fbpx
Audi Varity logo

Audi 3 รุ่นฮอตดันยอดขายปี 64 โต 30%

รถยนต์ 3 รุ่นฮอตของอาวดี้ ดันยอดขายปี 64 โต 30% พร้อมเดินหน้านำเข้ารถรุ่นใหม่กว่า 10 รุ่นครบทุกเซ็กมเนต์ในราคาที่จับตั้งได้มาทำตลาดในปี 65 ตั้งเป้าโต 15-20%

นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรืออาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2564 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และความท้าทายธุรกิจจากสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนทั่วโลก ภายใต้กลยุทธ์เขย่าพอร์ต การปรับราคาให้จับต้องได้ การเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพรีเมี่ยม การนำยนตรกรรมตระกูล RS เข้ามาสร้างความเร้าใจให้ตลาด คุณภาพมาตรฐานการบริการหลังการขาย และการสนับสนุนของ AUDI AG ส่งผลทำให้ยอดจำหน่ายยนตรกรรมอาวดี้ในทุกเชกเมนต์ ในปี 2564 ที่ผ่านมาเติบโตสวนกระแส All Time High เกินความคาดหมายด้วยยอดขาย 1,308 คัน หรือเติบโตขึ้น 30%

โดยยนตรกรรมพรีเมี่ยมสปอร์ตสมรรถนะสูงตระกูล RS ที่ได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์คาร์ราคาจับต้องได้ สามารถสร้างปรากฎการณ์สะท้อนภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งขึ้นของแบรนด์อาวดี้ในประเทศไทยได้อย่างชัดเจน คือมียอดจำหน่ายคิดเป็นร้อยละ 10 ของยอดจำหน่ายรวม หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ยอดขาย Audi ทุกๆ 10 คัน จะเป็นรถในตระกูล RS 1 คัน

Audi RS5

ขณะที่ยนตรกรรม A5 และ Q3 และยนตรกรรมพรีเมี่ยมสปอร์ต Audi TT Coupe ไอคอนตลอดกาลของอาวดี้ เป็นสามรุ่นฮอตที่ได้รับความนิยมสูงต่อเนื่อง โดยมียอดจำหน่ายในปี 2564 รวมมากกว่า 70% ของยอดขายรวม ส่วนยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าพรีเมี่ยม ซึ่งอาวดี้เป็นผู้นำตลาด “Audi e-tron” ที่นำเข้ามาจำหน่ายทั้ง 3 รุ่นนั้น ก็สามารถทำยอดขายได้อย่างน่าพอใจ ถึงแม้จะประสบปัญหาจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ก็ตาม

ทิศทางและแผนการดำเนินงานปี 2565 บริษัทมีแผนบุกตลาดด้วยเทคโนโลยียนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดจาก AUDI AG ซึ่งจะทยอยนำเข้ามาอีกกว่า 10 รุ่น รวมถึงรถในตระกูล RS เพื่อสร้างสีสัน และเป็นทางเลือกตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ นอกจากนี้ยังมีแผนจะมีการนำเข้ารถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดเข้ามาเสริมทัพ โดยคาดว่าในปีนี้มีรถทุกเซ็กเมนต์ให้ลูกค้าได้เลือกสรรอย่างจุใจ ด้านโชว์รูม และศูนย์บริการมีแผนที่จะขยายการบริการให้คลอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะมีการเปิดดีลเลอร์เพิ่มอีกอีกอย่างน้อย 2 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้และภาคเหนือ

ในส่วนของแคมเปญส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นจุดเด่นในการทำตลาดของอาวดี้ เพื่อให้ลูกค้าได้มีความคุ้มค่าในการพิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อยนตรกรรมอาวดี้ ในแต่ละช่วงจะมีการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ ทั้งลิสซิ่ง ธนาคาร แพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ และอื่นๆ เพื่อจัดแคมเปญพิเศษมาให้ลูกค้าได้เข้าถึงแบรนด์อาวดี้ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ส่วนด้านการบริการหลังการขายซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตของอาวดี้มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง แม้ว่าจะประสบปัญหาโควิด-19 อาวดี้ก็ยังมีการลงทุนต่อเนื่องทั้งในส่วนของโชว์รูม และศูนย์บริการ โดยในปี 2564 ได้เปิด อาวดี้ ราชพฤกษ์ และ อาวดี้ อุดรธานี เพื่อรองรับการเติบโตของประชากรอาวดี้ในประเทศไทย ตลอดจนมีแผนออกเซอร์วิสแคมเปญโดนใจเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ลูกค้าในการขับขี่ จนทำให้ยอดขายอะไหล่ และบริการเติบโตขึ้นกว่า 26% ในปี 2564 เช่นเดียวกัน

“แม้ว่าจะเจอสถานการณ์ความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโอมิครอน ตั้งแต่ต้นปี แต่ก็มั่นใจว่าจากกลยุทธ์ เขย่าพอร์ต ซึ่งมีรถพรีเมียมให้ลูกค้าได้เลือกในราคาไม่ถึง 3 ล้านบาท แผนการรุกตลาดทุกด้าน รวมถึงการปรับแผนการตลาดแบบเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจากหลากหลายช่องทาง และความแข็งแกร่งของแบรนด์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และคุณภาพที่เหนือกว่าของยนตรกรรมอาวดี้ ในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ 6 ของการทำตลาดของอาวดี้ประเทศไทย จะเป็นอีกปีที่อาวดี้สามารถสร้างสถิติ All Time High ได้อีกครั้ง โดยตั้งเป้าเติบโตที่ประมาณ 15-20%” นายกฤษณะกรกล่าว