การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอยู่ในภูเก็ต จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับ 4-5 ล้านบาท เมื่อ 20 ปีก่อนสู่การพัฒนาวิลล่าระดับลักชัวรี่ราคาเริ่มต้น 150 ล้านบาท พร้อมกับแนวคิดที่จะผลักดันอ่าวมะขามสู่การเป็น “Monaco of Asia” ภายใน 10 ปี
การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า อาจจะเป็นบริษัทอสังหาฯเล็กๆ ที่ทำมาหากินอยู่ในภูเก็ต แต่เจ้าของและผู้ถือหุ้นล้วนมีประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะกับตลาดวิลล่าที่กำลังบูมแบบสุดๆ ในภูเก็ต “ต่อศักดิ์ ใจชื่น” ซีอีโอ บริษัท การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า จำกัด เล่าให้ฟังว่า ตัวเขากับผู้ถือหุ้นเป็นสถาปนิกที่ออกแบบโครงการในภูเก็ตมาแล้วมากมาย จากจุดเริ่มต้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่ได้เข้าไปร่วมงานกับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มามากมายหลายโครงการในหลายบทบาทเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่มองเห็นโอกาสที่จะลงทุนพัฒนาโครงการเองภายใต้ชื่อ Garden Atlas Luxury Collection ขายในราคาเริ่มต้น 1 ล้านเหรียญ ในช่วงโควิด-19 และขายหมด(มี 2 เฟส รวม 20 หลัง) ภายใน 3 เดือน หลังสร้างบ้านตัวอย่างเสร็จ

กลยุทธ์สำคัญที่นำมาใช้ในการพัฒนาโครงการคือ “Customer Centric” สร้างบ้านกึ่งๆ Tailor-made ตามความต้องการของลูกค้า โดยการนำไอเดีย ข้อเสนอแนะของลูกค้ากลุ่มมาพัฒนาโปรดักส์ เพราะต้องไม่ลืมว่าลูกค้าระดับนี้มีบ้านมาเป็นสิบหลังทั่วโลก มีประสบการณ์ และความชาญฉลาดในเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทได้นำข้อแนะนำ และไอเดียต่างๆ ของลูกค้ามาต่อยอดพัฒนาเป็นโครงการล่าสุด Garden Atlas Bayview ที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา จังหวัดภูเก็ตด้วยการ นำเสนอวิลล่าในราคาเฉลี่ย 150 ล้านบาท แต่เทียบเท่ากับโครงการอื่นในราคา 400 ล้านบาท โดยใช้ประสบการณ์ด้าน Value Engineer และ Finance Architecture มาใช้ในการพัฒนาโครงการ
โครงการ Garden Atlas Bayview มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 16 ไร่ พัฒนาเป็นวิลล่าสไตล์ Modern Bali Contemporary ที่มีความสวยงามร่วมสมัยเหนือกาลเวลา (Timeless) มีจำนวนเพียง 15 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและภายนอกรวมประมาณ 1,585 ตารางเมตร โดยออกแบบให้มีฟังก์ชั่นแบบบ้านขนาดใหญ่ 6 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 3 สเปซพักผ่อน 3 ที่จอดรถ 2 สระว่ายน้ำ พร้อมพูลเดย์เบดแบบฮันนีมูนซีท 6 ชุดอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 6×15 เมตร และมีพื้นที่พิเศษสวนลอยฟ้าพร้อมศาลา และยังเลือกใช้วัสดุโทนสีชนิดดูแลง่าย Low Maintenance เพื่อการอยู่อาศัยแบบ Well being ใช้วัสดุเกรด Hi-end ทั้งหลัง
Garden Atlas Bayview เน้นสร้างประสบการณ์การพักอาศัยที่แตกต่าง ทั้งการพักอาศัยระยะสั้น ระยะยาวหรือช่วงวันพิเศษ ให้ผู้พักอาศัยได้ใช้พื้นที่เฉลิมฉลองแบบครบทุกฟังก์ชั่น มีการวางระบบเสียงไว้ทั้งบนพื้นที่ส่วนกลางของบ้านทั้งหลังเพื่อทุกกิจกรรม พร้อมด้วยเทคโนโลยี Home Automation อำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลางโครงการครบ ทั้งคลับเฮ้าส์หรูที่เหนือกว่ามาตรฐาน ฟิตเนสแบบ Full Function มี Paddle tennis พื้นที่ร้านอาหารและคาเฟ่ สำหรับต้อนรับแขกของลูกบ้าน สามารถจอดรถกว่า 30 คัน พร้อมพื้นที่จัดงานกิจกรรมที่รองรับผู้เข้าร่วมงานได้มากถึง 150 คน




สำหรับตลาดวิลล่าในภูเก็ต ซึ่งถือเป็น World Class Destination มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า ตลาดที่พักอาศัยตากอากาศประเภทวิลล่ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าปี 2567 มียอดขายเพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนหน้า ซึ่งต้องถือว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา หากพิจารณาโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ที่มีมูลค่ามากกว่าหลังละ 90 ล้านขึ้นไป ซัพพลายในตลาดมีเพียง 6.89% ซึ่งมียอดขายแล้วกว่า 76% โดยทำเลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคือทำเลชายฝั่งตะวันออก (ทิศใต้) สามารถทำยอดขายได้สูงที่สุดถึง 92.8%
“เหตุผลที่ทำเลนี้ได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับตลาดลักชัวรี่นี้คือ ทัศนียภาพอันงดงามของวิวทะเล ที่เรียงรายด้วยเกาะแก่งต่างๆ ทำให้วิวที่อยู่เบื้องหน้างดงาม อีกทั้งยังเห็นเรือสำราญจอดเทียบท่า จึงทำให้ภาพทิวทัศน์เปลี่ยนไปทุกวัน ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลศักยภาพ ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนและผู้ซื้อระดับบนจากทั่วโลกที่ต้องการไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ พร้อมการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ให้เข้ามาจับจองวิลล่าหรู” นางสาวประกายเพชรกล่าว

ขณะที่นายต่อศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่บริษัทเลือกพัฒนาโครงการ Garden Atlas Bayview ในทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา เพราะเป็นทำเลศักยภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต บริเวณแห่งนี้มีทัศนียภาพที่เหมือนกับเมืองชายฝั่งสำคัญของโลกอย่างโมนาโกที่มีพื้นที่เพียง 2.02 ตารางกิโลเมตร เล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส และมีพื้นที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่หรูหราและมั่งคั่ง จึงเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองมหาเศรษฐีที่มีชีวิตความเป็นอยู่หรูหรา ทำให้คาดว่าไม่เกิน 10 ปีอ่าวมะขาม แหลมพันวาจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับโมนาโก
เนื่องจากในปัจจุบันโมนาโกมีข้อจำกัดไม่สามารถพัฒนาโครงการใหม่ได้และราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงมากขึ้น ราคาคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 52,000-130,000 ยูโรต่อตารางเมตร หากเปรียบด้านราคาอสังหาฯ บนพื้นที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา ถือว่าแพงกว่าหลายเท่าตัว ซึ่งปัจจุบันราคาอสังหาฯ ในพื้นที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา ยังเป็นราคาที่จับต้องได้และเป็นราคาที่คุ้มค่า แต่มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพของพื้นที่ที่จะถูกพัฒนาให้เจริญมากขึ้น
“จากประสบการณ์ในการพัฒนาบ้านพักอาศัยมากว่า 20 ปี มองเห็นศักยภาพของทำเลดังกล่าวซึ่งจะพัฒนาและเติบโตเป็นจุดหมายปลายทางของ Maritime Luxury Living พื้นที่การอยู่อาศัยระดับบนและไลฟ์สไตล์แบบเมืองชายฝั่ง เพราะมองเห็นวิวทะเลบนเนินเขา (Hilltop) เห็นวิวได้แบบพาโนรามา ได้ถึง 3 อ่าว และมีท่าจอดเรือ ถือว่าเป็น Rare Coastal Location ซึ่งอยู่ในฝั่งทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต แหลมพันวา จะกลายเป็น Monaco of Asia เมืองชายทะเลชั้นนำระดับนานาชาติที่ผู้ซื้อไม่ได้เป็นเจ้าของเพียงบ้านแต่คือผู้มีไลฟ์สไตล์ระดับโลก การซื้ออสังหาฯ ในทำเลนี้จึงถือว่าได้ราคาที่คุ้มค่า และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วย” ซีอีโอ บริษัท การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่ากล่าว

นอกจากนี้ ทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา ยังมีความโดดเด่นเหนือกว่าที่ใดๆ ในเกาะภูเก็ต คือ 1.True Coastal Privacy เป็นพื้นที่ชายฝั่งสงบ หายาก และไม่ถูกรบกวน 2.Maritime-Ready Location สภาพอ่าวเป็นพื้นที่ทะเลมีน้ำลึกและสันอ่าวนิ่ง จึงเหมาะสมสำหรับการการจอดเรือยอร์ชและการเดินเรือสากล 3.Seamless Yachting Access ใกล้ท่าเรือระดับนานาชาติ และบริการ Ocean Leisure ครบวงจร 4.Scarcity Drives Value ทำเลติดอ่าวที่มีจำนวนจำกัด คือ สินทรัพย์ที่มูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา และ 5.Prestigious อ่าวเดียวในภูเก็ตที่การเดินทางไม่ได้จำกัดเพียงทางรถ แต่ยังสามารถเดินทางด้วยเรือ
ที่สำคัญในอนาคตจะสามารถเดินทางได้ด้วยเครื่องบินสำหรับการเดินทางทางน้ำ หรือ Seaplane ที่ทำให้การเดินทางสู่จุดหมายการท่องเที่ยวเป็นไปได้อย่างง่ายดายและไม่เหมือนใคร ซึ่งภาครัฐและเอกชนกำลังผลักดันการพัฒนาเทอร์มินัลซีเพลนที่ภูเก็ต เพื่อเชื่อมรีสอร์ตเดสติเนชันทั้งสมุย พัทยา และหัวหิน เข้าด้วยกัน ช่วยลดเวลาเดินทางข้ามอ่าวไทยและอันดามัน ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ EIA และผลักดันเชิงนโยบาย

ขณะที่ จังหวัดภูเก็ตยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างไม่หยุดยั้ง อาทิ การจัดทำโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 โครงการทางพิเศษกะทู้–ป่าตอง การพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าเบา (MRTA) 42 กม. อยู่ในแผนแม่บทของการรถไฟฟ้าฯ เพื่อเชื่อมสนามบิน–เมือง–ฉลอง ลดภาระถนนสายหลัก โครงการท่าอากาศยานน้ำ หรือ Seaplane Terminal ล่าสุด มีแผนการเปิดเทอร์มินัลใหม่ของท่าเรือน้ำลึกอ่าวมะขาม (Cruise Terminal) เพื่อรองรับเรือสำราญลำใหญ่ เทียบท่าได้โดยไม่ต้อง Tender ช่วยยกระดับภูเก็ตเป็น “Gateway Port” ของอันดามันและอาเซียน ทำให้การเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตมีสะดวกสบายครบถ้วนรอบด้านทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ
ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นระบบคมนาคมทั้งทางอากาศ ถนนและทางน้ำ การมีโรงพยาบาลชั้นนำมาตรฐาน JCI เวลเนสเซ็นเตอร์ระดับท็อป โรงเรียนนานาชาติ 16 แห่ง สนามกอล์ฟมาตรฐานทัวร์นาเมนต์ ร้านอาหารระดับมิชิลินสตาร์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของกลุ่ม Ultra Rich แต่จ่ายเงินที่คุ้มค่ากว่าการอยู่อาศัยในเมืองที่เป็น Maritime หรือไลฟ์สไตล์ในวัฒนธรรมเมืองแห่งสายน้ำอื่นมี 3 แห่งในโลกที่เป็นตัวอย่างในการพัฒนา คือ 1. โมนาโก 2. ฮ่องกง และ 3. สิงคโปร์

“จากจุดเริ่มต้นในการพัฒนาโครงการ Garden Atlas Bayview เชื่อว่าจะมีส่วนผลักดันให้พื้นที่บริเวณอ่าวมะขาม แหลมพันวา กลายเป็น Monaco of Asia เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่คือผู้สร้างทิศทางการตลาดใหม่ในระดับโลก หรือผู้นำเทรนด์ (Trendsetter) ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาออกแบบโครงการเท่านั้น ประสบการณ์ที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาวิลล่าระดับราคา 1 ล้านดอลล่าร์ที่เป็น Villa Inland เป็นคนแรกๆ หลังจากนั้นมีดีเวลลอปเปอร์หันมาพัฒนาโครงการลักษณะดังกล่าวตามเป็นจำนวนมาก เราจึงต้อง Beyond ตัวเองเข้ามาพัฒนาพื้นที่ใหม่โดยศักยภาพของพื้นที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา และจังหวัดภูเก็ต จะโฟกัสกลุ่ม Ultra Rich หรือผู้มีสินทรัพย์ระดับพันล้านดอลล่าร์เลือกมาพักอาศัยที่นี่” นายต่อศักดิ์กล่าว
นายต่อศักดิ์ ยังเปิดเผยถึงการพัฒนาโครงการอีกว่า บริษัทยังได้นำแนวคิดในการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ คือ “Life Curated” มาใช้ในการพัฒนาโครงการ Garden Atlas Bayview ถือแนวคิดใหม่ของการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ เพราะผู้เป็นเจ้าของจะสามารถออกแบบชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองได้ตามความต้องการ ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าของโครงการที่เป็นเจ้าของธุรกิจทั้งในประเทศไทย รวมถึงกลุ่มนักลงทุนผู้มั่งคั่งทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม Hybrid Billionaire ผู้มีวิสัยทัศน์สามารถมองเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของวิลล่าในโครงการ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการให้เช่ากับกลุ่มลูกค้าระดับบนได้คืนละ 1,650-4,200 ดอลล่าร์ และยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตามกาลเวลาเมื่อถือครองต่อไปในอนาคต เป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าสูง

“โครงการ Garden Atlas Bayview คือ ภาพสะท้อนของวิสัยทัศน์ผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ระดับบน ผู้ที่ไม่เคยเป็นผู้ตามแต่คือผู้สร้างกระแส Trendsetter ที่พร้อมจะสร้างสรรค์ความแปลกใหม่และแตกต่างด้วยมาตรฐาน คุณค่าและรสนิยมอย่างแท้จริง ซึ่งแผนต่อไปบริษัทวางเป้าหมายผลักดันแบรนด์ Garden Atlas สู่การเป็น Residences Brand ระดับโลก เจาะตลาดบ้านหรูมูลค่า 5 ล้านดอลล่าร์ ด้วยกลยุทธ์ Customer Centric รวมถึงการบริการหลังการขายที่ครบวงจร
ในฐานะนักพัฒนาจะต้องเป็นผู้เริ่ม (Start) ในที่ที่ไม่มีใครกล้าไป และเป็นผู้สร้างกระแส (Trendsetter) ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ด้วยการสร้างความแปลกใหม่ด้วยมาตรฐาน คุณค่า และรสนิยมอย่างแท้จริง การทำโครงการที่มุ่งเน้นคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดลักชัวรีของภูเก็ต เพื่อให้ภูเก็ตสามารถแข่งขันกับเมืองชั้นนำด้าน Maritime Luxury Living ทั่วโลกได้” นายต่อศักดิ์ กล่าว






