fbpx
Lio Bliss 1 scaled

ส่องทำเลโซนตะวันตก โครงข่ายคมนาคมปลุก real demand ลลิล ส่ง 2 โครงการใหม่รองรับ

ส่องทำเลกรุงเทพฯตะวันตก สาธารณูปโภคโครงข่ายคมนาคม ถนน ทางด่วน รถไฟฟ้า ปลุก real demand ในพื้นที่ต่อเนื่อง ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ส่ง 2 โครงการใหม่ มูลค่า 1,500 ล้าน ลุยตลาดไตรมาส 3 

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ‘ทำเล’ ยังเป็นปัจจัยหลักที่ลูกค้าให้ความสำคัญ สำหรับพื้นที่โซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกถือเป็นทำเลที่มีโครงการสาธารณูปโภครองรับอย่างสมบูรณ์ เรียกได้ว่าตัดสินใจซื้อวันนี้ก็ได้รับความเจริญวันนี้แบบไม่ต้องรอ คือสาเหตุที่เราจะเห็น growth ของ demand ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ โดยทำเลดังกล่าวใกล้กับเส้นทาง รถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ และใกล้กับทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ทำให้การเดินทางคมนาคมสามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

รวมทั้งมีการพัฒนาศูนย์การค้าขนาดใหญ่เพื่อรองรับความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ที่สำคัญยังเป็นเส้นทางโลจิสติกส์ที่พร้อมจะกระจายความเจริญเชื่อมต่อกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายของเมียนมาอีกด้วย ปัจจัยเหล่านี้เองจึงเอื้อต่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถเอื้อต่อการตอบโจทย์ทุกวัตถุประสงค์ของการอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ พื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯยังเป็นพื้นที่ที่รวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านการคมนาคมและขนส่งขนาดใหญ่ที่กล่าวได้ว่าจะเข้ามาพลิกโฉมพื้นที่โดยรอบให้เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดด โดยในอนาคตกำลังจะมีเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่เกิดขึ้นตามมาอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม-ชะอำ, โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก, โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันตก เริ่มที่ถนนพระรามที่ 2 เชื่อมกับมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี ถึงถนนสายเอเชีย บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา

โครงการถนนต่อเชื่อมถนนนครอินทร์-ทางหลวงชนบท สาย นฐ.3004 (ศาลายา), โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4, โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งงานโยธาแล้วเสร็จ 100% รอเปิดให้บริการพร้อมๆ กับสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และสถานีกลางบางซื่อ ประมาณต้นปี 2564, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์, โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน เป็นต้น ซึ่งจาก landscape การพัฒนาดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทำเลย่านนี้จะเติบโตขึ้นอีกมากเท่าไรในช่วงเวลาอันสั้นนี้

ด้วยพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์ด้านสาธารณูปโภค ทำให้ในช่วงต้นไตรมาส 3 บริษัทเตรียมเปิดโครงการทาวน์โฮม 2 โครงการใหม่ในทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก เพื่อรองรับกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยข้อเสนอใหม่ผ่านแนวคิดการพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการแบบ real time และ real needs ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วจากยอดขายของโครงการภายใต้แนวคิดดังกล่าวที่บริษัทได้นำเสนอสู่ตลาดในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ สามารถสร้างกระแสตอบรับแบบดีเกินคาด

“การค้นพบความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าและนำความต้องการดังกล่าวมาพัฒนาให้เกิดขึ้นจริง คือสิ่งที่ทำให้กลุ่มลูกค้า real demand ตัดสินใจเลือกบ้านของลลิล พร็อพเพอร์ตี้ และเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่เรากำลังสร้างคือสิ่งที่ลูกค้าเล็งเห็นถึงคุณค่าอย่างแท้จริง” นายชูรัชฏ์กล่าว

ขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง สําหรับที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโซนนี้ คือทาวน์โฮม ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จึงได้พัฒนาทาวน์โฮม 2 โครงการใหม่มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท ได้แก่

  • โครงการ ไลโอ บลิสซ์ วงแหวน-ปิ่นเกล้า (พระราม5) มูลค่า 600 ล้านบาท จำนวน 283 ยูนิต เป็นโครงการทาวน์โฮม พร้อมคลับเฮ้าส์และสวนที่ร่มรื่น ราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท
  • โครงการไลโอ บลิสซ์ รัตนาธิเบศร์-บางใหญ่ มูลค่า 900 ล้านบาท จำนวน 457 ยูนิต ทาวน์โฮมท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของสวนขนาดใหญ่ พร้อมคลับเฮาส์ ใกล้เซ็นทรัลเวสต์เกต ทางด่วน ศรีรัช วงแหวนฯ-จตุจักร-พระราม 9 และรถไฟฟ้า ราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท

ทั้ง 2 โครงการพัฒนาภายใต้แนวคิด “บ้าน” คือคำตอบของทุก “ความสุข” ทั้งยังผสมผสานนวัตกรรมและที่อยู่อาศัยให้ตอบรับทุกความต้องการของชีวิตคนเมืองขยายพื้นที่ความสุขให้ “กว้าง” ยิ่งขึ้น บนพื้นที่ 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ Master Bedroom ขนาดใหญ่ พักผ่อนไปกับพื้นที่สีเขียวด้วยสวนธรรมชาติบำบัด(Naturopathy) ตอบโจทย์ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ให้การเชื่อมต่อทุกการเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย สะดวกสบายท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว

พร้อมด้วยจุดขายบ้านฟังก์ชันใหม่สไตล์ New Normal ภายใต้คอนเซปต์ ‘Smart Living-Flexible’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปนิกชื่อดังชาวฝรั่งเศส เลอ กอร์บูซีเย (Le Corbusier) กับ แนวคิด Modern Geometry ที่เน้น “ฟังก์ชันหรือการใช้งาน” เป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบบ้านให้สามารถใช้สอยพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างแท้จริง และ Le Modular หรือหลักความสอดคล้องของสัดส่วนมนุษย์ (Human Scale)ในการจัดสรรพื้นที่ให้เพียงพอ และเหมาะสมกับการใช้ชีวิต

“ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันคนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสัดส่วนพื้นที่การใช้สอยของตัวบ้านมากขึ้น เพื่อรองรับการ Work From home ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) หรือแม้กระทั่งการทำธุรกิจออนไลน์ ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญในเรื่องของความคุ้มค่า เราจึงออกแบบบ้านให้เป็น flexible function โดยสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยให้ยืดหยุ่นและหลากหลายตามความต้องการ เช่น ทาวน์โฮม 4 ห้องนอน สามารถปรับฟังก์ชันห้องด้านล่าง ให้มาเป็นห้องเอนกประสงค์ สามารถใช้ในการ Work From home แบบส่วนตัว เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในสังคมปัจจุบันได้อย่างอิสระ” นายชูรัชฏ์กล่าวปิดท้าย