วิลล่า คุณาลัย ยึดหัวหาดทำเลบางบัวทอง ผุดโครงการใหม่ คุณาลัย พาร์โก้ รองรับลูกค้ายุค new normal พร้อมรุกทำเลใหม่ เตรียมเปิดตัวคุณาลัย นาวาร่า ย่านบางขุนเทียน ตั้งเป้าปี 65 ทำ New High โกยยอดขาย 1,800 ล้าน
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2564 โดยมองว่าสถานการณ์ในปัจจุบันได้พ้นจุดที่ต่ำสุดมาแล้ว ขณะที่ภาครัฐยังคงดำเนินนโยบาย “งบประมาณขาดดุล” มีการลงทุนที่สำคัญของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น รถไฟฟ้า ถนน ทางด่วน ซึ่งส่งผลต่อการหมุนเวียนของกระแสเงินภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายกระตุ้นช่วยเหลือโครงการต่างๆ ทยอยออกมาต่อเนื่อง เช่น การลดภาระค่าใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง การท่องเที่ยว และอื่นๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อได้ รวมถึงการเปิดรับชาวต่างชาติ ทำให้ภาพรวมของทุกอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นค่อนข้างชัดเจนในทุกด้าน
สำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทที่เน้นการลงทุนในจังหวัดนนทบุรี โดยเฉพาะทำเลบางบัวทองซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีการแข่งขันที่หลากหลายมากขึ้นในทุกระดับสินค้า ผู้บริโภคมีโอกาสได้เลือกที่อยู่อาศัยตามสไตล์ชีวิตของตนเอง ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากผลกระทบของโควิด-19 และฝุ่นมลภาวะในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ามองหาบ้านแนวราบมากขึ้น
ทำเลบางบัวทองจึงโดดเด่น ในแง่ของราคาที่ไม่แพงเกินไป ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันจะมุ่งเน้นที่อยู่อาศัยที่มีความคุ้มค่า สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบทุกมิติ และเป็นระดับราคาที่จับต้องได้ ซึ่งโครงการของบริษัทสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างลงตัว
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “คุณาลัย พาร์โก้” ซึ่งถือว่าเป็นโครงการบ้านสไตล์โมเดิร์น อิตาเลียน แห่งแรกในโซนบางบัวทอง โดยชูคอนเซ็ปต์หลักของโครงการ คือครอบครัวที่อยู่ร่วมกันหลากหลายเจนเนอเรชั่น (Gen) ในบ้านหลังเดียว ในระดับราคาเริ่มต้นที่ 4.79 ล้านบาท ถือเป็นบ้านราคาสูงที่สุดของคุณาลัย
สำหรับโครงการ “คุณาลัย พาร์โก้” เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น อิตาเลียน รวมจำนวน 96 ยูนิต บนที่ดิน 21 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ประกอบด้วย 1. LUCCA มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 150 ตารางเมตร 2.COMO ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 170 ตารางเมตร และ 3. VERONA ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 200 ตารางเมตร
“กลยุทธ์หลักของบริษัทคือการพัฒนาตัวสินค้าให้ขายตัวเองได้ด้วยความ “คุ้มค่า น่าซื้อ” ซึ่งเป็นจุดแข็งของสินค้าเรา และการตลาดที่มีความเฉพาะสำหรับกลุ่มฐานลูกค้าที่เก่า ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการแนะนำ บอกต่อ หรือชักชวนกันมาอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน” นางประวีรัตน์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการอยู่ในระหว่างการขายและพัฒนาในโซนบางบัวทองทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,600 ล้านบาท ซึ่งมีโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วบางส่วน และยังคงมีสินค้าเหลือขายพร้อมรับรู้รายได้อีก จำนวน 615 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,220 ล้านบาท
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีที่ดินดิบในโซนดังกล่าวคงเหลืออีกประมาณ 60 ไร่ ซึ่งหากนำมาพัฒนาโครงการ คาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 1,800 ล้านบาท รองรับการเติบโตในอนาคตได้อีกประมาณ 5-7 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันบริษัท ยังมีนโยบายที่จะมองหาที่ดินในจังหวัดนนทบุรีโซนอื่นเพิ่ม เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้มุ่งหาที่ดินบริเวณอำเภอบางใหญ่ เนื่องมองว่าดีมานด์ที่อยู่อาศัยในโซนดังกล่าวยังมีแนวโน้มการเติบโตได้ต่อเนื่อง
บริษัทยังมี Business model และ vision ในการขยายธุรกิจไปใน 2 ทิศหลักๆ ประกอบด้วย ทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ (ฉะเชิงเทรา) และทิศใต้ของกรุงเทพฯ (บางขุนเทียน) ซึ่งทั้ง 2 ทำเลดังกล่าว มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง เพราะเป็นแหล่งงานจากการพัฒนาของเมือง และการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจต่างๆ อีกทั้งยังมีการคมนาคมที่สะดวก
ขณะเดียวกันในปีนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายการพัฒนาโครงการเพื่อต่อยอดไปยังทิศที่ 4 คือทิศเหนือของกรุงเทพฯ อาทิ ปทุมธานี และรังสิต เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งหากแผนกลยุทธ์ดังกล่าวสำเร็จ จะส่งผลให้”บริษัท” มีโครงการบ้านภายใต้ “ วิลล่า คุณาลัย” ครบทั้ง 4 ทิศตามแผนที่วางไว้
สำหรับโครงการใหม่ที่มีแผนเตรียมเปิดตัวในปีนี้นอกจากโครงการคุณาลัย พาร์โก้แล้วยังมีอีก 2 โครงการ คือ 1.โครงการ คุณาลัย เดซี่ อยู่ในโซนบางบัวทอง มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท เป็นโครงการที่บ้านแฝดและบางเดี่ยว ราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ขายดีที่สุด โดยการพัฒนาจะเน้นเรื่อง “ตัดส่วนเกิน เพิ่มเติมส่วนขาด” เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในบ้านเพิ่มขึ้น และ 2.โครงการคุณาลัย นาวาร่า บริเวณย่านบางขุนเทียน บนพื้นที่ 150 ไร่ ราคาขาย 6-8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ทั้ง 2 โครงการจะเปิดขายเร็ว ๆ นี้
สำหรับปี 2565 บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะทำตัวเลข New High ต่อไป โดยได้ตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น 15-20 % จากปี 2564 และตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,800 ล้านบาท เติบโตจากปี 2564 ที่ 1,510 ล้านบาท พร้อมทั้งยังตอกย้ำว่าในปีนี้จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลกำไรของบริษัทอย่างชัดเจน หลังจากที่ได้ลงทุนมาต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทมี Backlog มูลค่า 430.79 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในปีนี้ทั้งหมด