DOS Life ชูสินค้านวัตกรรมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เผยถังเก็บน้ำกลุ่ม hygienic โตกว่า 20% ล่าสุดจัดแคมเปญ “Oh My DOS! เพราะความห่วงใย มันใหญ่บะเร่อบะร่า” ตอกย้ำความสำคัญของถังเก็บน้ำ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้กว่า 4,100 ล้าน เติบโต 15%
นายดิศนิติ โตวิวัฒน์ กรรมการ-รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท ธรรมสรณ์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถังเก็บน้ำแบรนด์ DOS Life (ดอสไลฟ์) เปิดเผยว่า ในแต่ละปีบริษัทใช้งบหลักหลายล้านบาทในการวิจัยและพัฒนาสินค้านวัตกรรมป้อนสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น ถังน้ำที่ป้องกันรังสี UV ถังน้ำทึบแสงเพื่อไม่ให้เกิดตะไคร่น้ำในถัง รวมไปถึงนวัตกรรมเพื่อตอบสนองเรื่องความสะอาด เช่น ถังน้ำที่สามารถกำจัดและยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ เป็นต้น และเร็วๆ นี้จะนำถังน้ำที่สามารถคุมอุณหภูมิได้ออกสู่ตลาด รวมถึงการพัฒนาสินค้าให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายขึ้นและดีไซน์ที่ตอบโจทย์กับบ้านที่หลากหลายขึ้น
“นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน เราเห็นการเติบโตของถังเก็บน้ำในกลุ่ม hygienic ซึ่งได้แก่ ถังเก็บน้ำที่มีนวัตกรรมที่สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้สูงขึ้นประมาณ 20% แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น และจากการเก็บรวบรวม market data นำมาวิเคราะห์จนพบว่า น้ำคือสิ่งจำเป็นที่ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันทั้งอุปโภคและบริโภค ดังนั้นความสะอาดคือปัจจัยหลักที่ผู้ใช้ต้องการ ซึ่งที่ผ่านมา DOS Life ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทุกคนในบ้าน ด้วยแนวคิดที่จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ล่าสุดบริษัทจึงได้จัดกิจกรรมการตลาดภายใต้แคมเปญโอ้มายดอส Oh My DOS! เพราะความห่วงใย มันใหญ่บะเร่อบะร่า เพื่อสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทุกคนหันมาคำนึงถึงความสำคัญของถังเก็บน้ำ โดยได้ครอบครัว ตันจรารักษ์ ทั้งคุณบีม-กวี คุณออย และน้องพีร์ น้องธีร์ มาร่วมถ่ายถอดเรื่องราวและสื่อสารให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงความห่วงใย ใส่ใจที่ DOS Life สั่งสมมานาน ถ่ายทอดผ่านนวัตกรรมด้วยแนวคิด Constant Caring Innovation เพื่อคงความเป็นผู้นำในด้านการออกแบบนวัตกรรมที่ใส่ใจห่วงใยในทุกคุณภาพชีวิต”
นายดิศนิติกล่าวอีกว่า แคมเปญ “โอ้มายดอส Oh My DOS! เพราะความห่วงใย มันใหญ่บะเร่อบะร่า” จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้ความเข้าใจครั้งใหม่ มองเรื่องน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่ถังเอาไว้สำรองน้ำดังเช่นปัจจุบัน และถังเก็บน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญในบ้าน ที่จะส่งมอบน้ำที่มีคุณภาพ สะอาดและปลอดภัยสู่ผู้บริโภค โดยในปีนี้ DOS Life ได้เพิ่มงบด้านการตลาดสูงขึ้น 3 เท่า เพื่อกระจายการรับรู้ผ่านสื่อโฆษณาเพื่อให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มในทุกช่องทางการสื่อสาร และคาดการณ์ว่า ในปี 2566 จะสามารถเติบโตได้มากกว่า 15% คิดเป็นตัวเลขประมาณ 4,170 ล้านบาทในตลาดถังเก็บน้ำที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท
นอกเหนือจากนี้ ในด้านกิจกรรมเพื่อสังคมที่ดอสไลฟ์ทำมาอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ตั้งเป้าในการส่งมอบถังเก็บน้ำให้แก่โรงเรียน ชุมชน หรือองค์กรที่ต้องการถังเก็บน้ำประมาณ 800-1,000 ใบ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในสังคมให้ดีขึ้น สุดท้ายดอสไลฟ์สัญญาว่าจะไม่หยุดคิดค้นนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดีที่สุด และสามารถตอบสนองความต้องการในทุกๆไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค รวมถึงสามารถรองรับการเติบโตของตลาดในอนาคต และสานต่อความเป็นแบรนด์ถังเก็บน้ำที่มีคุณภาพอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคตลอดไป
