เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทำรายได้รวม 13,483 ล้านบาท โต 21% และกำไรสุทธิ 4,556 ล้านบาท โต 24% จากปีก่อน ปี 2567 เดินหน้าเปิดตัวโครงการ Residence ใหม่ 10 โครงการทั้งแนวราบและแนวสูงบนทำเลศักยภาพทั่วประเทศ มูลค่าโครงการรวม 13,430 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัว “ESCENT BANGNA” ใกล้โครงการมิกซ์ยูสเซ็นทรัล บางนาเพียง 500 เมตร พร้อมเดินหน้าแผนงานและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน สร้างความแข็งแกร่งให้ทั้งระบบธุรกิจ ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้โมเดล ‘The Ecosystem for All’ ระบบที่ทุกคน ทุกฝ่าย เติบโตไปด้วยกันอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชีและบริหารความเสี่ยงบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส 2 ยังคงได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโต โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 17.5 ล้านคน ในครึ่งแรกของปี ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 35-36 ล้านคน ในปีนี้ และจากการพัฒนาโครงการรูปแบบผสม (Mixed-use Development) ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัททำให้ผลประกอบการไตรมาส 2 เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง เป็นผลมาจากพื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้นของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ เซ็นทรัล นครสวรรค์ และเซ็นทรัล นครปฐม รวมถึงรายได้จากธุรกิจที่พักอาศัยที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 13,483 ล้านบาท โต 21% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,556 ล้านบาท โต 24% จากปีก่อน
ทั้งนี้ หลังจากเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเอสเซ็นท์ นครสวรรค์ และนครปฐม ในไตรมาสที่ 1 เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ครบครันยิ่งขึ้น โดยเปิดขายในวันเดียวกับการเปิดตัวศูนย์การค้า ณ สิ้นไตรมาส 2 ทั้ง 2 โครงการมียอดขายแล้วกว่า 90% และ 100% ตามลำดับ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทมีอัตราการขายที่พักอาศัยที่ค่อนข้างสูงในไตรมาสนี้ และล่าสุดบริษัทได้เปิดขายคอนโดเอสเซ็นท์ บางนา ซึ่งอยู่ห่างจากเซ็นทรัล บางนา ประมาณ 500 เมตร เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังตอกย้ำบทบาท Global Player ขยายโมเดลธุรกิจ The Ecosystem for All สู่ระดับโลก ฉลองความสำเร็จครอบรอบ 5 ปี Central i-City (เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้) ศูนย์การค้าไทยในต่างประเทศเซ็นทรัลพัฒนา เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา บุกเบิกจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์ระดับโลกให้กับย่านเศรษฐกิจสำคัญด้านตะวันตกของกัวลาลัมเปอร์ พร้อมนำความเชี่ยวชาญในธุรกิจรีเทลและอสังหาริมทรัพย์สร้างความเติบโตให้กับพันธมิตรทั้งไทยและมาเลเซีย
พร้อมกันนี้ ยังวางแผนระยะยาวในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมสร้างปรากฏการณ์พัฒนาโครงการ “The World’s New Magnitude” โดยจะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสจำนวน 5 โครงการ มีพื้นที่ทุกโครงการรวมกันกว่า 2.2 ล้านตร.ม. ประเดิมโครงการแรกคือ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตใกล้ชิดพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง โดยในเดือนกันยายนปีนี้ เตรียมพบกับโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ พร้อมเปิดส่วนอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า Central Park ในปี 2568 ขณะเดียวกัน เซ็นทรัลพัฒนายังเดินหน้าสร้างระบบธุรกิจที่แข็งแกร่งภายใต้โมเดล ‘The Ecosystem for All’ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมทั้งมิติ ของ People (ด้านชุมชน และสังคม) และ Planet (ด้านสิ่งแวดล้อม) ผ่านโปรเจ็กต์ต่างๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล
ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 เซ็นทรัลพัฒนา มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด 42 โครงการ (ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 40 แห่ง – ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 16 โครงการ ต่างจังหวัด 23 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ; ศูนย์การค้าเอสพละนาด 1 แห่ง; และศูนย์การค้าเมกา บางนา ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 36 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 9 แห่ง โครงการที่พักอาศัย 37 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL และ BELLE GRAND RAMA 9 และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN (ทาวน์โฮม) ESCENT AVENUE (โฮมออฟฟิศ) NINYA (บ้านแฝด) NIYAM (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการแนวราบหลากหลายรูปแบบภายใต้แบรนด์ NIRATI และ BAAN NIRADA