RT เผยทิศทางครึ่งปีหลัง 2567 มั่นใจเติบโตแข็งแกร่ง รับรู้รายได้จาก Backlog ต่อเนื่อง เดินหน้าแผนเข้ารับงานใหม่ ลุยประมูลงานภาครัฐ-เอกชน มุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพงานก่อสร้าง เร่งส่งมอบงานตามกำหนด ควบคุมต้นทุนก่อสร้าง-แรงงาน รักษาความสามารถการทำกำไรในระดับที่ดี มั่นใจรายได้โตตามเป้าหมาย 20%
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธา งานขุดเจาะอุโมงค์ และ ธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผยถึง ทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตจากการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการก่อสร้างในมืออย่างต่อเนื่อง โดยงานก่อสร้างประเภทอุโมงค์ยังคงมีสัดส่วนมากที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วย งานโครงการในพื้นที่ต่างจังหวัด อาทิ โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว จังหวัดแพร่, โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย จังหวัดพะเยา และ โครงการก่อสร้างอุโมงค์ดินอ่อนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เช่น งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำตามแนวคลองมหาสวัสดิ์ และ งานก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนา บริเวณคอขวด
นอกจากนี้ยังมีงาน Slope Protection ซึ่งเป็นการต่อยอดจากงานโครงสร้างเดิม และเป็นงานที่มีแนวโน้มความต้องการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 3 จังหวัดเชียงราย ซึ่งสามารถทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการเข้าประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานและโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จากภาครัฐ และเอกชน อาทิ งานอุโมงค์รถไฟทางคู่ , งานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินโดยวิธี HDD และ Pipe Jacking, งาน Slope Protection และ งานปรับปรุงฐานราก นอกจากนี้ยังมีงานโครงการก่อสร้างอุโมงค์ถนน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568
“ครึ่งปีหลัง 2567 จะเป็นช่วงที่เราได้เห็นความเคลื่อนไหวของแผนการเปิดประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง จากการอนุมัติงบประมาณของภาครัฐในปี 2567 และ 2568 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทมีความพร้อมในการเข้ารับงานที่หลากหลาย ด้วยความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างเฉพาะทาง บุคลากร เครื่องจักร และ อุปกรณ์ก่อสร้างที่มีมาตรฐาน โดยงานทั้งหมดที่คาดว่าจะได้รับเป็นการสะท้อนราคาต้นทุนใหม่ และ จะเพิ่มมูลค่างานในมือให้เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี Backlog จำนวน 7,332 ล้านบาท สามารถทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2570
ประกอบกับการพัฒนาประสิทธิภาพภายในบริษัท ทั้งการดำเนินงานก่อสร้าง การบริหารต้นทุนก่อสร้างจากการวางแผนการสั่งซื้อวัสดุ และ การจัดการแรงงานก่อสร้างได้เป็นอย่างดี ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 20%และ รักษาความสามารถในการทำกำไรในระดับที่ดีต่อเนื่อง” นายชวลิต กล่าว