การดูแลเรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้น จึงต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านทำเลและพื้นที่ใช้สอยให้ตอบโจทย์ รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้มากขึ้น
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยจะเห็นว่า บ้านเดี่ยวมีการขายที่ดีขึ้น โดยเฉพาะบ้านในระดับราคา 10-30 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีแนวคิดที่จะพัฒนาโครงการรองรับลูกค้าในกลุ่มนี้มากขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม ที่เขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ 5 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมตากอากาศ สูง 4 ชั้น จำนวนประมาณ 4-5 อาคาร ขนาด 35-180 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 5-50 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างปรับแบบและกำหนดราคาให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้
“สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2563 น่าจะยังทรงๆ ตัวอยู่ โครงการที่ได้รับความสนใจจะเป็นโครงการที่แล้วเสร็จจับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆ ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นนักลงทุนเป็นกลุ่มที่ชะลอตัวลง ส่วนตลาดบ้านในกลุ่มไฮเอนด์ ถือว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อย ซึ่งการฟื้นตัวของภาคธุรกิจอสังหาฯ จากนี้ไปน่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ ขณะที่ปัญหาการเมืองในประเทศจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการทำธุรกิจ และกระทบกับกำลังซื้อของผู้บริโภค กลกยุทธ์การขายปลายปีจะเน้นการขายด้วยการ ลดราคา ในการระบายสต๊อกที่มีอยู่ เพื่อสร้างยอดขายและสร้างรายได้ ให้มีกระแสเงินสดเข้ามามากที่สุด” นายดิฐวัฒน์ กล่าว
สำหรับแคมเปญ ISSARA DAY Yes ทุกดีล เป็นการจัดโปรโมชั่นสำหรับ 9 ในโครงการของบริษัทกับข้อเสนอ Finance Sabai Sabai มอบส่วนลดสูงสุดถึง 38% ฟรีค่าส่วนกลางสูงสุด 10 ปี ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน ฟรีอยู่ฟรี 1 ปี หรือลูกค้าสามารถเลือกข้อเสนอ Lifestyle Chill Chill อาทิ เลือกรับรถยนต์ Audi A6 Avant 55 TFSI Quattro S-Line ฟรีบัตรกำนัลไพรเวทเจ็ท มูลค่าสูงสุด 1 ล้านบาท ฟรีมือถือ Samsung Galaxy Z Fold 2 ฟรีบัตรกำนัลเฟอร์นิเจอร์ Chanintr Living มูลค่าสูงสุด 3 ล้านบาท นอกจากนี้ลูกค้าที่ลงทะเบียนออนไลน์ยังจะได้รับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 15 พ.ย. 2563