ออริจิ้น ส่งบ้านแนวราบเป็นเรือธง ชิงยอดขายปี 63 เตรียมเปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่า 8,800 ล้านบาท ลุยตลาดครึ่งปีหลัง
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า แม้ออริจิ้นจะเริ่มต้นจากธุรกิจพัฒนาคอนโดมิเนียม แต่หลังจากเริ่มพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรภายใต้แบรนด์บริทาเนียมาเป็นเวลา 3 ปี บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จึงจะให้ธุรกิจบ้านจัดสรรภายใต้ บริษัท บริทาเนีย จำกัด เป็นเรือธง (Flagship) และกลไกในการสร้างการเติบโตของธุรกิจ (Growth Engine) ที่สำคัญของเครือออริจิ้นในปี 2563 นี้
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในปี 2563 มูลค่าโครงการรวม 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 10 โครงการ มูลค่ารวม 12,100 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 61% ถือว่าเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีที่แล้ว และนับเป็นปีแรกตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทที่มีการเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรมากกว่าคอนโดมิเนียม โดยคาดว่าทั้งปีจะมียอดโอนกรรมสิทธิ์จากธุรกิจบ้านจัดสรรประมาณ 5,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36% ของเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์ 14,000 ล้านบาทในปีนี้
ด้านนางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย ผู้พัฒนาธุรกิจบ้านจัดสรรในเครือออริจิ้น เปิดเผยว่า เพื่อให้บริษัทสามารถพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรสไตล์ “โมเดิร์น บริทิช” ตอบโจทย์ตลาดได้ทุกเซ็กเมนท์ ปีนี้บริษัทจึงจะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ถึง 3 แบรนด์ ได้แก่ 1.ไบรตัน แบรนด์ทาวน์โฮมระดับราคาประมาณ 2-5 ล้านบาท 2.แกรนด์บริทาเนีย แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับราคา 7-10 ล้านบาท 3.เบลกราเวีย แบรนด์บ้านเดี่ยวพรีเมียมระดับราคา 10-35 ล้านบาท เมื่อรวมกับแบรนด์ดั้งเดิมอย่างบริทาเนีย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์การพัฒนาแบบ Mixed Products ผสมผสานทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ในโครงการเดียว ระดับราคา 3-7 ล้านบาท จะทำให้บริษัทมี 4 แบรนด์ ครอบคลุม 4 เซ็กเมนท์หลักของตลาดบ้านจัดสรร
ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกไปแล้วจำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,300 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการแกรนด์บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท 2.โครงการบริทาเนีย สายไหม มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท สำหรับอีก 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,800 ล้านบาท จะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ในปีต่อๆ ไป ตั้งเป้าจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 20-30% ของมูลค่าโครงการที่เปิดตัวในปีก่อนหน้า