fbpx
พิมนารา ธรรมสาสตร์รังสิต scaled

พรีบิลท์ ชูจุดขาย สไตลิสต์ ดีเวลลอปเปอร์ สร้างความต่างมัดใจลูกค้า

พรีบิลท์ ตั้งเป้า 5 ปี ขยายโครงการครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ชี้ตลาดบ้านแนวราบยังโตต่อเนื่องแต่แข่งขันสูง ชูจุดเด่นสไตลิสต์ ดีเวลลอปเปอร์ เตรียมเปิดโครการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการมูลค่ารวม 1,500 ล้าน แย้มแผนลงทุนโครงการบ้านหรูระดับราคา 100 ล้านบนถนนสุขุมวิท

นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น เนื่องจากที่อยู่อาศัยถือเป็นปัจจัยสี่ที่ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย (Real Demann) โดยเฉพาะในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมีความต้องการที่สูงมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมก็มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้โดยจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ

“โครงการบ้านแนวราบยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคจนก่อสร้างไม่ทันต่อความต้องการ แต่ขณะเดียวกันการแข่งขันในตลาดก็มีสูงขึ้น เพราะผู้ประกอบการหันมาพัฒนาโครงการบ้านแนวราบกันมากขึ้น ขึ้นอยู่กับใครจะพัฒนาสินค้าได้ตรงกับความต้องการและสามารถคุมต้นทุนได้ดีกว่ากัน สำหรับบริษัทมีจุดแข็งตรงมีบริษัทรับเหมาเองสามารถคุมต้นทุนได้ดีกว่า ในราคาขายเดียวกันจึงสามารถให้ได้มากกว่า นอกจากนี้จะเน้นการเข้าเซ็กเมนต์ที่ถูกต้อง และสร้างความแตกต่างในสไตล์ที่เป็นของตัวเองภายใต้แนวคิดของกมารเป็นสไตล์ลิสต์ดีเวลลอปเปอร์” นายวิโรจน์กล่าว

สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทในช่วง 5 ปีหลังจากนี้ บริษัทตั้งเป้าพัฒนาโครงการให้ครบทุกเซ็กเมนต์ ทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และโฮมออฟฟิศ โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยปัจจุบันบริษัทได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบและมีแผนจะพัฒนาต่อเนื่อง ใน 2 กลุ่ม ได้แก่ บ้านเดี่ยว ราคา 5-10 ล้านบาท และ15-20 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ปัจจุบันได้มีการพัฒนามีโครงการบ้านหรูรวม 6 โครงการ เปิดการขายไปแล้ว 1 โครงการ อยู่ระหว่างขาย 3 โครงการ และเตรียมที่จะเปิดโครงการใหม่ในปี 2566 อีก 2 โครงการ รวมมูลค่า 1,500 ล้านบาท ได้แก่

โครงการ “พิมนารา ศาลายา” เป็นบ้านเดี่ยวทั้งโครงการจำนวน 77 ยูนิต ราคา 5.5 -7 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวช่วงไตรมาสที่ 3

โครงการ “พรรณนา ทวีวัฒนา” บ้านเดี่ยวขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป จำนวน 51 ยูนิต ราคา 15 -19 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดตัวช่วงไตรมาสที่ 4

นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการบ้านระดับราคา 100 ล้านบาทต่อหลัง ทำเลในเมืองบนถนนสุขุมวิทไม่เกินทองหล่อ ระดับราคาที่ดินไม่เกินล้านต่อตารางวา ขนาดที่ดินประมาณ 3 ไร่ขึ้นไป ประมาณ 10 ยูนิต ยูนิตละประมาณ 70 ตร.วา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดหาที่ดิน

พิมนารา ศรีนครินทร์-บางนา

ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,300 ล้านบาท และรายได้ 1,100 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20% จากปี 2565 ที่มีรายได้ 800 ล้านบาท ขณะที่รยได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่างานในมือเข้ามากว่า 3,000 ล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่กว่า 6,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องไปอีกในปีต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่งานที่บริษัทรับเข้ามาจะใช้ระยะเวลาในการรับรู้รายได้ราว 2 ปี และยังมีงานที่คาดว่าจะได้จากการประมูลในปีนี้อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท

บริษัทมองว่าในช่วง 3 ปีข้างหน้า สัดส่วนกำไรของบริษัท พรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จะเพิ่มขึ้นมาในระดับที่ใกล้เคียงกับกับกำไรของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ 50:50 จากปัจจุบันที่สัดส่วนกำไรยังมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นธุรกิจที่มีงานรับรู้เข้ามามาก และมีสัดส่วนรายได้ที่ 80% ขณะที่บริษัท พรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มีสัดส่วนรายได้ที่ 20% ทำให้เมื่อมีการพัฒนาโครงการใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นในอนาคต จะทำให้บริษัท พรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามมา และเป็นธุรกิจที่ให้มาร์จิ้นสูงกว่าธุรกิจรับเหมาะก่อสร้าง