fbpx

DCON ผุดบ้านแนวราบเจาะเรียลดีมานด์ นครปฐม-ปทุมธานี

อรดา บริษัทอสังหาฯในเครือ DCON กางแผนเปิดโครงการใหม่ปี 67 เพิ่มอีก 2 โครงการบ้านแนวราบเจาะเรียลดีมานด์ นครปฐม-ปทุมธานี

นางสาววิศรา พรกุล กรรมการ บริษัท อรดา จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (DCON) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่าในปี 2567 บริษัทจะเน้นและให้ความสำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลักจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริงหรือกลุ่ม Real Demand ที่ต้องการหรือมีกำลังซื้อในระดับราคา 2-7 ล้านบาท แต่ละโครงการที่พัฒนาไม่ใหญ่มีมูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และได้ตั้งงบ 100-200 ล้านบาท สำหรับซื้อที่ดินรองรับแผนการพัฒนาโครงการต่อเนื่อง โดยจะเน้นทำเลชานเมืองหรือปริมณฑล ขนาดที่ดินแต่ละแปลงประมาณ 20-30 ไร่ ใช้เวลาในการพัฒนาและขายประมาณ 2-3 ปี ขณะที่เป้ายอดขายในปี 2567 ตั้งไว้กว่า 400 ล้านบาท

“ปัจจุบันที่เราเน้นทำเลชานเมืองและปริมณฑล เพราะเล็งเห็นถึงการเติบโต และการขยายตัวของผู้บริโภคจากภายในเมืองใหญ่ ขยายออกมาถึงปริมณฑล โดยเน้นทำเลที่เดินทางที่สะดวก สามารถไปทำงาน และไปโรงเรียนลูกได้สะดวก” นางสาววิศรา กล่าว

ทั้งนี้ ตามแผนตั้งเป้านำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 3-5 ปี พร้อมที่จะขยายธุรกิจในโครงการต่อๆ ไปยังทำเลอื่นที่มีศักยภาพทั่วประเทศ เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่ดีมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมโดยมุ่งสู่การเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯชั้นนำ และมีการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนในประเทศไทย

สำหรับในปี 2567 บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการเป็นแนวราบ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว GRAND DECO นครปฐม ใกล้กับศูนย์ราชการใหม่ บนเนื้อที่ประมาณ 33 ไร่เศษ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดตัวไตรมาส 2 มูลค่าถึง 780 ล้านบาท และอีก 1 โครงการจะอยู่โซน จ.ปทุมธานี มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท เปิดตัวเร็วๆ นี้เช่นกัน ทำให้ในปีนี้บริษัทมีโครงการที่พัฒนาทั้งโครงการเปิดใหม่ และโครงการที่เปิดในปีที่ผ่านๆ มารวมแล้ว 5 โครงการ (โครงการใหม่ 2 โครงการ และโครงการที่ขายต่อเนื่อง 3 โครงการ) มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 4,000 กว่าล้านบาท เพื่อรองรับกับการแข่งขันของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 โดยวางกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริงหรือกลุ่ม Real Demand มากขึ้นในแบบผสมผสานทั้งการตลาดรูปแบบใหม่และแบบเก่า หรือแบบดั้งเดิม

สำหรับ 3 โครงการที่ยังพัฒนาและขายต่อเนื่องเป็นคอนโดมิเนียม 1 โครงการ และเป็นแนวราบ 2 โครงการ ประกอบด้วย

1.โครงการ Dcon prime รัตนาธิเบศร์ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เป็นอาคารสูง 38 ชั้น จำนวน 638 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 27.08-61.01 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่ม 1.79 ล้านบาท ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเข้าอยู่ แถมเฟอร์นิเจอร์ STARMARK ครบ สามารถหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้ทันที

2.โครงการ THE DECO บางนา มูลค่าโครงการ 930 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 35 ไร่ จำนวน 292 ยูนิต พัฒนาเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น บนเนื้อที่ 37.5 ตารางวา (ตร.ว.) มี 2 แบบบ้านให้เลือก คือ SPACE และ WIDE พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 155-161 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 4.09 ล้านบาทต่อยูนิต และทาวน์โฮม CONNECT 2 ชั้น ฟังก์ชันครบ บนเนื้อที่ 20.70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ราคาขาย 2.49 ล้านบาทต่อยูนิต และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เป็นพื้นที่ขายในอนาคต

3.โครงการ GRAND DECO ศาลายา มูลค่าโครงการ 810 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 29 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านแฝด บ้านเดี่ยว และอาคารพาณิชย์ สไตล์ Minimal Nordic จำนวน 163 ยูนิต มีบ้านแบบ DAISY บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ 56 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาทต่อยูนิต และ บ้านแบบ LILY บ้านแฝด 2 ชั้น บนเนื้อที่ 37.5 ตร.ว.พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท ส่วนอาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น เป็นพื้นที่ขายในอนาคต

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการ GRAND DECO ศาลายา นอกจากจะเจาะตลาดในกลุ่มของคนวัยทำงานแล้วยังเอื้อต่อผู้ที่รักสัตว์เลี้ยง และผู้สูงอายุ ด้วยสไตล์การออกแบบบ้านที่ไม่เหมือนใครในโซนนี้ ทั้งทำเลที่ตั้งโครงการ การบริการ และความคุ้มค่าของราคา ทำให้ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าผู้บริโภค เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการนี้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ผลตอบรับค่อนข้างดี จากยอดเปิดขายเฟสแรกถึง 50% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2567 โดยจะมีการจัดงาน Grand Opening วันที่ 23-24 มีนาคม 2567 นี้ พร้อมกับเปิดบ้านโซนใหม่ ติดสวน ทำเลดีที่สุดในโครงการ ซึ่งตั้งเป้าจะปิดการขาย Phase 1 ซึ่งมีจำนวน 69 ยูนิต ภายในกลางปีนี้