fbpx
โนเบิล เคิร์ฟ

โนเบิล เปิดคอนโดใหม่ พร้อมอัดโปรปลุกตลาดส่งท้ายปี

โนเบิล เตรียมเปิดตัวคอนโด นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ ริมเจ้าพระยามูลค่า 4,650 ล้านบาท พร้อมอัดโปรกระตุ้นยอดขาย 6 โครงการบ้าน-คอนโดพร้อมอยู่ก่อนหมดมาตรการผ่อนคลาย LTV เผยตลาดอสังหาฯฟื้นตัวชัด 9 เดือนโกยยอดขายไปแล้วกว่า 1.4 หมื่นล้าน

นายศิระ อุดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทยังเดินหน้าเปิดอีก 2 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการ โนเบิล เคิร์ฟ ที่ได้เปิดขายไปแล้วในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 3,600 ล้านบาท ทำเลติดถนนใหญ่ เลียบทางด่วน เอกมัย รามอินทรา ราคาขายเริ่มต้นที่ 12.5-28.8 ล้านบาท พร้อมส่วนลดช่วง Pre-Sale สูงสุด 1 ล้านบาท และล่าสุดคือ โครงการ นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ ซึ่งเป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ทริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของบริษัทมูลค่า 4,650 ล้านบาท โดยจะเปิดเปิดจองเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อก่อนที่จะหมดมาตรการ LTV บริษัทได้จัดแคมเปญใหญ่กระตุ้นยอดขาย บ้านและคอนโดพร้อมอยู่ใน 6 โครงการ ได้แก่ โครงการโนเบิล บี ไนน์ทีน, โนเบิล แอมเบียนส์ สุขุมวิท 42, โนเบิล เกเบิล วัชรพล, นิว โคฟ นอร์ธ ราชพฤกษ์, นิว คอนเน็กซ์ เฮาส์ ดอนเมือง และนิว โนเบิล ศรีนครินทร์-ลาซาล ราคาขายเริ่ม 1.69-25 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นเซอร์ไพรส์ในแต่ละสัปดาห์ที่สำนักงานขายตั้งแต่ 1-20 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งมั่นใจว่าแคมเปญดังกล่าวจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในขณะนี้ และทำให้โนเบิล กวาดยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้

นายศิระ กล่าวอีกว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.2565) ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยมีการฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ และมาตรการรองรับจากทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่เข้ามาช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้แก่ผู้บริโภค อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ยังไม่ได้ปรับสูงขึ้นไปมากนัก ส่งผลให้ตลาดตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลที่มีศักยภาพสูง อาทิ ทำเลใกล้รถไฟฟ้า หรือใกล้ห้างสรรพสินค้า และแหล่งรวมคอมมูนิตี้ต่างๆ

สอดคล้องกับการที่บริษัทได้เปิดพรีเซลโครงการต่างๆ ไปในช่วงต้นปีส่งผลให้มียอดขายในช่วง 9 เดือน เท่ากับ 14,037 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 154% หรือเพิ่มขึ้น 8,500 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงทางด้านการขาย โดยยอดขายหลักที่เกิดขึ้น มาจากโครงการซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีมาก กวาดยอดขายกว่า 50-60% ของมูลค่าโครงการ เช่น โครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9, นิว เมกา พลัส บางนา, นิว อีโว อารีย์ และ โครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ซึ่งปิดการขายไปเรียบร้อยแล้วภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน