ลลิลฯ ชี้เมกะโปรเจ็กต์คมนาคมบูมกรุงเทพฯโซนใต้ เร่งผุด 2 โครงการใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม มูลค่ากว่าพันล้าน ชี้การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่เอื้อต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ พร้อมรับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้กระจายการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในทำเลที่เป็นย่านเศรษฐกิจโดยรอบกรุงเทพมหานคร เพราะเล็งเห็นถึงความพร้อมกับปัจจัยที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยที่มากคุณภาพ โดยหนึ่งในทำเลที่มีการพัฒนาโครงการเมกะโปรเจ็กต์ระดับประเทศในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาก็คือโซนกรุงเทพฯใต้ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าหากโครงการระดับเมกะโปรเจ็กต์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาแล้วเสร็จจะทำให้ย่านดังกล่าวมีความพร้อมที่จะกลายเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งใหม่ของประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อปัจจัยด้านคมนาคมและด้านสาธารณูปโภคต่างๆ มีศักยภาพที่ครบครัน ก็จะสามารถทำให้เอื้อต่อการพัฒนาสู่ชุมชนเมืองที่มากคุณภาพในอนาคตได้เป็นอย่างดี
“ปัจจุบันผู้บริโภคค่อนข้างเห็นคุณค่าและปรับเปลี่ยนความคิดมาเลือกซื้อบ้านแนวราบเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลช่วยกระตุ้นกำลังซื้อคือความสะดวกสบายในด้านการคมนาคม ที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างใจกลางเมืองสู่ย่านชานเมืองได้อย่างคล่องตัวและสามารถเลือกเดินทางได้หลายทางเลือกมากขึ้น อีกทั้งทัศนคติของผู้บริโภคในการให้คำนิยามคำว่า ‘บ้าน’ เปลี่ยนไปจากอดีตที่จะเน้นเพื่อการอยู่อาศัยเป็นหลัก
แต่ปัจจุบัน ‘บ้าน’ จะต้องเป็นมากกว่าบ้านในอดีต ต้องมีฟังก์ชันที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้สามารถทำงานที่บ้านได้ มีมุมสันทนาการของสมาชิกในครอบครัว และที่สำคัญต้องเป็นเซฟโซนให้ทุกคนในบ้านสัมผัสได้ถึงความปลอดภัยจากโรคอุบัติใหม่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จากการเปลี่ยนแปลงของมุมมองผู้บริโภคดังกล่าวทำให้บริษัทได้นำปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเหล่านั้นมาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ผู้พักอาศัยมากยิ่งขึ้น” นายชูรัชฏ์ กล่าว
นอกจากจะสร้างสรรค์แนวคิดที่โดดเด่นในเรื่องการออกแบบภายในสู่ภายนอกแล้ว เรื่องทำเลและที่ตั้งของโครงการก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญอย่างมาก “การพัฒนาโครงการใหม่ของบริษัทจะต้องตั้งอยู่ในย่านที่สามารถอยู่อาศัยได้อย่างมีคุณภาพในทำเลรอบๆ กรุงเทพฯ และหนึ่งในทำเลที่น่าจับตาในปัจจุบันก็คือโซนกรุงเทพฯ ใต้ ซึ่งนอกจากจะเป็นย่านที่อยู่อาศัยแล้ว ยังเป็นย่านที่มีแหล่งอุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจ SMEs เกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้แบรนด์ต่างๆ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ แหล่งสถานศึกษาชื่อดัง หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เล็งเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจเพื่อรองรับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ส่งผลให้ปัจจุบันโซนกรุงเทพฯใต้ เกิดการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมหลายโปรเจ็กต์ อาทิ การพัฒนาถนนเส้นหลัก 14 เลน การพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570 ทางพิเศษเส้นพระราม3 – ดาวคะนอง – วงแหวนตะวันตก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 และมอเตอร์เวย์ สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568 ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้โซนกรุงเทพฯ ใต้ จะกลายเป็นหนึ่งในแหล่งที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่ต้องการครอบครองอย่างแน่นอน
ล่าสุด ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้ทุ่มงบกว่า 1,100 ล้านบาท พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ ‘แลนซีโอ คริป 2 สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ 90’ และโครงการทาวน์โฮม ‘ไลโอ สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ 90’ ในโซนกรุงเทพฯ ใต้
สำหรับโครงการบ้านเดี่ยว ‘แลนซีโอ คริป 2 สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ 90’ พัฒนาในคอนเซ็ปต์ “Perfection of Living ความสมบูรณ์แบบที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง” ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4-6 ล้านบาท โดดเด่นของดีไซน์ French Colonial Style มีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับฟังก์ชันได้อย่างอิสระ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ในครอบครัว โดยพื้นที่ใช้สอย มีขนาด 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ มาพร้อมคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ และสวนสวยสไตล์โพรวองซ์ (Provence)
โครงการนี้ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางประชาอุทิศ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน 3 สาย อย่าง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ,วงแหวนกาญจนาภิเษก และวงแหวนอุตสาหกรรม(พระราม3) เชื่อมต่อถนนสาทร และถนนพระราม 3 นอกจากนี้ยังสามารถเข้า-ออก เมืองได้ด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) และสายสีเขียว(ในอนาคต) ซึ่งยังใกล้แหล่งช็อปปิ้งอย่าง ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม3 และห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาประชาอุทิศ เรียกว่าตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคใหม่เลยทีเดียว
ส่วนโครงการทาวน์โฮม ‘ไลโอ สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ 90’ พัฒนาในคอนเซ็ปต์ “Happiness of Living ความสุขที่ลงตัวกับทุกความต้องการของการใช้ชีวิต” ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2-4 ล้านบาท ประกอบไปด้วยห้องอเนกประสงค์รองรับคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์รักความอิสระ กับฟังก์ชันการใช้งานที่ Flexible function สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นห้อง Work From Home ,Online Learning หรือแม้กระทั่งปรับมาเป็นห้องผู้สูงอายุรับสังคมสูงวัยในอนาคต โดยพื้นที่ใช้สอย มีขนาด 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ มาพร้อมคลับเฮ้าส์+ฟิตเนสวิวสวน นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณส่วนกลางให้มีขนาดที่กว้างขึ้นเพื่อลดการเกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 อีกด้วย เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยก็สามารถอุ่นใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง