fbpx
เมทริส พระราม 9

เมเจอร์ ปลื้มผลงานไตรมาส 1 โตสวนกระแสตลาด

เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ ปลื้มผลงานไตรมาส 1 โตสวนกระแสตลาด ทั้งรายได้รวม รายได้จากการขาย และกำไรสุทธิ ซึ่งเป็นผลจากการโอนคอนโดเมทริส พระราม 9- รามคำแหง พร้อมเร่งสปีดขาย-โอนโครงการพร้อมอยู่ ปั๊มรายได้ต่อเนื่อง

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2563 ของบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,993.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 537.83 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2562 หรือเพิ่มขึ้น 37% โดยรายได้ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,824.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 534.91 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2562 หรือเพิ่มขึ้น 41% ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 198.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.29 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2562 หรือ เพิ่มขึ้น 31%

ถือเป็นการเติบโตที่สวนกระแสภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้จากการขายเฉลี่ยลดลงเกือบ 30% และกำไรสุทธิเฉลี่ยลดลงกว่า 40% โดยรายได้จากการขายส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ ในโครงการเมทริส พระราม 9-รามคำแหง ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 1/2563 ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 80% นอกจากนี้ ยังมีการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องจากโครงการพร้อมอยู่อีกหลายโครงการ

ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2563 บริษัทเน้นกลยุทธ์เพื่อเร่งการขายโครงการพร้อมอยู่และโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการที่กำลังจะแล้วเสร็จภายในปี ซึ่งปัจจุบันมียอด Backlog รอโอนกรรมสิทธิ์ อยู่กว่า 3,300 ล้านบาท โดยมีโครงการที่เป็นไฮไลท์ คือ โครงการเมทริส ลาดพร้าว สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 2 ณ ปัจจุบันโครงการเมทริส ลาดพร้าว สามารถปิดการขายไปได้แล้วกว่า 80%

ขณะที่การประเมินสถานการณ์อสังหาฯ หลังช่วงโควิด 19 เรียกได้ว่าเป็นแนวโน้มอสังหาฯ สู่การปรับฐานใหม่ ที่เรียกว่า New Normal อสังหาฯ ในอนาคต เช่น การออกแบบฟังก์ชั่นที่ต้องเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมและลักษณะการทำงานลูกค้าที่เปลี่ยนไป หรือการออกแบบฟังก์ชั่นที่เอื้อต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ในบ้านให้มากขึ้น รวมไปถึงทำเลที่จะมาตอบโจทย์คนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริง และกลยุทธ์ที่สำคัญหลังจากนี้คือ การให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่ในการใช้ชีวิตของลูกค้าทุกขั้นตอน เพื่อส่งมอบบริการให้กับลูกค้าแบบครบวงจรและต่อเนื่องให้มากยิ่งขึ้น

นางสาวเพชรลดา กล่าวเพิ่มเติม ในปีนี้ บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ในการทำการตลาดและการขาย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเน้นการขายในช่องทางออนไลน์มากขึ้น และได้มีการจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายโครงการพร้อมอยู่ อย่างไรก็ตาม มุมมองการทำการตลาดหลังจากสถานการณ์โควิด -19 และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์ให้ทันพฤติกรรมการซื้อสินค้าและการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

“ในสภาวการณ์เช่นนี้นับเป็น “โอกาสทอง” ของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะทราบดีว่า ที่อยู่อาศัยที่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุด คือ คอนโดมิเนียม โดยปรับตัวลดลงราว 5% จากช่วงไตรมาส 3 ปี ของปี 2562 จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากว่า 3 ปีที่ผ่านมา และทำให้เกิดการแข่งขันทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และได้ของที่มีคุณภาพ มีทางเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนยิ่งขึ้น”

อ่านประกอบ: Top 5 บริษัทอสังหาฯ ฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19

ติดตามช่อง Property Mentor Chanel ทาง YouTube