fbpx
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์

แอสเสท เวิรด์ ทุ่ม 800 ล้าน ปั้นเอเชียทีคฯเป็น RETAIL-TAINMENT

แอสเสท เวิรด์ ลงทุนกว่า 800 ล้าน ปั้น เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น เป็นรีเทล-เทนเม้นท์ริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดรับนักท่องเที่ยวทั้งวันเช้าจรดค่ำ

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า ในโอกาสที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ครบรอบ10 ปี บริษัทจะลงทุนกว่า 800 ล้านบาท เนรมิตแลนด์มาร์คทางการท่องเที่ยวด้านไลฟ์สไตล์ริมน้ำระดับโลก ยกระดับสู่แหล่งท่องเที่ยวด้านไลฟ์สไตล์และศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคน พร้อมขยายเวลาเปิด-ปิด ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และยังเป็น “รีเทล-เทนเม้นท์ ที่ผสมผสาน” Living Museum & Art Festival แหล่งเรียนรู้ทางศิลปะวัฒนธรรมในรูปแบบสร้างสรรค์ พร้อมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพื้นที่ที่ตั้งของเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวอันทรงคุณค่าที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และทุกคนในครอบครัว ผ่านการสร้างสรรค์ 3 ประสบการณ์สำคัญ คือ

FESTIVAL VILLAGE​: ไฮไลท์แลนด์มาร์คและงานแสดงระดับสากลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ อาทิ Asiatique Sky ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยความสูง 60 เมตร Merry-Go-Round ม้าหมุนแสนสนุก Mystery Mansion บ้านผีสิง และการแสดงที่มีชื่อเสียงอย่างคาลิปโซ่ที่สร้างความสุขให้กับทุกคนมาแล้ว และ DISNEY100 VILLAGE: สัมผัสประสบการณ์งานแสดงพิเศษ (Special Pop-Up Event) เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีดิสนีย์ เพื่อให้ทุกคนและแฟนคลับดิสนีย์ในประเทศไทยชื่นชม ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมถึง 31 กรกฏาคม 2566 นี้ โดยจะมีโซนงานแสดงหลากหลายธีมให้ทุกคนได้สัมผัสกับเรื่องราวเหนือกาลเวลากว่า 100 ปี และตัวละครอันโด่งดังจากทั้ง Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars โดยสามารถซื้อบัตรผ่านไทยทิคเก็ตเมเจอร์ได้เร็วๆ นี้

LARGEST FOOD AND BEVERAGE SELECTION​: สร้างแหล่งรวมร้านอาหารอร่อยจากทั่วกรุงเทพ ไปจนถึงอาหารสตรีทฟู้ดจากทั่วทุกภาคมารวมกันที่โกดัง 1 และ 2 และยังมี Big C ห้างค้าปลีกที่ครบครันด้วยสินค้ามากมายมาร่วมสร้างสีสันในพื้นที่ โดยจะรวบรวมขนมและของฝากยอดฮิตสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวมาไว้ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารระดับพรีเมี่ยมมาตรฐานโรงแรมชั้นนำระดับโลก เช่น เรือสิริมหรรณพ และห้องอาหารเดอะคริสตัลล์กริลล์เฮาส์ เพื่อนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้นักชิมได้เลือกสรร ชูจุดเด่นของร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เรียงรายตามแนวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบนพื้นที่ยาวกว่า 300 เมตร ซึ่งเป็นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำที่ยาวที่สุดในกรุงเทพฯ สร้างสุนทรียภาพทางการรับประทานอาหารกับทัศนียภาพของคุ้งน้ำเจ้าพระยาที่งดงาม

LIFESTYLE MARKET: แหล่งไลฟ์สไตล์สุดคูลน่าแฮงค์เอ้าท์แห่งใหม่สำหรับทุกคนในครอบครัวที่พร้อมต้อนรับทุกการพบปะสังสรรค์ ด้วยการร่วมมือกับบริษัท Mad Face และ Made by Legacy จัด “Lifestyle Market” ที่จะเป็น Community ของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง กลุ่มที่ชอบตกแต่งบ้านและสวน และกลุ่มที่ชอบของวินเทจ โดยกิจกรรมสุดสร้างสรรค์จะผันเปลี่ยนไปตามเทศกาลและฤดูกาลต่างๆ ทั้งงานดนตรี ช้อปปิ้ง ศิลปะ สินค้าวินเทจ รวมถึงสุขภาพและอาหารตลอดปี เพื่อให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกเจเนอเรชั่นในที่เดียว

นอกจากนี้ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ยังได้ริเริ่มกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมความยั่งยืน เพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อาทิ การร่วมมือกับบริษัท Miniwiz ติดตั้งเครื่อง Trashpresso ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ โดยเครื่องนี้จะรีไซเคิลขยะพลาสติกให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่คูลๆ มีมูลค่าเพิ่ม และสามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยลูกค้าสามารถมาสนุกและได้ความรู้เรื่องรีไซเคิลไปพร้อมๆ กัน รวมถึงการจัดสรรพื้นที่ที่ Heritage Lounge ในเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น เพื่อให้ชุมชนสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ทำกิจกรรมการสร้างทักษะการเรียนรู้เรื่องศิลปะวัฒนธรรม รวมทั้งภูมิปัญญาของชุมชนต่างๆ ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป

“การสร้างประสบการณ์ All Day Everyday Happiness ของโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ในครั้งนี้ ยังรวมถึงการออกแบบพื้นที่ให้ได้รับอากาศที่ปลอดโปร่งจากแม่น้ำ ควบคู่กับความร่มรื่นในโครงการเสมือนเดินเล่นอยู่ท่ามกลางสวนอันเขียวชอุ่ม รายล้อมด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด (RETAIL-TAINMENT IN THE PARK) เพื่อให้ความสุขของทุกคนในครอบครัวหลอมรวมกันในที่เดียวภายใต้บรรยากาศที่ร่มรื่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา และทำให้เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก” นางวัลลภา กล่าวปิดท้าย