fbpx
Dulux Let's Colour

สีดูลักซ์ร่วมเนรมิตสะพานลอย 7 สี ท่าน้ำนนท์

สีดูลักซ์ร่วมฟื้นฟูท่าน้ำนนท์ สืบสานมรดกวัฒนธรรมและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของชาวนนทบุรี. ท่าน้ำนนท์ พื้นที่เศรษฐกิจและศูนย์กลางคมนาคม ท่าน้ำ และ ท่ารถ สำคัญระหว่างนนทบุรีและกรุงเทพฯ ดูสดใสกว่าเคย อาคารพาณิชย์สีเหลือสลับเฉดงามตา หอนาฬิกาแลนด์มาร์คสำคัญที่ดูสดใส และสะพายลอย 7 สี ที่สนุกและโดดเด่นไม่เหมือนใคร ชวนให้คนข้ามสะพานลอยแถมทำคอนเทนต์เซลฟี่เรียกรอยยิ้ม นี่คือพลังของสีสันจากแคมเปญ Let’s Colour ของบริษัท อั๊คโซ่ โนเบล ผู้ผลิตและจำหน่ายสีดูลักซ์ ร่วมกับ เทศบาลนครนนทบุรี ฟื้นฟูอาคารตึกเก่า ปรับภูมิทัศน์ ภายใต้ชื่อ “นครนนท์งามตา ฉลอง 72 พรรษา เทิดไท้องค์ราชันย์” เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ และรักษาเอกลักษณ์ความงามมรดกวัฒนธรรม แหล่งเศรษฐกิจและการเดินทางใน ย่านถนนประชาราษฎร์  ท่าน้ำนนท์ ของชาวนนทบุรี        

Dulux Let's Colour

นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี กล่าวว่า “นครนนท์งามตา ฉลอง 72 พรรษา เทิดไท้องค์ราชันย์” เป็นโครงการฟื้นฟูอาคารตึกเก่า ปรับภูมิทัศน์ ย่านถนนประชาราษฎร์ – ท่าน้ำนนท์ ที่มีคุณค่าและความสำคัญของนนทบุรี ให้เกิดความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย และยังคงรักษาเอกลักษณ์มรดกวัฒนธรรม ด้วยการทาสีอาคารบริเวณท่าน้ำนนท์ และ ถนนประชาราษฎร์ ให้เป็นโทนสีเหลือง สีครีม โทนสีที่ดูอบอุ่น เย็นตา จำนวน 118 คูหา นอกจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนผ้าใบกันสาดของผู้ค้าบริเวณตลาดสดให้เป็นแบบสีเดียวกันทั้งหมด พร้อมทั้งจัดระเบียบทางเท้า เพื่อให้ประชาชน สามารถเดินทางและจับจ่ายซื้อสินค้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น” เพื่อเป็นการบูรณาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เทศบาลฯ จึงได้จัดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกันกับบริษัทผู้ผลิตและจำหน้ายสีและวัสดุก่อสร้าง เพื่อความยั่งยืนในการสนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้ และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สีดูลักซ์เข้าร่วมสนับสนุนสีทาอาคารให้ผู้คนที่พบเห็นรู้สึกสดใสและชื่นใจกับภูมิทัศน์ที่สวยงามบริเวณท่าน้ำนนท์ และหอนาฬิกาซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเรา”  

นายไชยยันต์ จาตุรันตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท อั๊คโซ่ โนเบลเพ้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สนับสนุนสีเป็นจำนวน 3,400 ตารางเมตร และทีมจิตอาสาลงพื้นที่กว่า 60 คน เพื่อช่วยเติมสีสันอาคารพาณิชย์ซึ่งมีอายุยาวนานให้กลับมาสวยอย่างมีเอกลักษณ์  โดยเฉพาะบริเวณท่าน้ำนนท์ซึ่งเป็นศูนย์รวมของการคมนาคมทางบกและทางน้ำ พื้นที่วัฒนธรรมและเศรษฐกิจที่สำคัญของชาวนนทบุรี”

โครงการ Let’s Colour  สีดูลักซ์ ต้องการ “Adding Colour To People’s Lives” เพราะเราเชื่อว่าสีมีพลังในการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ยกระดับผู้คนได้ เปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยมีชีวิตชีวา สนุก รื่นรมย์ และสร้างสังคมที่มีความสุข มอบรอยยิ้มให้กับทุกคน ได้ร่วมทาอาคารพาณิชย์ให้เป็นสีเหลืองเฉดต่างๆ ให้ดูกลมกลืนสวยงาม สะอาดตา รวมทั้ง หอนาฬิกาแลนด์มาร์คสำคัญที่ดูสดใสกว่าเดิม และสะพานลอยบริเวณสี่แยก ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สะพานลอย 7 สี” ไปแล้วนั้น เกิดจากการออกแบบของทีมดูลักซ์ในการใช้สีสันมาสร้างความสนุก โดยทาขั้นสะพานลอยให้เป็น 7 เฉดสี คล้ายกับริ้วโลโก้ของสีดูลักซ์ สะท้อนถึงความสนุก มีชีวิตชีวา และโอบอุ้มความหลากหลาย ประชาชนเดินผ่านไปมาก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ เป็นความสุขเล็กๆ ที่มีได้ทุกวัน สะท้อนถึงความเชื่อในพลังสีสันที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน

Let’s Color  ดำเนินมากว่า 15 ปี และสร้างผลกระทบเชิงบวกให้ผู้คนกว่า 101 ล้านคนทั่วโลก ในประเทศไทยLet’s Color เข้าไปสร้างสีสันให้สถานที่สำคัญ เช่น วัดอรุณ มิวเซียมสยาม สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โรงเรียน วัด และสถานที่ราชการต่างๆ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สร้งความสดใสให้กับพื้นที่สำคัญของพี่น้องชาวนนทบุรี” นายไชยยันต์ กล่าวปิดท้าย

ท่าน้ำนนทบุรี หรือรู้จักกันดีในนาม ท่าน้ำนนท์  ประกอบด้วยท่าเรือด่วนเจ้าพระยาและท่าเรือข้ามฟาก ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่าและหอนาฬิกาจังหวัดนนทบุรี เป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคมสำคัญระหว่างนนทบุรีและกรุงเทพฯ ทั้งทางบกและทางน้ำ โดยมีหอนาฬิกาแลนด์มาร์คสำคัญ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2500 โดยกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ชาวบ้านตระหนักถึงวัฒนธรรมการตรงต่อเวลา ออกแบบให้มีความสูง 17 เมตร ตอนบนมีหน้าปัดนาฬิกา 4 ด้าน เหนือหน้าปัดนาฬิกาทำซุ้มหอกระจายข่าวและมีที่ตรวจเพลิงไหม้ทั้ง 4 ด้าน เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการนัดพบปะและค้าขายของชาวนนทบุรี จากนั้น ในปี พ.ศ. 2553  จึงตั้งชื่อว่า ท่าน้ำพิบูลสงคราม 3 เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแก่จอมพล ป. พิบูลสงคราม และนำรูปปั้น “ไก่” ประดับไว้ด้านบน ซึ่ง “ไก่” เป็นปีเกิดของจอมพล ป. พิบูลสงคราม