fbpx
รับสร้างบ้านออนไลน์

ช็อปสร้างบ้านผ่านออนไลน์ยอดทะลุ 520 ล้าน

 

รับสร

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเผย ยอดผู้จองสร้างบ้านผ่านงานรับสร้างบ้าน Online 2021 ทะลุ 520 ล้านบาท ขณะที่คนเข้าชมงานผ่านเว็บกว่า 5 หมื่นราย มั่นใจโควิดคลี่คลายธุรกิจพร้อมเดินหน้าต่อ

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยถึงผลการจัดงานรับสร้างบ้าน Online 2021 ว่า ตลอด 11 วัน ที่ได้จัดงาน (วันที่ 10-20 กันยายน 2564) ถือว่าประสบความสำเร็จทั้งจำนวนคนที่เข้าชมงานและยอดจอง (ยอดขาย) ปลูกสร้างบ้านของประชาชน โดยมีคนเข้าชมงานผ่านเว็บไซต์ www.รับสร้างบ้านออนไลน์.com ประมาณ 57,000 ราย ขณะที่ยอดจองปลูกสร้างบ้านกับบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ รวมกว่า 520 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดขายติดตาม (Follow) อีกไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท

แม้จะเป็นการจัดงานที่ให้ผู้บริโภคสามารถจองปลูกสร้างบ้าน เลือกแบบบ้านได้ในรูปแบบงาน Online Exhibition ครั้งแรกในประเทศไทย แต่จากยอดคนเข้าชมงานและยอดจองสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคให้ความสนใจและมีความต้องการปลูกสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง แม้สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ดังนั้น การปรับตัวหรือการปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมการตลาดและการขายของสมาคมด้วยการจัดงานขายในรูปแบบ Online เข้ามาเสริม จากเดิมที่จัดงานออกบูธหรือเรียกว่าแบบ Offline เพื่อช่วยเหลือบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิก ถือว่าเป็นการแก้โจทย์ธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทำให้สมาคมได้วางแผนที่จะจัดงานขึ้นอีกในครั้งต่อไป เพื่อเป็นการเปิดให้ “ผู้บริโภค” พบกับ “บริษัทรับสร้างบ้าน” ผ่านการจัดงานต่างๆ เพิ่ม

“ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะค่อยๆ คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่างๆ หลังจากยอดผู้ติดเชื้อ และยอดผู้เสียชีวิตค่อยๆ ลดลง ประกอบกับประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้นซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณบวกที่ดีในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและภาคธุรกิจต่างๆ” นายวรวุฒิ กล่าว

แต่อย่างไรก็ตาม นายวรวุฒิ ยังกล่าวแสดงความกังวลถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากปัญหาการประท้วงทางการเมืองและอัตราการว่างงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงและกินเวลานานขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการหยุด-เลิกกิจการ รวมไปถึงการเลย์ออฟพนักงานของภาคธุรกิจต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมาและในอนาคต ขณะที่กลุ่มคนที่เพิ่งจบการศึกษา หรือกลุ่มแรงงานหน้าใหม่ ก็คงใช้เวลาในการหางานทำนานมากขึ้นด้วยเช่นกัน

“ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เชื่อว่ารัฐบาลมองเห็น คงต้องฝากไปยังรัฐบาลเข้ามากำหนดนโยบายหรือหาแนวทางแก้ไข เพราะหากปล่อยไว้ล้วนส่งผลทางลบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจโดยรวม ซึ่งก็รวมถึงภาคธุรกิจของตลาดรับสร้างบ้านด้วยเช่นกัน ดังนั้นเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าและอยู่รอด จึงต้องปรับตัว ส่วนจะปรับในรูปแบบไหน อย่างไรคงขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละบริษัท” นายวรวุฒิ