ไฮเออร์ (ประเทศไทย) มียอดขาย 9 เดือนแรก ปี 2567 กว่า 4,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 9% สำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน และยอดขาย 890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%สำหรับเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิช พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนจัดงาน“Air Condition Dealer Conference 2024”
มร. ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง การจัดงานประชุมผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศประจำปี 2567 ว่า “จากผลประกอบการไตรมาส 3 ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศไฮเออร์ในปีนี้ ที่มีการเติบโตขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัดเจน ด้วยยอดขายรวมมากถึง 5,300 ล้านบาท ซึ่งเติบโตมากกว่าปี 2566 ทั้งปี ทำให้ปัจจุบัน ไฮเออร์มีส่วนแบ่งทางการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศกว่า 9% ในปีนี้ สะท้อนถึงความเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศในไทยที่แข็งแกร่ง ที่ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์การดำเนินงานที่รอบด้าน รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม พัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในด้านผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพและมีความทันสมัย และยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ ๆ ที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ตามแนวคิด “More Creation, More Possibilities”
มร. ต่ง เจี้ยนผิง กล่าวเสริมว่า “ด้านสินค้าเครื่องปรับอากาศภายในบ้านมีการตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 5,500 ล้านบาท และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์อยู่ที่ 1,108 ล้านบาท ในปี 2568 พร้อม มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในด้านส่งเสริมสุขภาพให้กับผู้บริโภคหลายหลายยิ่งขึ้น และเดินหน้าเจาะกลุ่มตลาด B2B มากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในรูปแบบเมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูส ที่ทยอยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่การค้าสำคัญทั้งในกรุงเทพฯ หรือเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวของไทย อีกทั้งยังมีกลยุทธ์การเปิด Haier Thailand Training Center ซึ่งเป็นศูนย์รวมโซลูชันต่าง ๆ ของเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ที่จะมีการแสดงวิธีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในรูปแบบต่าง ๆ และยังเป็นศูนย์ฝึกอบรมการติดตั้งและรื้อถอนเครื่องปรับอากาศครบวงจร ที่สามารถเรียนได้พร้อมกันสูงสุดครั้งละ 100 คน ตอกย้ำผู้นำระดับโลกทางด้านนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับตอบโจทย์ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นของผู้บริโภค”