ทีคิวเอ็ม เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2565 โดยรายได้ 875 ล้านบาท เติบโต 5.7% และมีกำไร 211 ล้านบาท จากประกันรถยนต์ ขณะที่ประกันลูกค้าองค์กรและประกันสุขภาพมีอนาคตสดใส มั่นใจเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวส่งผลให้ประกันการเดินทางได้รับผลตอบรับดี พร้อมเดินหน้าธุรกิจใหม่ มั่นใจจะสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายเบี้ยประกันใน ปี’ 65 ที่ 29,000 ล้านบาท
ดร.อัญชลิน พรรรณนิภา ประธานกรรมการ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทมีรายได้ค่าบริการอยู่ที่ 875.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 5.7% ทั้งนี้ ยอดขายเบี้ยประกันภัยรถยนต์ยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัท ขณะที่รายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรและช่องทางขายผ่านสาขาของ TQM ยังเป็นแรงบวกที่ดีทำให้ยอดขายเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ในขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิรวมจากผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2565 เท่ากับ 211.1 ล้านบาท เติบโต 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ไม่มีประกันโควิด แต่ผู้บริโภคกลับหันมาให้ความสำคัญในการเลือกซื้อประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลมากขึ้น
ด้านดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ในไตรมาส 1/2565 บริษัทมียอดขายเติบโตตามเป้าจากผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ในขณะที่การเปิดประเทศทำให้ท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยที่เริ่มออกท่องเที่ยวกันมากขึ้นหลังจากไม่ได้ท่องเที่ยวกันมานาน ทำให้ประกันการเดินทางได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนประกันสุขภาพในไตรมาสนี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ระบาดของไวรัส โควิด-19
ขณะเดียวผู้บริโภคก็ให้ความสำคัญกับการประกันบ้านมากขึ้นทำให้ยอดขายในส่วนของประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยก็มีการขยายตัวเช่นเดียวกัน
สำหรับธุรกิจใหม่ บริษัท ทรู ไลฟ์ โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัท ทรู เอ็กซ์ตร้า โบรกเกอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิตแบบกลุ่ม มีการเติบโตที่ดีตามธุรกิจโดยรวม นอกจากนี้ ธุรกิจอีซี่ เลนดิ้ง ที่ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่เพิ่งเริ่มในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา มีการเติบโตที่ดีเช่นกัน ได้รับความสนใจและสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของการเข้าซื้อหุ้น บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR เพื่อขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจนายหน้ารับประกันภัยต่อนั้น ยังเป็นไปตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ โดยในวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติเป็นที่เรียบร้อยและเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 44.35 ของ TQR หลังการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นผลดีกับ TQM ให้สามารถขยายธุรกิจ เพิ่มศักยภาพในการเติบโต และเป็นธุรกิจที่สนับสนุนระหว่างกัน ทั้ง TQM และ TQR สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างมูลค่าให้แก่ลูกค้าได้ต่อไป
จากแนวทางการเติบโตที่วางไว้ตามกลยุทธ์ของบริษัท คาดว่าจะทำให้ TQM สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการสร้างการเติบโตของยอดขายเบี้ยประกันในปี 2565 รวมประมาณ 29,000 ล้านบาท