fbpx
7 AP Beaming

เอพี โกยยอดขาย 4 เดือนทะลุ 1.4 หมื่นล้าน บ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮมยังแรงไม่ตก

เอพี ไทยแลนด์ โกยยอดขาย 4 เดือนกว่า 1.42 หมื่นล้าน ปั๊มรายได้ในไตรมาสแรกไปได้กว่า 1.18 หมื่นล้าน เผยทาวน์โฮม-บ้านเดี่ยวยังแรงไม่ตกมียอดขายรวมถึง 73% ขณะที่คอนโดเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ไตรมาส 2 เดินหน้าลุยผุดโครงการใหม่อีก 16 โครงการกว่า 2 หมื่นล้าน

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวม ณ วันที่ 30 เมษายน 2566 ได้ทั้งสิ้น 14,264 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากสินค้าแนวราบมูลค่า 10,601 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมมูลค่า 3,663 ล้านบาท และมีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) 33,000 ล้านบาท

ขณะที่รายได้รวม ณ สิ้นไตรมาส 1 บริษัทสามารถสร้างรายได้รวมจากบ้านแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม และธุรกิจอื่นๆ ได้ 11,805 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 1,154 ล้านบาท และมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.66 เท่า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายในการบริหารจัดการสัดส่วนหนี้สินสุทธิในระดับที่ไม่เกิน 1 เท่า

ในไตรมาสที่ผ่านมา สินค้ากลุ่มแนวราบอย่าง ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยวยังถือเป็นคีย์ไดรฟ์สำคัญในการเติบโตทางรายได้และกำไรอย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้ที่เกิดขึ้นมาจากสินค้าแนวราบคิดเป็นมูลค่า 8,657 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73% ของสัดส่วนรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งมีบ้านเดี่ยวแบรนด์ THE CITY เป็นกำลังหลักหนุนสร้างรายได้รวมในกลุ่มแนวราบ

สำหรับสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม ภาพรวมธุรกิจเริ่มมีแนวโน้มเป็นบวก ประกอบกับสัญญาณการโอนกรรมสิทธิ์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยไตรมาสที่ผ่านมานอกจากบริษัทจะโอนกรรมสิทธิ์ปิดจบโครงการ ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช เฟส 1 ได้ทั้งโครงการแล้วนั้น บริษัทยังสร้างรายได้จากการโอนคอนโดแบรนด์ ASPIRE อย่าง ASPIRE รัตนาธิเบศร์ เวสต์ตัน และ ASPIRE เอราวัณ ไพร์ม ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงคอนโดมิเนียมร่วมทุนอย่าง RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน คอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดที่เริ่มทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ผ่านมา

สำหรับในไตรมาส 2 เอพีเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 16 โครงการ มูลค่า 21,030 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 7 โครงการ มูลค่า 9,380 ล้านบาท ทาวน์โฮม 8 โครงการ มูลค่า 8,150 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 3,500 ล้านบาท โดยปี 2566 บริษัทตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่มากถึง 58 โครงการ มูลค่าประมาณ 77,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 58,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวมโครงการร่วมทุนที่ 57,500 ล้านบาท โดยเน้นย้ำทำงานแบบเจาะลึก เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อเป้าหมายการเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย