พีดีเฮ้าส์ ปรับกลยุทธ์รับมือตลาดรับสร้างบ้านแข่งตัดราคาเดือด เน้นสร้างความแตกต่างคุณภาพ-บริการ ขยายรับงานอินทีเรีย-แลนด์สเคป บริการครบวงจร ดันยอดขาย 9 เดือนแตะ 800 ล้าน พร้อมเดินหน้าชิงตลาดโค้งสุดท้าย ลุยเปิดสาขา-แบบบ้านใหม่ ประหยัดพลังงาน รักษ์สิ่งแวดล้อม
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ผู้บริโภคที่เคยวางแผนจะสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนใหญ่เลือกที่ชะลอการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านออกไปก่อน เพราะมีความกังวลว่าเศรษฐกิจประเทศจะฟื้นตัวได้ช้า แต่ยังมีผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งที่ความจำเป็นต้องมีบ้านหลังใหม่ เพื่อใช้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและสถานที่ทำงาน หรือ Work from home หรือเป็นเซฟโซนในการใช้ชีวิตแบบ New Normal
พฤติกรรมของผู้คนในสังคมเปลี่ยนไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมากพอ จะมีความต้องการสร้างบ้านหลังที่สองในต่างจังหวัดทำให้ตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดขยายตัว ขณะที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการแข่งขันสูงจากผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ ต่างกระหน่ำโปรโมชั่น ลด แจก แถม กันดุเดือด ตัวอย่างเช่น ลดราคาสูงสุด 15-33% หรือต่อเติมฟรีมูลค่าสูงสุด 2 ล้านบาท ฯลฯ
“พีดีเฮ้าส์ เองก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบและการแข่งขันที่รุนแรงที่เกิดขึ้นได้ สังเกตได้จากจำนวนผู้บริโภคที่สนใจสร้างบ้านติดต่อเข้ามาลดลงถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาสก่อน ดังนั้นจึงต้องหันมาปรับกลยุทธ์การขายและการตลาด โดยมุ่งเน้นสื่อสารถึงความแตกต่างและมาตรฐานด้านการให้บริการก่อน-หลังการขาย กระบวนการก่อสร้าง คุณภาพผลงานเมื่อสร้างแล้วเสร็จ และทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มการให้บริการออกแบบ-ตกแต่งภายในและจัดสวนแบบครบวงจร” นายพิศาลกล่าว
จากการปรับกลยุทธ์แข่งขันส่งผลให้สามารถทำยอดขายบ้านในไตรมาส 3 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 210 ล้านบาท เติบโตสวนทางกับตลาดที่ซบเซาและทำให้ยอดขาย 9 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่ารวมทุกสาขาเกือบ 800 ล้านบาท โดยลูกค้าที่ใช้บริการสร้างบ้านจำแนกออกเป็นกลุ่มราคาบ้าน 2-3 ล้านบาท ประมาณ 18% กลุ่มราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท ประมาณ 38% กลุ่มราคา 5-10 ล้านบาท ประมาณ 36% และกลุ่มราคาบ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไป ประมาณ 8%
ด้านนางสาวถิรพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิ์และมาตรฐานธุรกิจรับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้าน 9 เดือนแรกที่ชะลอตัว ทำให้บริษัทต้องหันมาปรับกลยุทธ์การขายและการตลาดเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน
ทั้งการปรับวิธีการสื่อสารกับลูกค้าที่เน้นสร้างความรู้ความเข้าใจต่อผลิตภัณฑ์และบริการ เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย-ข้อแตกต่าง พร้อมให้คำปรึกษาในรายละเอียดการก่อสร้างที่คนอยากสร้างบ้านต้องรู้ เพื่อให้ลูกค้าคลายความกังวลใจและป้องกันการเกิดข้อขัดแย้งหรือความเข้าใจผิดในอนาคต โดยไม่เลือกใช้วิธีตั้งราคาสูงแล้วหั่นราคาหรือลดราคาเกินจริง หรือกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจด้วยราคา ไม่ใช่ที่ตัวผลิตภัณฑ์และบริการอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน พีดีเฮ้าส์ก็คงต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ตามแผนปลุกกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ พร้อมกันนี้ได้เตรียมเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นการขยายสาขาในพื้นที่เมืองรองเพื่อสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด รองรับความต้องการของลูกค้าในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง และเตรียมเปิดตัวแบบบ้านใหม่อีก 1 ซีรีส์ จำนวน 4 แบบ ระดับราคา 5-8 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีความแตกต่างจากบริษัทรับสร้างบ้านรายอื่น
