ดิ ไอโคนิค พรอพเพอร์ตี้ ชูแนวคิด Community Centric Development (CCD) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยใช้คอมมูนิตี้ของผู้คนเป็นศูนย์กลาง สร้างเอกลักษณ์แบรนด์ SOL MIDTOWN Phetkasem 48 พรีเมี่ยมทาวน์โฮมของคนรุ่นใหม่ วางกลยุทธ์ทำเลทอง เชื่อมต่อจากนอกเมืองสู่ Urban Community พร้อมผนึกความร่วมมือ LPP ดูแล Sole Agent ด้วยบริการครบวงจร
นายพริษฐ์ ทีฆคีรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ ไอโคนิค พรอพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 10 ปี ทั้งธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ และโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกทม.-ปริมณฑล โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรมปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมที่เปิดดำเนินการภายใต้แบรนด์ ดิ ไอโคนิค จำนวน 9 แห่ง ประมาณ 1,000 ห้อง เน้นในทำเลที่เป็นฮับของการเดินทาง โดยในปีนี้มีแผนที่จะเปิดโรงแรมใหม่อีก 2 แห่งที่ สุขุมวิท 11 และที่พญาไท ที่จะมีทั้งโรงแรมและโรงพยาบาลเฉพาะทาง โดยปัจจุบันธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนรายได้กว่า 50% ของรายได้รวมของบริษัท
สำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบริษัทได้พัฒนามาแล้ว 5 โครงการ โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดโครงการใหม่ โซล มิดทาวน์ (SOL MIDTOWN) เพชรเกษม-สาทร เป็น Modern Townhome และ Twin Home ระดับ Luxury ทั้ง 3 และ 4 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จำนวน 49 หลัง บนที่ดิน 27.44-44 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 222-275 ตารางเมตร และพื้นที่หน้าบ้านกว้างถึง 10 เมตร สามารถรองรับการจอดรถสูงสุด 4 คัน ตั้งอยู่บนเพชรเกษมซอย 48 เนื้อที่โครงการ 6 ไร่เศษ ประกอบด้วย ทาวน์โฮม 38 หลัง และวิลล่า ทวินโฮม 11 หลัง ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท มูลค่ารวม 624 ล้านบาท
บริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Community Centric Development (CCD) หรือ คุณภาพชีวิตดีเริ่มต้นที่ “ทำเล-ดีไซน์บ้าน-ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้” ซึ่งทั้ง 3 ส่วนหลักนี้จะเป็นหัวใจของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และผลตอบรับของยอดขายสำหรับโครงการ “โซล มิดทาวน์ (SOL MIDTOWN) เพชรเกษม-สาทร
“ด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 10 ปี ทำให้มองเห็นโอกาสของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเลือกทำเลเพชรเกษมซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพรองรับการขยายตัวของเมือง พร้อมทั้งมีการเดินทางสะดวกเชื่อมโยงเข้าสู่ใจกลางเมืองจึงตัดสินใจเลือกทำเลนี้เปิดตัวโครงการนำร่อง” นายพริษฐ์ กล่าว
“ทำเล-ดีไซน์บ้าน-ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้” จุดพลุดีมานด์
กลยุทธ์การเลือกทำเลเพชรเกษมนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า เนื่องจากเพชรเกษม กำลังจะเป็นคอมมูนิตี้ใหม่ของคนเมือง โดยฝั่งหนึ่งเป็นสาทร อีกฝั่งคือโซนของโครงการบ้านจำนวนมาก (Residential Area) อย่างราชพฤกษ์ อีกทั้งเพชรเกษมยังเป็นทำเลที่เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ไปสู่คอมมูนิตี้โดยรอบได้ดี ทั้งตั้งอยู่ใกล้กับสถานี BTS และ MRT เพชรเกษม 48, ห้างสรรพสินค้าซีคอน บางแค, ศูนย์การค้า The Circle ราชพฤกษ์, โรงพยาบาลพญาไท 3, โรงเรียน SISB ฯลฯ นอกจากนี้ จากที่ตั้งโครงการยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อด้วยเวลาเพียง 2 นาที ถึงสถานีรถไฟ BTS และ MRT เพชรเกษม 48 และเชื่อมต่อระหว่างถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก และถนนราชพฤกษ์ เดินทางเข้า-ออกเมืองไป สีลม-สาทรได้ง่าย ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที
จุดเด่นของโครงการในด้าน “ดีไซน์” นั้น โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ REAL RADIANT URBAN LIVING” เพื่อสะท้อน “สไตล์ที่เหนือกว่า ในมุมมองที่แตกต่าง” โดยเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแบบ Modern Townhome และ Twin Home ระดับ Luxury ทั้ง 3 และ 4 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ บนที่ดิน 27.44-44 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 222-275 ตารางเมตร และพื้นที่หน้าบ้านกว้างถึง 10 เมตร สามารถรองรับการจอดรถสูงสุด 4 คัน
ขณะที่อีกไฮไลต์ของโครงการก็คือ ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ (Lifestyle Community) โดยการตอกย้ำและสร้างแบรนด์กับกลุ่มกำลังซื้อคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองที่มีความต้องการบ้านแนวคิดใหม่ พร้อมทั้งมีพื้นที่สำหรับเป็นบ้านพักอาศัย แต่ก็สามารถปรับฟังก์ชั่นให้เป็นพื้นที่ทำงาน และพบปะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเชื่อมต่อของ Work Life Family ที่ลงตัว
“เทรนด์ของคนรุ่นใหม่มีความเป็น Hybrid Lifestyle ที่ค่อนข้างมาก เพราะต้องการบาลานซ์การใช้ชีวิตควบคู่ไปกับการทำงาน ซึ่งถ้ากำลังมองหาฟังก์ชั่นของบ้านที่สามารถปรับ Space เป็นโฮมออฟฟิศได้ด้วยนั้น SOL MIDTOWN ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นสุดหรู 4 ชั้น ท่ามกลางสังคมส่วนตัวระดับ Exclusive พร้อมที่จอดรถจำนวนมาก จะช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ไลฟ์สไตล์แบบไฮบริด ได้อย่างลงตัวและ Flow ทุกการใช้ชีวิต โดยมีจำนวนพิเศษเพียง 49 ยูนิตเท่านั้น ราคาขายเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท” นายพริษฐ์ กล่าว
สำหรับ โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร มีมูลค่าโครงการ 624 ล้านบาท คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งได้ “บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด” หรือ LPP รับหน้าที่เป็น Sole Agent มาร่วมกันทำงานเพื่อผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
“บริษัท มีความเชื่อมั่นว่าจะสร้างการเติบโตในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยของภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปี 2567 มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และมีสัญญาณฟื้นตัวของกำลังซื้อที่เป็นเรียลดีมานด์ ตลอดจนทำเลเพชรเกษม-สาทร และระดับราคาของโซลมิดทาวน์ที่เปิดตัวไปแล้ว ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากกลุ่มอยู่เอง และกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน” นายพริษฐ์ กล่าว
ดึง LPP บริหารการขาย หนุนความสำเร็จโครงการ
ด้านนางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า SOL MIDTOWN ถือเป็นโครงการแรกที่ LPP ได้เข้ามาประเดิมงาน Sole Agent อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่ได้สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการงานขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 30 ปี โดยก่อนที่จะตัดสินใจรับหน้าที่ในการเป็น Sole Agent ให้กับโครงการ SOL MIDTOWN เพชรเกษม – สาทร LPP ได้วิเคราะห์และศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และความต้องการของตลาดที่อยู่อาศัย ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ค่อนข้างชะลอตัวและส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ต้องเผชิญกับหลายๆ ปัจจัย ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน การเข้มงวดของสถาบันการเงินในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และภาระหนี้เสียต่างๆ
การพัฒนาโครงการตลาดบ้านหรูในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อในปัจจุบัน โดยจุดเด่นของโครงการ SOL MIDTOWN คือเป็นโครงการที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านทำเลที่ตั้งโครงการที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก มีการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานและยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังชั่นได้ตามความต้องการ ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยเองหรือลงทุน
“การรับหน้าที่ดูแลงาน Sole Agent ให้โครงการ SOL MIDTOWN เพชรเกษม – สาทร ในครั้งนี้ LPP ได้วางกลยุทธ์เพื่อดูแลบริหารงานขายและการตลาดอย่างครบวงจร พร้อมเป็นที่ปรึกษาและในการพัฒนาโครงการให้ตรงตามความต้องการทั้งเจ้าของโครงการและกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการดูแลจากทีมงานขายมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ในด้านการตลาดได้วางกลยุทธ์การใช้สื่อโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งกิจกรรมทางการตลาด Online และ Offline ผ่านสื่อต่างๆ พร้อมกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขายเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และด้วยศักยภาพโครงการตามที่กล่าวมาจึงเชื่อว่าโครงการ SOL MIDTOWN จะประสบความสำเร็จ” นางสาวสมศรีกล่าว